ปลดล็อกกัญชา 9 มิ.ย.นี้ ราชทัณฑ์เตรียมปล่อยนักโทษ ผู้ต้องคดี 4,103 ราย
"ปลดล็อกกัญชา" 9 มิ.ย.นี้ ราชทัณฑ์เตรียมปล่อย ผู้ต้องขัง ผู้ต้องคดี 4,103 ราย เตือนอย่าหลงเชื่อ มิจฉาชีพเรียกรับเงิน แลกช่วยเหลือปล่อยตัวเร็วขึ้น
นายธวัชชัย ชัยวัฒน์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ และโฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่า ตามที่เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง ระบุชื่อยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 พ.ศ.2565 เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2565 ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 9 มิถุนายน 2565
ส่งผลให้การผลิต นำเข้า ส่งออก จำหน่าย เสพ หรือมีไว้ในครอบครอง ซึ่งพืชกัญชา หรือการกระทำอื่นเกี่ยวกับพืชกัญชาก่อนวันที่ 9 มิถุนายน 2565 จะไม่มีความผิดอีกต่อไป ให้ผู้ที่ได้กระทำการนั้นพ้นจากการเป็นผู้กระทำความผิด และถ้าได้มีคำพิพากษาถึงที่สุดให้ลงโทษแล้วก็ให้ถือว่าผู้นั้นไม่เคยต้องคำพิพากษาว่าได้กระทำความผิดนั้น ถ้ารับโทษอยู่ก็ให้การลงโทษนั้นสิ้นสุดลง
ซึ่งผลทางกฎหมายจากการที่พืชกัญชาไม่จัดเป็นยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 ตามประมวลกฎหมายยาเสพติดให้โทษ สามารถกล่าวโดยสรุปได้ ดังนี้
- ผู้ต้องหาที่อยู่ระหว่างถูกดำเนินคดีหรือจำเลยที่อยู่ระหว่างการพิจารณาคดีจะพ้นจากการเป็นผู้กระทำความผิด
- ศาลไม่อาจขังผู้ต้องหาหรือจำเลยไว้ในระหว่างสอบสวนหรือระหว่างการพิจารณาคดีได้ หรือหากคดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลก็ต้องพิพากษายกฟ้อง
- คดีความผิดเกี่ยวกับพืชกัญชาที่มีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้ว ให้การลงโทษนั้นสิ้นสุดลง และ
- ไม่อาจนำคดีความผิดเกี่ยวกับพืชกัญชา ซึ่งศาลเคยพิพากษาถึงที่สุด ให้ลงโทษจำคุกจำเลยในคดีก่อนมาเป็นเหตุเพิ่มโทษบวกโทษได้
ทั้งนี้ สำนักงานศาลยุติธรรมได้แจ้งให้หน่วยงานในสังกัดฯ เตรียมความพร้อมโดยคดีความที่ต้องออกหมายปล่อย จะมีคำสั่งให้ทันในวันที่ 9 มิถุนายน 2565 แต่อย่างไรก็ตาม เพื่อเป็นการช่วยเหลือผู้ต้องขังให้ได้รับประโยชน์ตามกฎหมาย จึงให้เรือนจำและทัณฑสถาน ดำเนินการจัดส่งคำร้องของผู้ต้องขังที่กระทำความผิดเกี่ยวกับพืชกัญชาตามที่ได้สำรวจ ไปยังศาลที่ออกหมายจำคุกให้แก่ผู้ต้องขัง
สำหรับผู้ต้องขังที่กระทำความผิดเฉพาะคดีพืชกัญชาเพียงคดีเดียว ให้ตรวจสอบแล้วส่งรายชื่อให้ศาล เพื่อออกหมายปล่อยตัวโดยเร็ว โดยจากการสำรวจผู้ต้องขังคดีความผิดเกี่ยวกับพืชกัญชา ที่อยู่ในความรับผิดชอบของกรมราชทัณฑ์ จำนวน ทั้งสิ้น 4,103 ราย แยกเป็นผู้ต้องขังระหว่างพิจารณาคดี 884 ราย และนักโทษเด็ดขาด 3,219 ราย
นายธวัชชัย กล่าวต่อว่า ขอให้ญาติผู้ต้องขังอย่าหลงเชื่อมิจฉาชีพ ที่หลอกลวงเพื่อเรียกรับเงินในการช่วยเหลือผู้ต้องขัง ให้ได้รับการปล่อยตัว หรือให้ได้รับการปล่อยตัวเร็วขึ้น เนื่องจากกระบวนการปล่อยตัว การเปลี่ยนแปลงโทษ เรือนจำและทัณฑสถานจะช่วยเหลือผู้ต้องขังในการยื่นคำร้องขอให้ศาลออกหมายปล่อย หรือขอให้กำหนดโทษใหม่ตามแต่กรณี ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของศาล จำนวนคดี และลักษณะความผิดที่ได้กระทำ
แต่หากผู้ต้องขังหรือญาติผู้ต้องขังรายใด ต้องการสอบถามรายละเอียดการยื่นคำร้อง สามารถติดต่อได้ที่เรือนจำและทัณฑสถานที่ถูกควบคุมตัวอยู่ หรือศาลที่พิจารณาพิพากษาคดี โดยค้นหาช่องทางการติดต่อเรือนจำและทัณฑสถานได้ที่ Line Official Account กรมราชทัณฑ์ : @thaidoc