ตำรวจเผยลูก 7 ขวบ วิ่งมาบอกพยาบาลให้ไปช่วย ก่อนพ่อลั่นไกยิงแม่ดับกลาง รพ.
ผู้กำกับการ สภ.เมืองขอนแก่น ยืนยันหนูน้อยวัย 7 ขวบ ลูกของทหารยศจ่าสิบเอกกับพยาบาลที่เสียชีวิต ไม่ได้อยู่ในช่วงเหตุการณ์ที่ผู้เป็นพ่อใช้อาวุธปืนยิงแม่ โดยก่อนก่อเหตุ ผู้ก่อเหตุเข้าไปหาลูกที่อยู่อีกห้อง แล้วจูงมือลูกวัย 7 ขวบ มาหาภรรยาที่อยู่อีกห้อง กระทั่งมีปากเสียงกัน หนูน้อยเห็นท่าไม่ดีรีบวิ่งมาบอกพยาบาลให้ช่วยเหลือ ก่อนที่เสียงปืนจะดังขึ้น
วันนี้ (9 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีจ่าสิบเอก อรรคพงษ์ ทหารสังกัดกรมทหารม้าที่ 6 ค่ายศรีพัชรินทร จังหวัดขอนแก่น ใช้อาวุธปืนลูกโม่ ขนาด .38 ยิงนางสาวนภาพร อายุ 34 ปี อดีตภรรยา ซึ่งเป็นพยาบาลประจำที่ รพ.ศูนย์ขอนแก่น กระสุนเข้าที่ศีรษะ 1 นัด กลางหน้าอก 1 นัด และชายโครงขวา 1 นัด เสียชีวิตทันทีในที่เกิดเหตุ
ก่อนที่ผู้ก่อเหตุจะเดินออกมาจากจุดที่ยิงอดีตภรรยา แล้วใช้อาวุธปืนกระบอกเดียวกันจ่อขมับยิงตัวเอง และเสียชีวิตเมื่อเวลา 05.00 น. วันเดียวกัน หลังจากผู้ก่อเหตุตามไปเคลียร์ปัญหาและปรับความเข้าใจกับอดีตภรรยาที่เป็นพยาบาล แต่ไม่สำเร็จจึงก่อเหตุ ซึ่งตามรายงานข่าวในช่วงเกิดเหตุมีรายงานว่า ในการก่อเหตุครั้งนี้ ผู้ก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงอดีตภรรยา ต่อหน้าลูกวัย 3 ขวบ และ 7 ขวบ สร้างความเศร้าสลดและสะเทือนใจต่อผู้ที่ทราบข่าว
ล่าสุด เมื่อเวลา 12.30 น. พ.ต.อ.ปรีชา เก่งสาริกิจ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น เปิดเผยว่า ในช่วงก่อนเกิดเหตุหนูน้อยวัย 3 ขวบ และวัย 7 ขวบ ซึ่งทั้งสองคนเป็นลูกของผู้เสียชีวิตทั้งคู่ ได้มาอยู่กับแม่ที่เข้าเวรอยู่ที่ รพ.ศูนย์ขอนแก่น โดยนอนรอผู้เป็นแม่อยู่ที่ห้องที่ใช้เป็นที่เก็บของบนตึกคุณากรปิยชาติ ชั้น 4 รพ.ศูนย์ขอนแก่น
ต่อมาในเวลาประมาณ 23.30 น. ผู้เป็นพ่อและผู้ก่อเหตุ เข้ามาตามหาอดีตภรรยา เพื่อเคลียร์ปัญหาเรื่องหึงหวง แต่ก่อนจะไปหาอดีตภรรยา ผู้ก่อเหตุเข้าไปหาลูกที่อยู่อีกห้องก่อน แล้วจึงจูงแขนลูกวัย 7 ขวบ พาไปหาอดีตภรรยา ส่วนหนูน้อยวัย 3 ขวบ ลูกอีกคนนอนหลับอยู่
จากนั้นเมื่อไปพบอดีตภรรยา ก็เริ่มมีปากเสียงกัน หนูน้อยวัย 7 ขวบ เห็นว่าพ่อกับแม่ทะเลาะกัน จึงวิ่งไปบอกเจ้าหน้าที่พยาบาลที่อยู่ใกล้ห้องที่เกิดเหตุ แต่ในระหว่างที่หนูน้อยกำลังไปขอความช่วยเหลือนั้น เสียงปืนก็ดังขึ้นกลายเป็นเหตุสลดดังกล่าว โดยยืนยันว่าในช่วงเกิดเหตุนั้น เด็กไม่ได้อยู่ในช่วงเหตุการณ์ที่เกิดความรุนแรง
แต่อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ก็เตรียมที่จะส่งทีมเข้าไปดูแลสภาพจิตใจของหนูน้อยทั้ง 2 คน และหาแนวทางในการดูแลครอบครัวในระยะยาว ซึ่งเบื้องต้นทราบว่า หนูน้อยทั้ง 2 คน ยังมีตากับยายอาศัยอยู่พื้นที่ ต.บ้านเป็ด อ.เมือง จ.ขอนแก่น ซึ่งจะหาทางช่วยเหลือต่อไป
ส่วนร่างของผู้เสียชีวิตทั้ง 2 ศพ ยังอยู่ที่โรงพยาบาลศูนย์ขอนแก่น เพื่อให้เจ้าหน้าที่ได้ทำการชันสูตรพลิกศพตามขั้นตอน เมื่อเสร็จสิ้นแล้วจึงจะประสานให้ญาติรับศพไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป
ส่วนบรรยากาศที่โรงพยาบาลศูนย์ขอนแก่น ยังคงเปิดให้บริการตามปกติ ขณะที่ตึกคุณากรปิยชาติ ชั้น 4 รพ.ศูนย์ขอนแก่น ห้องพิเศษ 5, 6 จุดเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่ทำการปิดห้องที่เกิดเหตุเอาไว้ ห้ามไม่ให้ผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าไปด้านในโดยเด็ดขาด
สนับสนุนเนื้อหา
