ญาติรับ 5 ศพ กระบะชนเสาไฟโค้งศาลอาญา เชื่อคนขับทำความเร็ว เพราะห่วงน้องนั่งหลังจะเปียก

ญาติรับ 5 ศพ กระบะชนเสาไฟโค้งศาลอาญา เชื่อคนขับทำความเร็ว เพราะห่วงน้องนั่งหลังจะเปียก

ญาติรับ 5 ศพ กระบะชนเสาไฟโค้งศาลอาญา เชื่อคนขับทำความเร็ว เพราะห่วงน้องนั่งหลังจะเปียก
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

กรณีเกิดอุบัติเหตุรถกระบะบรรทุกคนงาน เสียหลักพุ่งขึ้นทางเท้า ชนเสาไฟบริเวณถนนรัชดาภิเษก ฝั่งตรงข้ามศาลอาญา มุ่งหน้าแยกรัชดา-ลาดพร้าว แขวงจอมพล เขตจตุจักร กรุงเทพฯ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 5 ราย และบาดเจ็บอีก 2 ราย เหตุเกิดเมื่อช่วงเช้าวันที่ 3 มิถุนายนนั้น

ล่าสุดวันนี้ (4 มิ.ย. 65) ที่สถาบันนิติเวชวิทยาโรงพยาบาลตำรวจ น.ส.สมใจ​ กิมเต็ก อายุ 46 ปี​ เดินทางมารับศพ​นางกิ่งแก้ว อายุ 41 ปี น้องสาว เพื่อไปตั้งบำเพ็ญกุศล 3 วัน ที่วัดใหม่กรงทอง​ จ.ปราจีนบุรี ส่วนน.ส.ประกาย​ พอกพูนดี​ อายุ 49 ปี​ เป็นตัวแทนญาติ​ผู้เสียชีวิตมารับทั้ง​ 4​ ศพ​ โดยจะนำกลับไปบำเพ็ญกุศล​ ที่ วัดบ้านหนองยาง​โป่งสะเดา​ ต.ตาจง อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์​

ด้านน.ส.สมใจ เปิดเผยว่า วันนี้เดินทางมารับศพน้องสาวคือ​ นางกิ่งแก้ว โดยจะนำกลับไปบำเพ็ญกุศลที่จ.ปราจีนบุรี ทั้งนี้ก่อนเกิดเหตุไม่มีลางบอกเหตุใดๆ แต่คืนก่อนวันเกิดเหตุทางน้องสาวได้ทะเลาะกันกับแฟนคือนายอนงค์ คนขับรถจึงบอกให้ตนมารับกลับบ้านที่จ.ปราจีนบุรี แต่ก็ไม่คาดคิดว่าจะต้องมารับน้องสาวแบบนี้ ซึ่งปกติหากทะเลาะกันเช้าวันรุ่งขึ้นก็จะดีกัน จากการสอบถามทราบว่าเกิดจากอุบัติเหตุ เพราะนายอนงค์อาจจะไม่ชินทาง ปกติจะทำงานที่ต่างจังหวัด ได้มาทำงานที่บริเวณไซต์งานก่อสร้างใกล้จุดเกิดเหตุได้ประมาณ 1 สัปดาห์ และคาดว่านายอนงค์จะห่วงน้องๆ ที่นั่งอยู่ด้านหลังรถกระบะ กลัวว่าจะเปียกฝน จึงได้เร่งขับรถเพราะใกล้ถึงที่ทำงานแล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศว่าเป็นไปด้วยความโศกเศร้า ครอบครัวและเพื่อน รวมถึงนายจ้างได้เดินทางมาติดต่อขอรับศพผู้เสียชีวิตทั้ง 5 คน เพื่อกลับไปบำเพ็ญกุศลยังภูมิลำเนา

ด้านพ.ต.อ.ชิศณุพงศ์ สุริยานนท์ ผกก.สน.พหลโยธิน เปิดเผยว่า เบื้องต้นพนักงานสอบสวนสน.พหลโยธินอยู่ระหว่างดำเนินการสอบปากคำผู้บาดเจ็บ ส่วนการตรวจสอบภาพกล้องวงจรปิดพบว่า รถเกิดอุบัติเหตุจากการทำความเร็วและหักหมุนจนรถเข้าไปชนเสาไฟฟ้าบริเวณดังกล่าว อย่างไรก็ตามต้องรอผลชันสูตรพลิกศพสาเหตุการเสียชีวิต และรายละเอียดการสอบปากคำระหว่างเกิดเหตุการณ์ที่ชัดเจนอีกครั้งก่อนสรุปสาเหตุการเสียชีวิตแน่ชัดต่อไป

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook