กระบะหักหลบจนพลิกคว่ำพังยับ แต่รอดปาฏิหาริย์ เชื่อเพราะบารมีหลวงพ่อบัวทอง

สาว อบต.ขับรถพาญาติไปงานศพ หักหลบคันหน้าพลิกคว่ำรถพังยับ แต่รอดปาฏิหาริย์! เชื่อเพราะบารมีหลวงพ่อบัวทอง

เมื่อวานนี้ (8 มิ.ย.) ร.ต.อ.พงศกร วิเศษพันธ์ รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.โนนดินแดง จ.บุรีรัมย์ ได้รับแจ้งมีเหตุรถพลิกคว่ำบริเวณสี่แยกบ้านโคกไม้แดง ถนนสายปะคำ-โนนดินแดง ต.หูทำนบ อ.ปะคำ มีคนติดภายในหลายคน จึงประสานหน่วยกู้ภัยสว่างจุดโนนดินแดง, ปะคำ, ละหานทราย และหน่วยกู้ชีพ อบต.หูทำนบ ร่วมตรวจสอบและให้ความช่วยเหลือผู้ประสบเหตุ

เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบรถยนต์กระบะยี่ห้อ โตโยต้า รีโว่ สีดำ หมายเลขทะเบียน ผอ-7933 นครราชสีมา ในสภาพพลิกตะแคงอยู่ริมถนน มีคนติดภายใน 3 คน หน่วยกู้ภัยจึงเร่งช่วยกันนำผู้ประสบเหตุทั้งหมดออกจากซากรถ ก็เป็นที่น่าแปลกใจเพราะทั้ง 3 คนไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด ทั้งที่ดูจากสภาพรถแล้วน่าจะสาหัส

สอบถามนางเบญจมาพร อายุ 54 ปี สมาชิก อบต.โนนรัง อ.ชุมพวง จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นคนขับรถกระบะคันที่ประสบอุบัติเหตุ เล่าให้ฟังว่า ตนพร้อมญาติรวม 3 คน เดินทางมาจากจังหวัดนครราชสีมา เพื่อจะไปงานศพญาติที่ อ.โนนดินแดง จ.บุรีรัมย์ แต่พอมาถึงที่เกิดเหตุเห็นรถคันหน้าเปิดไฟจะเลี้ยวขวากระชั้นชิด จึงตกใจหมุนพวงมาลัยหักหลบกะทันหัน ทำให้รถเสียหลักพลิกคว่ำหลายตลบก่อนไถลตกไปอยู่ข้างทางจนสภาพรถพังเสียหายเกือบทั้งคัน

ข้าวของที่บรรทุกมาด้วยเพื่อจะเอาไปฝากญาติตกกระจายเกลื่อน ส่วนตนและญาติติดภายในรถ พอตั้งสติได้ก็ตรวจดูว่ามีใครบาดเจ็บบ้าง แต่เคราะห์ดีที่ไม่มีใครบาดเจ็บ ก็เชื่อว่าที่ตนและญาติประสบอุบัติเหตุแต่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บเลย เป็นเพราะบารมีของ “หลวงพ่อบัวทอง ปัญญาทีโป” วัดโพธิ์ศรีบ่อใหญ่ ต.บ่อใหญ่ อ.บรบือ จ.มหาสารคาม ที่ตนเคารพศรัทธา ซึ่งก่อนออกเดินทางได้ยกมือไหว้บอกกล่าวจึงทำให้แคล้วคลาดปลอดภัย

ด้านนายสุด มิตรเจริญ อดีตกำนันตำบลหูทำนบ กล่าวว่า ตนขับรถตามหลังรถกระบะคันที่เกิดเหตุมา ก็เห็นรถกระบะคันดังกล่าวเสียหลักพลิกคว่ำตกข้างทางต่อหน้า จึงรีบจอดรถแล้วลงไปดู เห็นสภาพรถตอนแรกก็คิดว่าคงไม่รอด แต่พอเข้าไปดูกลับพบว่าทั้งคนขับและผู้โดยสารที่นั่งมาในรถทั้ง 3 คน ปลอดภัยดี ทั้งที่ดูจากสภาพรถแล้วก็ไม่น่าจะรอด จากนั้นจึงรีบแจ้งหน่วยกู้ภัยฯ ให้มาช่วยเหลือนำทั้ง 3 คนออกจากซากรถ

ส่วนรถคู่กรณีที่ผู้ขับขี่อ้างว่าเขาเปิดไฟเลี้ยวขวาแล้วมองไม่เห็นนั้น ก็ไม่ได้หนีไปไหน และจอดรถอยู่บริเวณข้างทางก่อนจะลงมาดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นพร้อมกับเดินทางไปที่สถานีตำรวจเพื่อให้ปากคำกับตำรวจแล้ว ส่วนตำรวจจะทำการสอบสวนพยานที่เห็นเหตุการณ์ และผู้ประสบเหตุต่อไป