แม่แตงโม-อัจฉริยะ เข้าให้ปากคำตำรวจไซเบอร์ ผบช.สอบข้อสงสัยกว่า 30 ประเด็น
![แม่แตงโม-อัจฉริยะ เข้าให้ปากคำตำรวจไซเบอร์ ผบช.สอบข้อสงสัยกว่า 30 ประเด็น](http://s.isanook.com/ns/0/ud/1714/8572906/achariya-tangmo-mom-070622-tn.jpg?ip/crop/w728h431/q80/jpg)
แม่แตงโมควงแขนอัจฉริยะ เข้าให้ปากคำตำรวจไซเบอร์ ปมส่งมือถือให้ "บังแจ็ค" เผยไม่กังวลยังเชื่อใจบังแจ๊คเหมือนเดิม ด้าน ผบช.สอท.สอบเองกว่า 30 ประเด็น
วันนี้ (7 มิ.ย.) นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม พร้อมด้วย นางภนิดา ศิระยุทธโยธิน มารดาของ น.ส.ภัทรธิดา พัชรวีระพงษ์ หรือ แตงโม เข้าพบ พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (สอท.) หรือตำรวจไซเบอร์ เพื่อให้ปากคำกรณีที่ส่งโทรศัพท์มือถือของแตงโมไปให้กับ "บังแจ็ค" ที่ประะเทศสหรัฐอเมริกา จนมีการปล่อยภาพและคลิปที่ไม่เหมาะสมลงในเพจ Happy melon official ที่มีผู้ติดตามกว่า 1.2 ล้านคน
ทั้งนี้ นางภนิดา เดินทางมาด้วยรถเบนซ์โดยมีสีหน้าเรียบเฉย ก่อนเปิดเผยกับสื่อมวลชนสั้นๆ ขณะเดินลงจากรถว่า ไม่มีความกังวลที่ต้องมาให้ปากคำกับตำรวจไซเบอร์ และยังมีความเชื่อมั่นในตัวบังแจ็คเนื่องจากเป็นคนอัธยาศัยดีและมีเพื่อนในประเทศไทยอยู่เยอะ จากนั้นเดินควงแขนนายอัจฉริยะขึ้นบันไดเลื่อนเข้าไปพบพนักงานสอบสวน โดยมี พล.ต.ท.กรไชย รอสอบปากคำด้วยตนเอง
ด้าน พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เปิดเผยว่า วันนี้เป็นการเชิญ นางภนิดา มาให้ข้อมูลเกี่ยวกับโทรศัพท์มือถือของแตงโม ที่ส่งไปให้บังแจ็คที่ประเทศสหรัฐอเมริกา เพื่อสอบถามประเด็นข้อสงสัยต่างๆ กว่า 30 ประเด็น ว่ามีความจำเป็นอย่างไรจึงส่งโทรศัพท์มือถือไปให้บังแจ็ค ทำไมถึงไว้ใจ และได้ค่าตอบแทนหรือไม่ รวมถึงอยากทราบว่ามือถือที่บังแจ็คอ้างว่าจะส่งมาให้ขณะนี้ได้รับหรือยัง หากได้รับแล้วตำรวจก็มีอำนาจในการริบไว้เป็นของกลางเพื่อนำไปสืบสวนประกอบสำนวนคดีตามกฎหมาย
พร้อมระบุหากพบว่า บังแจ็คกระทำความผิดเข้าข่ายตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 20 ซึ่งบัญญัติว่า "ถ้าความผิดซึ่งมีโทษตามกฎหมายไทยได้กระทําลงนอกราชอาณาจักรไทย ให้อัยการสูงสุดหรือผู้รักษาการแทนเป็นพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบหรือจะมอบหมายหน้าที่นั้นให้พนักงานอัยการหรือพนักงานสอบสวนคนใดเป็นผู้รับผิดชอบทําการสอบสวนแทนก็ได้ เพื่อออกหมายแดงเข้าสู่กระบวนการติดตามตัวมาดำเนินคดีในประเทศไทย"
นอกจากนี้ ยังถือว่าเข้าข่ายความผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 16 นำภาพผู้เสียชีวิตไปเผยแพร่ทำให้เกิดความเสื่อมเสีย
ผบช.สอท.ยังกล่าวอีกด้วยว่า ส่วนตัวเห็นว่าบังแจ็คเป็นคนเพ้อเจ้อ ไม่ใช่ผู้ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทางแต่อย่างใด ซึ่งการสอบปากคำครั้งนี้จะอนุญาตให้นางภนิดาและทนายความเข้าไปร่วมสอบปากคำกับพนักงานสอบสวนเท่านั้น จะไม่ให้บุคคลอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปร่วมฟังการสอบปากคำเด็ดขาด เพื่อป้องกันไม่ให้นำข้อมูลออกไปเปิดเผยสู่สาธารณชน