หดหู่ ฝากขังวิน จยย.หื่น พ่อถอดรองเท้าให้ลูกใส่เข้าเรือนจำ เผย จะดีจะชั่วยังไงก็ลูก

หดหู่ ฝากขังวิน จยย.หื่น พ่อถอดรองเท้าให้ลูกใส่เข้าเรือนจำ เผย จะดีจะชั่วยังไงก็ลูก

หดหู่ ฝากขังวิน จยย.หื่น พ่อถอดรองเท้าให้ลูกใส่เข้าเรือนจำ เผย จะดีจะชั่วยังไงก็ลูก
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ฝากขังวิน จยย.หื่น พ่อถอดรองเท้าให้ลูกใส่เข้าเรือนจำ เผยจะดีจะชั่วยังไงก็ลูก และยังมีภาระเลี้ยงดูหลานอีก 3 คน

(9 มิ.ย.65) พันตำรวจโทนิรันดร์ โสมะคุณานนท รองผู้กำกับการ สอบสวน สน.คลองตัน ระบุถึงการดำเนินคดี นายสมศักดิ์ วินรับจ้างที่ก่อเหตุใช้มีดคัตเตอร์จี้เยาวชนผู้เสียหายอายุ 16 ปี เพื่อหวังจะข่มขืนกระทำชำเรา ว่าวานนี้ในช่วงเย็นได้มีการพาตัวผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ซึ่งผู้ต้องหายังคงยืนยันในจุดที่ใช้เป็นที่ทิ้งโทรศัพท์มือถือของผู้เสียหาย แต่ทางเจ้าหน้าที่จนถึงขณะนี้ยังไม่พบของกลางดังกล่าว และจากการสอบปากคำเพิ่มเติม พนักงานสอบสวน ได้มีการแจ้งข้อหา พรากผู้เยาว์ เด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี ไปโดยไม่มีเหตุอันควร เพิ่มเติม รวมกับ 2 ข้อหาแรกที่แจ้งไปก่อนหน้าเป็น 3 ข้อหา

ส่วนการดำเนินการในวันนี้ ในเวลา 10.00 จะมีการคุมตัวผู้ต้องหาไปทำการขออำนาจศาลอาญากรุงเทพใต้ เพื่อฝากขัง โดยขั้นตอนจะเป็นการนำตัวมาฝากขังผ่านระบบออนไลน์หรือวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ เมื่อศาลรับฝากขังก็จะมีการนำตัวไปส่งยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพทันที

ขณะที่ นายสมควร พ่อของนายสมศักดิ์ ที่เดินทางมาเยี่ยมลูกชายและเข้าพบพนักงานสอบสวน ตามขั้นตอน ได้ระบุกับทีมข่าวภายหลังการเข้าพบลูกชายว่า ตนเองพยายามสอบถามลูกชายว่าก่อเหตุไปเพราะอะไรทำไมถึงไม่คิดถึงลูกกับพ่อ ว่าจะอยู่อย่างไร ซึ่งลูกชายไม่ได้ตอบอะไรได้แต่เงียบและพูดเพียงว่าเป็นห่วงลูกทั้ง 3 คนอยากฝากให้พ่อดูแล พาไปอยู่ที่จังหวัดสุพรรณบุรีซึ่งเป็นบ้านของพ่อ ซึ่งตนเองยังไม่รู้ว่าจะดำเนินการเกี่ยวกับหลานทั้งสามคนอย่างไรเนื่องจากส่วนตัวก็มีภาระหลายอย่างมีรายได้จากการประกอบอาชีพเป็นเจ้าที่รักษาความปลอดภัยเพียงเดือนละ 15,000 บาท และมีรายจ่ายที่ค่อนข้างเยอะ ประกอบกับส่วนตัวก็เป็นห่วงหลานทั้งสามคนหากไม่มีคนดูแลใกล้ชิด อาจทำให้เสียอนาคต เนื่องจากหลานชายคนโตอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อและละแวกบ้านก็เป็นที่รู้กันว่ามีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องยาเสพติด และตนเองก็ทำงานเป็นกะทั้งกลางวันและกลางคืนผลัดเปลี่ยนกันทุกๆ 15 วัน ซึ่งจะทำให้ไม่มีเวลาดูแลหลานทั้งสามคนได้อย่างที่ควรต้องทำ

ส่วนตอนนี้ทราบว่าหลานทั้ง 3 คนมีพี่สาวต่างบิดามารับไปอยู่ในความดูแลของแม่อดีตภรรยาลูกชาย ซึ่งตนเองจะขอดำเนินการจัดการลูกชายตนเองให้เสร็จสิ้นก่อนจึงจะไปดำเนินการเกี่ยวกับหลานทั้งสามคน แต่เบื้องต้นหลังเกิดเรื่องได้มีนักสังคมสงเคราะห์เข้ามาพูดคุยกับตนเองเกี่ยวกับการขอรับการดูแลหลานทั้งสามคน ซึ่งตนเองก็พร้อมหากหลานทั้งสามคนจะได้รับสิ่งที่ดีกว่า ทั้งเรื่องการเรียนและการเป็นอยู่

แต่หากว่าทาง ครอบครัวของทางฝั่งอดีตภรรยาลูกชายจะติดต่อมาเพื่อขอดูแลหลานทั้งสามคน ตนเองยืนยันว่าจะขอดูแลหลานทั้ง 3 คนเอง เนื่องจากอดีตภรรยาของลูกชายได้เลิกรากันไปนานหลายปีและหลานทั้งสามคนก็เติบโตมากับตนเองและลูกชายประกอบกับฐานะของทางฝั่งผู้หญิงก็ไม่ใช่ว่าจะดี

นอกจากนี้ ตนเองขอชี้แจง เกี่ยวกับเสื้อวินรถจักรยานยนต์ที่ลูกชายใช้ยืนยันว่าเสื้อดังกล่าวเป็นของตนเองที่ถูกต้องตามกฎหมาย แต่ตนเองเห็นว่าก่อนหน้านี้ลูกชายเพิ่งพ้นโทษ ออกมาและไม่มีงานทำต้องเลี้ยงดูลูก 3 คนและหาค่าเช่าห้อง ประกอบกับตนเองก็เปลี่ยนอาชีพมาทำเป็นเจ้าที่รักษาความปลอดภัยอาคารเนื่องจากอายุมากสายตาไม่ดี ไม่ได้ขับขี่วินรถจักรยานยนต์รับจ้างจึงส่งต่อให้ลูกชาย ซึ่งไม่ได้เป็นการขายเสื้อวินตามที่ มีการนำเสนอข่าวไปก่อนหน้านี้ ส่วนตัวยอมรับว่าการส่งต่อเสื้อวินให้กับลูกชายอาจจะมีความผิดซึ่งก็พร้อมยอมรับกับทุกสิ่งที่เกิดขึ้น

ซึ่งขณะที่มีการเคลื่อนย้ายตัวนายสมศักดิ์ขึ้นรถผู้ต้องขังไปทำการฝากขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพนายสมควรผู้เป็นบิดาสังเกตเห็นว่าลูกชายตนเองไม่มีรองเท้าสวมใส่จึงได้ถอดรองเท้าแตะที่ตนเองสวมใส่มาส่งให้กับลูกชายในรถคุมตัวผู้ต้องหาพร้อมสั่งเสียให้ดำเนินการแจ้งชื่อตนเองให้กับทางเรือนจำให้เป็นที่เรียบร้อยรวมถึงได้ส่งเงินจำนวนหนึ่ง ให้ลูกชายติดตัวไปใช้ในเรือนจำก่อนจะหันมาบอกกับผู้สื่อข่าวว่าจะดีจะชั่วยังไงก็ลูกตัวเองต้องดูแล ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะคุมตัวเคลื่อนย้ายออกจาก สน.ไป

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook