สุราก้าวหน้า ได้ไปต่อ สภาผู้แทนโหวตรับหลักการ

สุราก้าวหน้า ได้ไปต่อ สภาผู้แทนโหวตรับหลักการ

สุราก้าวหน้า ได้ไปต่อ สภาผู้แทนโหวตรับหลักการ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ร่างกฎหมายฉบับหนึ่ง ที่มีเนื้อหาปลดล็อกกฎเกณฑ์ให้คนทั่วไปและผู้ประกอบการรายเล็กผลิตได้ง่ายขึ้น หรือที่เรียกว่า สุราก้าวหน้า ผ่านความเห็นชอบจากเสียงส่วนใหญ่ของสภาผู้แทนราษฎรในวาระที่ 1 แล้วเมื่อคืนวันพุธ (8 มิ.ย.) ด้วยคะแนน 178 ต่อ 137 เสียง และงดออกเสียง 15 เสียง

ร่างกฎหมายสุราก้าวหน้าฉบับนี้ ที่เสนอโดย ส.ส. กรุงเทพมหานคร พรรคก้าวไกล นายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร และคณะ เคยเข้าสู่การพิจารณาของสภาฯ ครั้งล่าสุดเมื่อช่วงที่ผ่านมาของปีนี้ แต่คณะรัฐมนตรีกลับขอนำไปศึกษาก่อน 60 วัน ก่อนมีมติว่าไม่เห็นชอบหรือตีตกไป

การกลับเข้าสู่สภาผู้แทนราษฎร​เมื่อวันพุธ (8 มิ.ย.) ​นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรี​ประจำ​สำนักนายกรัฐมนตรี​ อธิบายถึงข้อกังวลของหน่วยงานรัฐว่า การเปิดให้ทำสุราได้ง่ายขึ้นอาจส่งผลต่อสุขภาพของประชาชนและการควบคุมคุณภาพ

อย่างไรก็ตาม ส.ส.ทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลหลายคนกล่าวคัดค้านข้อสังเกตดังกล่าว โดยยกเหตุผลว่าการเปิดให้ผลิตสุราได้ง่ายขึ้นจะเป็นผลดีต่อเศรษฐกิจเป็นวงกว้าง

นายวีระกร คำประกอบ ส.ส. จ.นครสวรรค์ พรรคพลัง​ประชา​รัฐ​กล่าวว่า ข้อสังเกตของหน่วยงานภาครัฐนั้นสะท้อนวิธีคิดที่ไม่ทันสมัย ประชาชนไม่ได้ประโยชน์ โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ที่ต้องการผลิตสุรา อย่างเช่น คราฟต์เบียร์ รัฐต้องปรับปรุงวิธีคิดให้ทันโลก

"แล้วท่านประธานก็เห็นเหมือนผมอะ สุราประเทศไหนจะแย่เท่าสุราประเทศไทยไม่มีแล้วครับ กินแทบไม่ลงอะท่านประธาน" นายวีระกร อภิปราย

"ถามจริงๆ เหอะ ท่านรัฐมนตรีอนุชาก็ดี รัฐมนตรีโอ๋ก็ดีเนี่ย ท่านกินเหล้าไทยรึเปล่าผมถามแค่เนี้ย กินลงรึเปล่า กินลงรึเปล่า"

"ในขณะที่คนรุ่นใหม่นะ อันนี้ผมพูดแทนคนรุ่นใหม่ ซึ่งผมรู้จัก พวกลูกของเพื่อนบ้าง เขาทำเบียร์ทำเหล้าเนี่ย เขาทำอย่างประณีตนะท่านประธาน มันไปร่ำเรียนกันมา แล้วก็หวังจะทำกันให้เป็นที่ชื่นชอบของคน"

"คนอย่างเท่าพิภพก็ดี หรือคนอย่างลูกเพื่อนผมก็ดี ที่เขาทำโรงเบียร์เล็กๆ เขาทำด้วยความรัก เขาอยากจะทำสิ่งที่มีคุณภาพออกไปสู่พี่น้องประชาชน ท่านเชื่อผมเถอะไอ้กฎหมายหรือความกังวลของคนรุ่นเก่าเนี่ย ไม่ว่าจะเป็นสภาพัฒน์ฯ ไม่ว่าจะเป็นกรมควบคุมโรค ไม่ว่าจะเป็นอะไรต่อมิอะไรที่ให้ความเห็นมาเนี่ย ผมว่ามันเป็นความเห็นโบราณนะ"

นายนิยม เวชากามา ส.ส. จ.สกลนคร พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การอนุญาตให้ประชาชนทั่วไปนำข้าวที่เหลือจากการจำหน่ายหรือการรับประทานในครอบครัวมาทำสุราได้เอง จะยิ่งช่วยมูลค่าเพิ่มหรือช่วยถนอมอาหาร ที่ขณะนี้มีราคาสูงขึ้น ให้รับประทานได้นานขึ้นและเกิดประโยชน์ยิ่งกว่าเดิม

"สุราซึ่งเป็นสุราขาว ผมไปมองเป็นเรื่องของชาวบ้านได้ประโยชน์ ถ้าให้เขาทำ เขาทำกินอะ ทำกินทำขายก็เป็นเรื่องปกติ แล้วทำไมไม่ให้เขาทำ บางทีมันเป็นเรื่องของประเพณีอะท่านประธาน ก็ต้องให้เขาทำบ้าง" นายนิยม พูด

"ถ้าปล่อยให้ชาวบ้านเขาทำ ชีวิตเขาอาจจะดีขึ้น จากข้าวที่ขายละราคาหมื่นละ (หน่วยชั่งตวงของภาคอีสาน = 12 กิโลกรัม) บ้านผมหมื่นละนะ 12 กิโลนี่ 5-6 บาท มันอาจจะ 20 บาทก็ได้ เพราะเขาเอามาทำสุรา แล้วคุณภาพของสุราที่เขาทำจากข้าวนี่ มันจะมาตรฐานกว่าสุราขาวที่เจ้าสัวทำสุราอยู่ด้วยซ้ำไป"

 

นายเกียรติ สิทธีอมร ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวค้านนายอนุชา รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีว่า เหตุผลที่นำมาอ้างว่ารัฐบาลในหลายประเทศควบคุมการผลิตสุราเช่นเดียวกับไทยนั้น ไม่เป็นความจริง ตนมีโอกาสใช้ชีวิตในต่างประเทศมาหลายประเทศ ก็พบว่ารัฐบาลเพียงแต่ควบคุมคุณภาพเท่านั้น ไม่ได้จำกัดผู้ประกอบการรายเล็กผลิตสุราเหมือนอย่างที่ประเทศไทยทำ

"มีการกล่าวอ้างด้วยนะครับว่า 'สุราเป็นสินค้าควบคุมที่รัฐบาลทั่วโลกต่างถือปฏิบัติ' แน่ใจรึเปล่าครับ ผมก็ใช้ชีวิตท่องโลกมาเหมือนกันนะครับ เขากำกับดูแลครับ เขาควบคุมความปลอดภัยครับ แต่เขาไม่ใช่ควบคุมว่าคุณผลิตจะได้หรือไม่ได้ คุณต้องมาขอผม"


หลังจากผลการลงคะแนนออกมาให้ผ่านเข้าสู่การพิจารณาขั้นต่อไป นายเท่าพิภพ ส.ส. กรุงเทพมหานคร พรรคก้าวไกล โพสต์ขอบคุณทุกฝ่ายที่ให้การสนับสนุนร่างกฎหมายนี้ในวาระ 1 รวมถึงกลุ่มผู้ผลิตสุรารายย่อย ประชาชนชาวเขตธนบุรี คลองสาน และบางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร ที่เลือกตนมาเป็น ส.ส.

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook