"ชัชชาติ" เชื่อไม่เกิน 1 เดือน ได้ข้อสรุปรถไฟฟ้าสีเขียว เล็งต่อรองค่าโดยสารถูกลง

"ชัชชาติ" เชื่อไม่เกิน 1 เดือน ได้ข้อสรุปรถไฟฟ้าสีเขียว เล็งต่อรองค่าโดยสารถูกลง

"ชัชชาติ" เชื่อไม่เกิน 1 เดือน ได้ข้อสรุปรถไฟฟ้าสีเขียว เล็งต่อรองค่าโดยสารถูกลง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

“ชัชชาติ” ถกด่วน “กรุงเทพธนาคม” ปมสัญญาเดินรถไฟฟ้าสายสีเขียว เชื่อต่อรองค่าโดยสารให้ถูกลงได้ เร่งศึกษาภาระหนี้ก่อนเปิดสัญญาสัมปทานต่อประชาชน ระบุขอใช้เวลา 1 เดือนเคลียร์ปม

วันนี้ (2 มิ.ย.) นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยหลังร่วมประชุมกับผู้บริหาร บริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด เพื่อหารือเกี่ยวกับปัญหารถไฟฟ้าสายสีเขียวว่า เบื้องต้นหารือเกี่ยวกับสัญญาการจ้างเดินรถ และโครงการนำสายสื่อสารลงดิน กรอบวงเงิน 1.9 หมื่นล้านบาท ที่ยังไม่คืบหน้ามาก หาผู้เช่าท่อไม่ได้ การก่อสร้างตั้งงบประมาณกว้าง ทำให้มีปัญหาเรื่องการหารายได้ คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายใน 1 เดือน

ประเด็นสำคัญของการหารือวันนี้ คือ การไล่เรียงความเป็นมาของสัญญาจ้างเอกชนเดินรถถึงปี 2585 และการอนุมัติจากสภา กทม. ส่วนการลดอัตราค่าโดยสารให้ต่ำกว่า 65 บาท กรุงเทพธนาคมเป็นเพียงจิ๊กซอว์ตัวหนึ่ง ต้องพิจารณาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอีกครั้ง เชื่อว่าจะต่อรองให้ค่าโดยสารถูกลงได้ เพราะการต่อสัญญาสัมปทานสายสีเขียวถึงปี 2602 เป็นการต่อที่ยาวมาก โดยไม่ได้ผ่าน พ.ร.บ.ร่วมทุนฯ

สำหรับค่าโดยสาร 8 สถานี 25 บาท ถือเป็นเป้าหมายที่ต้องเร่งศึกษา แต่ต้องพิจารณาเงื่อนไขอื่นที่เกี่ยวข้องด้วย เช่น หนี้โครงสร้างพื้นฐานที่ กทม.ต้องจ่าย เป็นปัจจัยที่ทำให้กำไร-ขาดทุนต้องเปลี่ยนไป ซึ่งต้องหารือร่วมกับ กทม. กระทรวงคมนาคม และคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก (คจร.) อาจใช้กลไกของสภา กทม. ออกข้อบัญญัติเพื่อให้กู้เงินมาใช้หนี้

“ความยากของปัญหาสายสีเขียว คือ เรื่องไม่ได้ค้างอยู่ที่ กทม. จึงไม่มีสิทธิ ทำได้เพียงให้ความเห็นประกอบ ขึ้นอยู่กับว่า ครม.จะดำเนินการอย่างไร จริงๆ แล้วเรื่องมาจาก ม.44 ที่ให้ต่อสัญญา” ผู้ว่าฯ กทม. คนใหม่ ระบุ

นอกจากนี้ นายชัชชาติ ยังกล่าวว่า หนี้จากค่าจ้างการเดินรถส่วนต่อขยาย 1 และ 2 กว่า 4 หมื่นล้าน กรุงเทพธนาคมกำลังทยอยจ่าย ต้องอย่าเอาเรื่องนี้มาเป็นตัวเร่งรัดการแก้ปัญหาระยะยาว เข้าใจว่าสภา กทม.ได้ออกข้อบัญญัติเกี่ยวกับการกู้เงินเพื่อชำระหนี้ 5.5 หมื่นล้านบาท แต่ยังไม่ได้กู้ ต้องดูรายละเอียดให้รอบคอบและระมัดระวัง

ส่วนการเปิดสัญญาสัมปทานสายสีเขียว คงอาจจะเปิดตามขั้นตอนตามความจำเป็นให้เร็วที่สุด สัญญาสัมปทานที่หมดลงในปี 2572 และจะต่ออายุไปจนถึงปี 2602 เป็นความเห็นของคณะกรรมการที่ตั้งขึ้นมาตามมาตรา 44 อาจจะต้องทบทวนเรื่องนี้กับสภา กทม.อย่างละเอียด ก่อนเข้ารายงานต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยในเร็ววันนี้

ผู้สื่อข่าวถามเพิ่มเติมว่า การคืนรถไฟฟ้าสายสีเขียวให้ รฟม. ถือเป็นหนึ่งในทางเลือกหรือไม่ นายชัชชาติ กล่าวว่า ทุกอย่างเป็นทางเลือกได้หมด เราอยากจะขอเดินรถเอง และคืนหนี้โครงสร้างพื้นฐาน 4 หมื่นกว่าล้าน เพราะถือเป็นภาระหนัก ดูตัวอย่างจากรถไฟฟ้าสายสีเหลืองและสีชมพู ที่รัฐจ่ายคืนค่าโครงสร้างพื้นฐาน ทำให้ต้นทุนไม่แพงมาก

ส่วนภาคเอกชนที่ส่งสัญญาณว่าต้องแบกภาระหนี้เดือนละกว่า 600 ล้านบาท มีอยู่ 3 ส่วน ได้แก่ หนี้โครงสร้างพื้นฐานคือ งานโยธา หนี้จากระบบ E&M ที่กรุงเทพธนาคมจ้างเอกชน และหนี้การเดินรถ คงต้องเร่งหาทางแก้

“ไม่ได้มีอะไรซับซ้อน ข้อมูลมีอย่างที่เห็น แต่ต้องมาคุยกันให้ชัดเจน” ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวปิดท้าย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook