หนุ่มอายุ 18 หาเลี้ยงยายกับน้อง พ่อไปทำงานเมืองนอกแล้วมีเมียใหม่ ปล่อยบ้านถูกยึด

หนุ่มอายุ 18 หาเลี้ยงยายกับน้อง พ่อไปทำงานเมืองนอกแล้วมีเมียใหม่ ปล่อยบ้านถูกยึด

หนุ่มอายุ 18 หาเลี้ยงยายกับน้อง พ่อไปทำงานเมืองนอกแล้วมีเมียใหม่ ปล่อยบ้านถูกยึด
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

“น้องต้อง” หนุ่มอุดรฯ วัย 18 ปี สู้ชีวิตแบบไม่กลัวชีวิตสู้กลับ ต้องรับภาระทำงานหาเลี้ยงยายและน้องชาย ชีวิตสุดรันทดอาศัยอยู่ในบ้านเพิงสังกะสี ในที่สาธารณะประโยชน์ท้ายหมู่บ้าน จบเพียงแค่ ป.6 ต้องออกมารับจ้างทำงานหาเงินเลี้ยงครอบครัว เผยมีความสุขแบบที่เป็นอยู่ อยากมีบ้านใหม่ ส่งน้องชายเรียนหนังสือสูงๆ และดูแลยายให้ดีกว่านี้ มีความฝันอยากเป็นนักกีฬาหรือนักดนตรีอาชีพ

เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน 2565 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบกับนางน้อมจิต เยาวเรศ หรือยายจิต อายุ 52 ปี ,นายอาทิตย์ พรรณมหา หรือต้อง อายุ 18 ปี และ ด.ช.สกลวัฒน์ พรรณมหา หรือเวีย อายุ 14 ปี ที่เพิงสังกะสี ปลูกขึ้นในพื้นที่สาธารณะประโยชน์ ขนาดประมาณ 1 ไร่ ท้ายหมู่บ้านทุ่งใหญ่ ม.10 ต.ทุ่งใหญ่ อ.ทุ่งฝน จ.อุดรธานี ห่างจากหมู่บ้านประมาณ 1 กิโลเมตร เพื่อพูดคุยถึงเรื่องราวชีวิตสุดรันทดของครอบครัวนี้ หลังจากที่คนในหมู่บ้านเห็นสภาพความเป็นอยู่ที่ลำบาก ไม่มีสิ่งของเครื่องใช้อำนวยความสะดวก อาศัยเพิงสังกะสีเก่าๆ อยู่ด้วยกัน 3 คน อย่างอัตคัด จึงแจ้งเรื่องราวเข้ามา เพื่อหาทางช่วยเหลือต่อไป

ยายจิต เล่าให้ฟังว่า มีลูกสามคน คนโตก็คือนางนิตยา ผันผ่อน อายุ 35 ปีแม่ของหลาน ลูกชายคนเล็กประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตเมื่อ 10 กว่าปีที่แล้ว ลูกอีกคนเป็นลูกเลี้ยง เขาก็ย้ายออกไปมีครอบครัวนานแล้ว สามีหรือตาของเด็กก็เลิกกันไปนานกว่า 20 ปีแล้ว แต่ก่อนมีบ้านอยู่ในหมู่บ้าน แต่เอาไปจำนองกับเพื่อนบ้าน หาเงินส่งลูกเขย ซึ่งเป็นพ่อของหลานทั้ง 2 คน ไปทำงานเมืองนอก พอเขาไปแล้วปรากฏว่าไปมีเมียใหม่ ไม่ส่งเงินกลับมาใช้หนี้ บ้านก็เลยถูกยึด น้องชายของตนมีที่จับจองอยู่ตรงนี้ จึงมาปลูกเพิ่งสังกะสีอยู่ที่นี่ ที่ตรงนี้น้องชายจับจองมานานกว่า 30 ปี แต่ยังไม่ได้รับการออกโฉนด ตนก็ไม่ทราบว่าเพราะเหตุใด ไม่รู้จะไปเรียกร้องกับใคร เพราะไม่มีความรู้ ส่วนลูกสาวตนซึ่งเป็นแม่ของหลาน หลังเลิกกับลูกเขยไปก็หนีไปทำงานพัทยา ช่วงแรกยังติดต่อกลับมาบ้าง แต่นานกว่า 5 ปีแล้ว ที่ไม่ติดต่อกลับมาบ้านเลย 

“น้องต้องหลานคนโตเรียนจบแค่ ป.6 ต้องออกมาทำงาน ส่วนน้องเวียหลานคนเล็ก ก็ไม่ได้เรียนหนังสือ จบแค่ ป.6 เพราะไม่มีเงินส่งเสีย ตนเองอายุเยอะแล้ว สายตาไม่ค่อยดี ร่างกายไม่ค่อยแข็งแรง ไม่ได้ออกไปทำงานที่ไหน อยู่เฝ้าบ้านกับหลานคนเล็ก มีแต่น้องต้องที่รับอาสาออกไปทำงานหาเงินมาจุนเจือครอบครัว มีรายได้ทางเดียว อยากให้ลูกสาวติดต่อกลับมาบ้าง อยากให้มาดูแลใส่ใจลูกบ้าง ส่วนพ่อของหลาน หลังกลับมาจากต่างประเทศก็ไปอยู่กับภรรยาใหม่ ที่บ้านสมวิไล อ.บ้านดุง ทราบว่าลำบากเหมือนกัน ก็ไม่รู้ว่าจะไปเรียกร้องอะไร ต่างคนต่างอยู่ ชีวิตนี้ขอแค่มีโฉนดที่ดิน มีบ้านที่มั่นคงกว่านี้ หลานๆได้เรียนหนังสือ มีอาชีพมั่นคงก็พอใจแล้ว “   

น้องต้อง เปิดเผยว่า ตนไม่ได้เรียนหนังสือ จบแค่ ป.6 ตอนเรียน ม.ต้น ก็เรียนได้ปีเดียว ไม่มีเงินเรียน ต้องออกมาทำงาน เพราะคิดว่าต้องเป็นเสาหลักของครอบครัวให้ได้ ต้องเลี้ยงยายและน้องไม่ให้ลำบาก ตนลำบากไม่เป็นไร ครอบครัวต้องไม่อด ทำงานรับจ้างที่โรงงานผลิตหลังคาเหล็ก ชื่อร้านพงษ์เจริญเมทัลชีต ใน อ.ทุ่งฝน ได้ค่าแรงวันละ 300 บาท ตอนเล็กๆ มีความฝันอยากเป็นนักกีฬาอาชีพ ชอบเตะฟุตบอล ดนตรีก็ชอบ อยากเป็นนักดนตรีอาชีพด้วย ตอนนี้หลังจากทำงานแล้วก็มีกีต้าร์มือสองเก่าๆเป็นเพื่อนยามเหงา ไม่ได้รู้สึกน้อยใจชีวิต มีความสุขในแบบนี้ อยากทำงานหาเงินเยอะๆ มาสร้างบ้านใหม่ ทำงานเหนื่อยๆกลับมาเห็นหน้ายายกับน้องก็มีกำลังใจสู้ต่อไป

“ติดต่อแม่ครั้งล่าสุดเมื่อ 4 ปีที่แล้ว ไม่มีเบอร์โทรศัพท์ติดต่อ รู้แค่ว่าแม่เล่นแอปฯ อินสตราแกรม ติดต่อไม่ได้เช่นกัน เหมือนว่าแม่ไม่ได้เล่นโปรไฟล์นี้แล้ว ไม่ได้อยากเรียกร้องให้แม่ต้องมาหาเงินดูแล อยากรู้แค่ว่าเป็นตายร้ายดียังไงมากกว่า อยากให้ติดต่อกลับมาบ้าง ยายกับน้องชายผมเลี้ยงได้ ผมเลี้ยงมาแล้วไม่ต้องห่วงอะไร ตั้งใจว่าอยากเรียน กศน.ให้จบ ม.6 จะได้มีวุฒิไปสมัครงานที่ดีขึ้น อยากทำงานให้ได้เงินเยอะๆ อยากส่งน้องเรียนหนังสือให้สูงที่สุด อยากมีบ้านที่มั่นคง ไม่ต้องลำบากแบบนี้ บางครั้งฝนตกต้องมานอนรวมกันเพื่อหลบน้ำฝน เพราะหลังคารั่วหลายจุด อยากให้น้องและยายมีชีวิตที่ดีขึ้น ”

น้องเวีย เล่าให้ฟังทั้งน้ำตาว่า เจอแม่ครั้งสุดท้ายตอนอยู่ ป.5 คิดถึงแม่เสมอ อยากให้ติดต่อกลับมาหาบ้าง อยากรู้ว่าแม่ยังสบายดีอยู่หรือไม่ อยากเรียนหนังสือเหมือนคนอื่น จบแม่ ม.3 ก็ได้ ขอแค่ได้เรียน จะได้มีวุฒิไปสมัครงานหาเงินมาช่วยพี่ชายและยาย เพราะสงสารพี่ชายที่ต้องทำงานหาเงินคนเดียว รักยายและพี่ชายมาก ไม่อยากย้ายไปอยู่กับพ่อหรืออยู่กับใคร ครอบครัวก็มีกันอยู่เท่านี้ ถ้ามีโอกาสก็อยากจะเป็นนักฟุตบอลอาชีพ หรือนักตระกร้ออาชีพ เพราะรักในการเล่นกีฬา

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า หลังจากเรื่องราวของครอบครัวนี้ถูกนำเสนอผ่านข่าวสาร และผ่านช่องทางโซเชียล ตอนนี้ยังไม่มีหน่วยงานราชการเข้ามาพูดคุยหรือสอบถามความเป็นอยู่ มีเพียงกลุ่มแอดมินเพจดังของ จ.อุดรธานี เข้ามาสอบถามให้การช่วยเหลือ มีการเปิดรับบริจาคเงิน เพื่อรวบรวมมาช่วยสร้างบ้านให้แก่ครอบครัวนี้ และยังมีผู้คนที่ทราบเรื่องราวโทรศัพท์มาหาน้องต้องที่เบอร์ 063-4756930 ติดต่อโอนเงินมาช่วยเหลือหลายรายแล้ว

อัลบั้มภาพ 8 ภาพ

อัลบั้มภาพ 8 ภาพ ของ หนุ่มอายุ 18 หาเลี้ยงยายกับน้อง พ่อไปทำงานเมืองนอกแล้วมีเมียใหม่ ปล่อยบ้านถูกยึด

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook