เปิดใจสาวพลเมืองดี คู่กรณีเคนลี เจอดราม่ายุ่งเรื่องผัวเมีย ลั่นเห็นผู้หญิงถูกทำร้ายไม่ได้
![เปิดใจสาวพลเมืองดี คู่กรณีเคนลี เจอดราม่ายุ่งเรื่องผัวเมีย ลั่นเห็นผู้หญิงถูกทำร้ายไม่ได้](http://s.isanook.com/ns/0/ud/1714/8574334/tan.jpg?ip/crop/w728h431/q80/jpg)
เปิดใจ "คุณตาล" สาวพลเมืองดี คู่กรณี "เคนลี Take Me Out" ยอมโดนด่ายุ่งเรื่องผัวเมีย แต่เห็นผู้หญิงถูกทำร้ายไม่ได้
น.ส.ศศิมา หรือ คุณตาล อายุ 28 ปี และ น.ส.พิรุณรุ้ง หรือ โฟน อายุ 30 ปี พลเมืองดีเจ้าของคลิป และบุคคลที่ปรากฏในคลิป คู่รักทำร้ายร่างกาย ภายในคอนโดย่านอโศกพระราม 9 พร้อมด้วยนายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือกัน จอมพลัง และนายกฤษฎา โลหิตดี หรือ ทนายโนบิ ทนายความ เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน สน. ดินแดง เพื่อให้ปากคำ หลังถูก นายเคนลี อายุ 26 ปี ลงบันทึกประจำวัน ว่าถูกพลเมืองดีทำร้ายร่างกาย และต้องการให้พลเมืองดีลบคลิปที่มีการเผยแพร่ ขณะมีปากเสียงกับแฟนสาวเมื่อกลางดึกเมื่อวานที่ผ่านมา
ซึ่งมีรายงานว่าพนักงานสอบสวนให้เข้ามาพบได้ประสานกับคู่กรณีให้เข้ามาพบด้วยเช่นกัน แต่ผ่านไปกว่า 3 ชั่วโมง นายเคนลีและแฟนสาวไม่ได้เดินทางมาพบพนักงานสอบสวน
โดย น.ส.พิรุณรุ้ง ผู้ถ่ายคลิปวันเกิดเหตุเล่าเหตุการณ์ให้สื่อมวลชนฟังว่า เหตุการณณ์เกิดขึ้นรุ่งเช้าวันที่ 8 มิ.ย. ขณะที่ตัวเองอยู่บนห้องมองลงมาเห็นผู้หญิงกำลังถูกทำร้ายร่างกาย สภาพเสื้อผ้าหลุดลุ่ย เมื่อเห็นเป็นผู้หญิงด้วยกันจึงรีบลงมาข้างล่างเพื่อให้ความช่วยเหลือ แต่พอลงมาเหตุการณ์เริ่มสงบแล้ว แต่ฝ่ายชายไม่พอใจ จึงด่าทอยั่วยุกัน ยอมรับว่าจุดประสงค์ที่ลงไปเพราะต้องการให้ความช่วยเหลือไม่ได้อยากมีปัญหา ส่วนกระแสตีกลับที่ถูกมองว่าตัวเองไปยุ่งเรื่องส่วนตัวของอีกฝ่าย ตัวเองเข้าใจและยอมรับ ยืนยันว่าเพียงแต่ต้องการช่วยเหลือผู้หญิงด้วยกันเท่านั้น
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าหากย้อนเวลากลับไปได้จะช่วยเหลือผู้หญิงคนนี้หรือไม่ ยืนยันว่าจะช่วยเหลือเหมือนเดิม หากคู่กรณีเดินทางมาพบพนักงานสอบสวนเพื่อทำการไกล่เกลี่ย ตัวเองก็พร้อมจะพูดคุยไกล่เกลี่ยและลบคลิปให้ หลังจากนี้ให้เป็นไปตามขั้นตอนตามกฎหมาย เบื้องต้นทราบว่าฝั่งของคู่กรณีจะเอาผิดตัวเองในฐานกระทำความผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์เนื่องจากถ่ายคลิปโดยไม่ได้รับการยินยอมและไปโพสต์ลงสื่อโซเชียลมีเดีย
ด้าน น.ส.ศศิมา บอกว่าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกลางดึกวันที่ 8 มิถุนายน แต่เธอเพิ่งนำคลิปนี้มาโพสต์ เวลานั้นเธอและเพื่อนกำลังนั่งเล่นอยู่ในห้อง ได้ยินเสียงผู้หญิงตะโกนดังลั่นถึง 5 นาที จึงเดินออกมาดูริมระเบียง เห็นผู้หญิงกำลังถูกผู้ชายทำร้ายตามภาพในคลิป เธอจึงเรียก รปภ. ไปช่วย พอเธอลงไปถึงผู้ชายคนดังกล่าวยังทำร้ายผู้หญิงอยู่ เธอจึงเกิดความสงสาร และพยายามจะเข้าไปห้ามปราม จังหวะที่กำลังชุลมุนด้วยแรงของผู้ชาย ทำให้เธอเกิดรอยฟกช้ำที่ผิวหนังบริเวณแขนด้านขวา แม้หลายคนจะมองว่าเป็นเรื่องของสามีภรรยา และเธอก็ไม่ควรเข้าไปยุ่งเกี่ยวหรือไม่ แต่เธอยืนยันว่าสิ่งที่ทำลงไปเพราะเจตนาดีและมีความเป็นห่วงผู้หญิงจริงๆ ต่อมาช่วงที่ตำรวจเข้ามาห้ามปราม สามีภรรยาอาศัยช่วงชุลมุนวิ่งหนีขึ้นห้องไป
ด้านทนายโนบิ ระบุว่าตนในฐานะคนกลาง มาเพื่อช่วยไกล่เกลี่ยเรื่องในทางคดีส่วนคดีความจะเป็นอย่างไรขอให้เป็นเรื่องทางคดี ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นขอให้ดูเจตนาของผู้ที่เข้าไปช่วยเหลือด้วย เพราะหากเกิดเห็นคนตกอยู่ในอันตรายแล้วไม่เข้าไปช่วยอาจก่อให้เกิดความผิดตามมา ส่วนประเด็นที่ น.ส.ศศิมา ไปทำร้ายร่างกายของอีกฝ่าย ต้องดูเจตนาและสาเหตุว่ามีการยั่วยุจนเป็นความสมัครใจทะเลาะวิวาทหรือไม่ โดยในวันนี้ได้มีการติดต่อไปทางฝั่งของคู่กรณีเพื่อขอพูดคุยแล้วแต่ยังไม่ได้ข้อสรุป หลังจากนี้พร้อมที่จะไกล่เกลี่ยหาข้อสรุป หากคู่กรณียืนยันที่จะดำเนินคดี ตนและทีมทนายพร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือ