ชัชชาติ เปิดตัวทีมรองผู้ว่าฯ-ที่ปรึกษา ลุยงานทันที ดัน 214 นโยบาย
![ชัชชาติ เปิดตัวทีมรองผู้ว่าฯ-ที่ปรึกษา ลุยงานทันที ดัน 214 นโยบาย](http://s.isanook.com/ns/0/ud/1714/8570334/chatchat-colleagues.jpg?ip/crop/w728h431/q80/jpg)
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยรายชื่อทีมรองผู้ว่าราชการ 4 คนเมื่อวันพุธ (1 มิ.ย.) ได้แก่
- นายจักกพันธุ์ ผิวงาม อายุ 66 ปี เคยเป็นปลัดกรุงเทพมหานครและรองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร
- นายวิศณุ ทรัพย์สมพล อายุ 54 ปี เคยเป็นผู้บริหารคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์วิทยาลัย และผู้บริหารบริษัทเอกชนด้านอสังหาริมทรัพย์
- นางสาวทวิดา กมลเวชช วัย 50 ปี เคยเป็นผู้บริหารคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และเป็นผู้เชี่ยวชาญภัยพิบัติ
- นายศานนท์ หวังสร้างบุญ อายุ 33 ปี นักกิจกรรมด้านชุมชน องค์กรนอกภาครัฐ (เอ็นจีโอ) และสิ่งแวดล้อม
นอกจากนี้ นายชัชชาติ ยังเปิดเผยชื่อที่ปรึกษาอีก 9 คน ดังนี้
- นายต่อศักดิ์ โชติมงคล ประธานที่ปรึกษา
- นางเกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ ด้านยุทธศาสตร์
- พลเอก นิพัทธ์ ทองเล็ก อดีตปลัดกระทรวงกลาโหม
- พลอากาศโท อนุตตร จิตตินันทน์ ด้านสาธารณสุข
- พลตำรวจเอก อดิศร์ งามจิตสุขศรี ดูแลด้านการท่องเที่ยวและการประสานงาน
- นางสาววิลาวัลย์ ธรรมชาติ ดูแลด้านการประสานงานกลุ่มการเมือง
- นายอรรถเศรษฐ์ เพชรมีศรี ดูแลด้านโครงสร้างพื้นฐานและการระบายน้ำ
- นายภาณุมาศ สุขอัมพร ดูแลด้านคนพิการและการออกแบบสาธารณูปโภคเพื่อคนทุกกลุ่ม
- นายพรพรหม วิกฤษเศรษฐ์ ดูแลด้านเศรษฐกิจสร้างสรรค์และเทคโนโลยี
ลุยนโนบายด่วนแม้งบจำกัด
ผู้ว่าราชการกรุงเทพ คนที่ 17 กล่าวว่า แม้กรุงเทพมหานครมีทีมผู้บริหารใหม่ แต่นโยบายต่างๆ ที่ทำไว้ก่อนหน้านี้ยังคงไว้เหมือนเดิม ไม่มีการโอนอ่อน ท่ามกลางกระแสข่าวที่มีผู้ค้าแผงลอยเริ่มกลับมารุกล้ำทางเท้าอีกครั้ง
ส่วนปัญหาเร่งด่วนที่ได้รับความสนใจอีกเรื่อง คือ สัญญารถไฟฟ้าสายสีเขียวนั้น จะเชิญตัวแทนจาก กรุงเทพธนาคม บริษัทของกรุงเทพมหานคร มาให้ข้อมูลเกี่ยวกับสัญญาที่ทำกับเครือบีทีเอส ในวันพฤหัสบดี (2 พ.ค.)
นายชัชชาติ ตอบคำถามสื่อมวลชนที่มีคำถามเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่จะทำนโยบาย 214 ข้อที่หาเสียงไว้ให้เป็นจริง ท่ามกลางงบประมาณของกรุงเทพมหานครที่เหลืออยู่ไม่มาก ว่ายอมรับว่างบประมาณของกรุงเทพมหานครน้อยลงจริง จากการแก้กฎหมายระดับชาติเกี่ยวกับภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง แต่นโยบายกว่า 200 ข้อดังกล่าวใช้เงินไม่มาก และเริ่มทำได้เลย
"เรารู้อยู่แล้วว่าเรามีข้อจำกัดเรื่องงบประมาณ เราจะเห็นว่าไม่ได้มีพวกเมกะโปรเจกต์อะไรอยู่ในนี้อะ งั้นก็คงต้องจัดความสำคัญก่อน อะไรที่จัดเรื่อง... ทำเรื่องที่ไม่ต้องใช้เงินทำก่อนเลย อย่างเช่นที่เราทำอาทิตย์ที่แล้วตัวแอปที่สามารถแจ้งเหตุ ประชาชนแจ้งเหตุได้เนี่ย ไม่ได้ใช้เงินสักกะบาทเลย แต่สามารถมีข้อร้องเรียนเข้ามา 20,000 กว่าเรื่องได้ งั้นหลายๆ เรื่องเนี่ย เทคโนโลยีไม่ต้องใช้เงินครับ เพราะฉะนั้นเราไม่ได้กังวลตรงนี้นะ เพราะเรารู้อยู่แล้วว่าเรามีข้อจำกัดเรื่องงบประมาณ เพราะฉะนั้นหลายๆ เรื่องเดินได้โดยไม่ต้องใช้เงิน" นายชัชชาติ กล่าว
ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครตอบคำถามสื่อมวลชนจากไต้หวัน เกี่ยวกับการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการเปิดข้อมูลภาครัฐให้ประชาชนและธุรกิจต่างๆ ใช้ประโยชน์ ที่ได้ตัวอย่างจากผลงานของ ออเดรย์ ถัง รัฐมนตรีด้านดิจิทัลของไต้หวัน ว่ากรุงเทพมหานครให้ความสำคัญในลำดับต้นและจะนำมาปฏิบัติโดยเร็ว
"ผมคิดว่าระบบราชการอิเล็กทรอนิกส์สำคัญมากต่อกรุงเทพมหานคร ผมว่าน่าจะเป็นอย่างแรกเลยที่เราทำได้ นำมาปฏิบัติได้ แล้วผมก็มีนัดกับสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล ที่รับผิดชอบด้านการนำระบบรัฐบาลดิจิทัลมาใช้ เพื่อพูดถึงความคืบหน้าที่เรามี อย่างแรกเลยคงจะเป็น Open Bangkok (โอเพ่นแบงคอก) คือเราจะเปิดข้อมูลที่สำคัญต่อธุรกิจต่างๆ และประชาชนได้ใช้ ประมาณ 2,000 ชุดข้อมูล เราจะเปิดให้สาธารณชนใช้ในรูปแบบที่ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ใช่เป็นไฟล์ .pdf เท่านั้น"
ส่วนหลังจากการแถลงข่าวครั้งนี้ นายชัชชาติมีกำหนดไปปลูกต้นไม้ 100 ต้นที่สวนเบญจกิติ เขตคลองเตย เวลา 15.00 น. ก่อนร่วมเปิดงานไพรด์มันธ์ สำหรับกลุ่มคนเพศหลากหลาย ที่สามย่านมิตรทาวน์ เขตปทุมวัน ที่ตรงกับนโยบาย 12 เดือน 12 เทศกาล ที่นายชัชชาติและทีมงานจะให้การสนับสนุนและผลักดัน