พ่อมาวิน เหยื่อถุงดำ ผกก.โจ้ พอใจคำตัดสินของศาล แม้ไม่โดนโทษประหารชีวิต
พ่อมาวิน เหยื่อถุงดำ ผกก.โจ้ พอใจคำตัดสินของศาล แม้ไม่โดนโทษประหารชีวิต ครอบครัวสู้เต็มที่มาตลอด 1 ปี
จากกรณี ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ถ.ตลิ่งชัน ได้นัดฟังคำพิพากษา คดีอาญาหมายเลขดำที่ อท.180/2564 ในคดีที่อัยการสูงสุดมีความเห็นสั่งฟ้อง พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล หรือ “ผกก.โจ้” อดีต ผกก.สภ.เมืองนครสวรรค์ กับพวก รวม 7 คน ฐานร่วมกันฆ่า นายจิระพงศ์ ธนะพัฒน์ หรือ มาวิน อายุ 24 ปี ผู้ต้องหาในคดียาเสพติด ด้วยการซ้อมและใช้ถุงดำคลุมศีรษะ จนขาดอากาศหายใจอย่างทารุณ โดยอัยการยื่นฟ้องคดีอัตราโทษประหารสถานเดียว
โดยศาลพิพากษาว่า พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล อดีต ผกก.โจ้ จำเลยที่ 1 ร่วมด้วย พ.ต.ต.รวีโรจน์ ดิษทอง จำเลยที่ 2, ร.ต.อ.ทรงยศ คล้ายนาค จำเลยที่ 3 , ร.ต.ท.ธรณินทร์ มาศวรรณา จำเลยที่ 4 , ด.ต.วิสุทธิ์ บุญเขียว จำเลยที่ 5 และ ส.ต.ต.ปวีณ์กร คำมาเร็ว จำเลยที่ 7 เป็นการกระทำกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบทให้ลงโทษทุกกระทงความผิด
โดยให้ลงโทษมาตรา 289(5) ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและกระทำด้วยการทรมานทารุณโหดร้ายฯ ซึ่งเป็นหนักสุกตามมาตรา 90 ลงโทษประหารชีวิต ส่วนด.ต.ศุภากร จำเลย 6 มีความผิดตามมาตรา 157 ละเว้นหรือปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
ร่วมกันข่มขืนใจให้กระทำการใดหรือไม่กระทำการใด ให้ลงโทษ จำคุก 8 ปี แต่อย่างไรก็ตามจำเลย 1-7 ให้การเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีการให้เงินค่าปลงศพ 30,000 บาท เพื่อบรรเทาผลร้ายให้บิดามารดาผู้ตาย คนละ 300,000 บาท
และมีพฤติการณ์พยายามช่วยปฐมพยาบาลและนำส่งไปโรงพยาบาล จนกู้สัญญานชีพกลับมาได้ จึงลดโทษให้จำเลยคนละ 1 ใน 3 คงจำคุกตลอดชีวิต
ส่วน ด.ต.ศุภากร นิ่มชื่น จำเลยที่ 6 ผิดข้อหาปฏิบัติหน้าที่มิชอบตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ลดโทษ 1 ใน 3 คงจำคุก 5 ปี 4 เดือน
หลังฟังคำตัดสิน เรืออากาศตรีจักรกฤษ กลั่นดี พ่อของเหยื่อในคดี กล่าวว่า พอใจในคำตัดสิน แม้จะไม่ใช่โทษประหารชีวิต เพราะครอบครัวต่อสู้คดีมาตลอดเกือบ 1 ปีที่ผ่านมา ทำอย่างเต็มที่ แม้ฝ่ายผู้ต้องหาจะอ้างว่าปฏิบัติตามหน้าที่ไม่ได้ตั้งใจไม่ได้เจตนาจะทำให้ลูกชายเสียชีวิต ซึ่งตอนแรกที่ลูกชายเสียชีวิตแล้วตัวเองยังไม่เห็นคลิปจากกล้องวงจรปิด ผู้กำกับโจ้และจำเลยทั้งหมดก็ยังพูดคุยกับตัวเองตามปกติ เหมือนไม่ได้กระทำความผิดใดใด โดยเฉพาะผู้กำกับโจ้ที่เข้ามาสวมกอดแสดงความเสียใจต่อการเสียชีวิตของลูกชาย
โดยระหว่างที่พูดพิพากษาอ่านพฤติการณ์ของจำเลยที่หนึ่งรับรู้ได้ว่าช่วงเวลานั้นลูกชายต้องทุกข์ทรมานอย่างมากเพราะโดนถุงพลาสติกคลุมหัวถึง 7 ชั้น เช่นเดียวกับ นางจันจิรา แม่ของผู้เสียชีวิต ยังรู้สึกเสียใจกับการเสียชีวิตของลูกชาย และเมื่อได้ฟังศาลอ่านถึงพฤติการณ์ที่ ผกก.โจ้และพวกกระทำต่อลูกชาย ก็ยิ่งรู้สึกสงสารลูกที่ต้องมาเจอเหตุการณ์แบบนี้ แต่ทั้งนี้ก็รู้สึกพอใจในคำตัดสินของศาล