ผู้จัดการโรงแรมแจง วินหื่นไม่ได้พาเด็กมาข่มขืนที่โรงแรม แต่เด็กวิ่งหนีมา พนักงานช่วยไว้ทัน

ผู้จัดการโรงแรมแจง วินหื่นไม่ได้พาเด็กมาข่มขืนที่โรงแรม แต่เด็กวิ่งหนีมา พนักงานช่วยไว้ทัน

ผู้จัดการโรงแรมแจง วินหื่นไม่ได้พาเด็กมาข่มขืนที่โรงแรม แต่เด็กวิ่งหนีมา พนักงานช่วยไว้ทัน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

จากกรณีที่เมื่อช่วงเย็นวานนี้ เกิดเหตุคนร้ายเป็นวินรถจักรยานยนต์ ใช้มีดคัตเตอร์จี้บังคับเด็กสาวอายุ 16 ปี รายหนึ่ง หมายจะข่มขืน เหตุเกิดในซอยภูมิจิตร ถนนพระราม 4 แต่ไม่สำเร็จเพราะเยาวชนผู้เสียหายพยายามดิ้นต่อสู้ และวิ่งหลบหนี ทำให้คนร้ายต้องหลบหนีโดยทิ้งเยาวชนผู้เสียหายไว้ในจุดเกิดเหตุ

ก่อนที่เมื่อ กลางดึกที่ผ่านมา ฝ่ายสืบสวน สน. คลองตัน สามารถจับกุมตัว นายสมศักดิ์ แจ้งสัตย์ พร้อมของกลาง รถจักรยานยนต์ที่ใช้ก่อเหตุได้ที่วัดแห่งหนึ่งย่านอ่อนนุช ส่วนมีดคัตเตอร์ และโทรศัพท์ของเหยื่อได้นำไปโยนทิ้งลงคลองใกล้กับจุดที่จับกุม

ช่วงเช้าที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ดูจุดเกิดเหตุ ซึ่งเมื่อถึงจุดเกิดเหตุได้พบกับผู้จัดการโรงแรมม่านรูด โดยผู้จัดการโรงแรมม่านรูด ระบุกับทีมข่าวว่า ตามที่มีการนำเสนอข่าวว่า วินมอเตอร์ไซค์หื่น ใช้อาวุธมีดบังคับเยาวชนอายุ 16 ปีเข้ามาในโรงแรมม่านรูดเพื่อหวังจะข่มขืน ถือว่าคลาดเคลื่อนไปจากความจริง เนื่องจากคนร้ายไม่ได้พาเหยื่อเข้ามาในพื้นที่โรงแรม แต่เหยื่อวิ่งหนีคนร้ายมาจากท้ายซอย และส่งเสียงขอความช่วยเหลือ ซึ่งพนักงานหญิงได้ยินเสียงจึงเดินออกไปดู ก่อนเห็นเยาวชนผู้เสียหายวิ่งมาขอความช่วยเหลือ พนักงานจึงมีการพาตัวเยาวชนผู้เสียหายรายนี้เข้ามาปฐมพยาบาลภายในโรงแรม เนื่องจากตามร่างกายมีบาดแผลถลอก ก่อนจะประสานงานไปที่วินรถจักรยานยนต์บริเวณปากซอย ที่มีบางส่วนเป็นอาสาสมัครของมูลนิธิร่วมกตัญญู เพื่อให้เข้ามาช่วยเหลือปฐมพยาบาลและนำส่งรักษา ส่วนคนร้ายได้หลบหนีไปได้

ผู้จัดการโรงแรมยังระบุอีกว่าทางโรงแรมม่านรูดของตนเองไม่เคยสนับสนุนผู้กระทำความผิด รวมถึงหากพบเห็นว่ามีหญิงสาวรายใดไม่เต็มใจเข้ามา ก็จะช่วยเหลือและกันออกจากฝ่ายชายที่พาเข้ามาใช้บริการ เช่นเดียวกับหากพบเห็นว่ามีการพาเยาวชนที่สวมใส่เครื่องแบบนักเรียน จะไม่อนุญาตให้เข้ามาอยู่แล้ว ส่วนคนร้าย จากการสอบถามเยาวชนผู้เสียหายรายนี้ทราบว่า เป็นวินเบอร์ 41 ที่อยู่บริเวณท้ายซอย

ซึ่งเมื่อทีมข่าวเดินทางไปถามเพื่อนร่วมวิน ทำให้ทราบว่าเสื้อวินเบอร์ 41 ที่นายสมศักดิ์สวมใส่ในวันก่อเหตุ เป็นของพ่อนายสมศักดิ์ ที่ปัจจุบันเลิกวิ่งวินรถจักรยานยนต์ และหันไปประกอบอาชีพเป็นพนักงานรักษาความปลอดภัย ส่วนเสื้อวินได้ส่งมอบให้กับทางนายสมศักดิ์มาใช้วิ่งหาเงิน เนื่องจากไม่มีงานทำ ซึ่งตัวนายสมศักดิ์เองก็มาวิ่งอยู่ที่วินดังกล่าวได้ประมาณหนึ่งปี โดยนิสัยใจคอก็เป็นคนเงียบๆไม่ค่อยพูดจากับใคร ไม่มีใครในวินรู้ว่านายสมศักดิ์เกี่ยวข้องกับยาเสพติดหรือไม่

ด้าน พ.ต.อ.สมศักดิ์ มงคลคุณากร ผู้กำกับการ สน.คลองตัน ระบุถึงความคืบหน้าว่า หลังสอบปากคำ ผู้ต้องหารับสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุจริง เบื้องต้นได้แจ้งข้อหา ชิงทรัพย์โดยใช้อาวุธมีด เนื่องจากมีหลักฐานและของกลางครบถ้วน แต่ในส่วนของข้อหาอื่นๆ เช่นการพรากผู้เยาว์ หรือการพยายามข่มขืน ต้องรอผลการสอบปากคำผู้เสียหายให้แล้วเสร็จก่อน ขณะนี้พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานหากพบว่ามีการกระทำความผิดข้อหาอื่น ก็จะแจ้งข้อหาเพิ่มเติมต่อไป โดยในวันพรุ่งนี้จะควบคุมตัวผู้ต้องหาไปขออำนาจศาลฝากขัง

ส่วนนักเรียนหญิงผู้เสียหาย ได้รับบาดเจ็บหัวเข่าและข้อศอกถลอกเป็นแผล จากการขัดขืนและพยายามหลบหนีระหว่างเกิดเหตุ ซึ่งพนักงานสอบสวนจะเชิญสหวิชาชีพมาร่วมสอบปากคำผู้เสียหายอีกครั้ง

ขณะที่ในส่วนของกลางในคดีนี้เบื้องต้นช่วงกลางดึกคืนที่ผ่านมาได้มีการประสานมูลนิธิไปทำการงมในคลองแห่งหนึ่ง ใกล้เคียงกับจุดที่ฝ่ายสืบสวนสามารถจับกุมตัวนายสมศักดิ์ได้ เนื่องจากนายสมศักดิ์ อ้างว่าได้มีการนำอาวุธมีดคัตเตอร์และโทรศัพท์สมาร์ทโฟนของผู้เสียหาย ไปโยนทิ้งไว้แต่จากการค้นหานานหลายชั่วโมง พบเพียงอาวุธมีดคัตเตอร์จมอยู่ แต่ในส่วนของโทรศัพท์สมาร์ทโฟนของผู้เสียหายยังไม่พบ พนักงานสอบสวนจึงมีการเก็บรวบรวมหลักฐานเอาไว้ใช้ประกอบสำนวนคดี

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook