ลูกบ้านร้องสื่อ ซื้อบ้านหรู 5 ล้าน 10 ล้าน อยู่ไปอยู่มาเสี่ยงถล่ม ทรุด-ร้าว-มีโพรงใต้สระน้ำ

ลูกบ้านร้องสื่อ ซื้อบ้านหรู 5 ล้าน 10 ล้าน อยู่ไปอยู่มาเสี่ยงตาย ทรุด-ร้าว-มีโพรงใต้สระน้ำ ผู้เสียหายมีทั้งนักธุรกิจ ผจก.แบงก์ นายตำรวจใหญ่

ดร.ภูวพัศ เวสานุชาติ ประธานโครงการหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ต.วัดไทร อ.เมือง จ.นครสวรรค์ ได้นำพาลูกบ้านที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านเดียวกัน จำนวน 9 ราย มาร่วมกันลงบันทึกประจำวันที่โรงพัก สภ.เมืองนครสวรรค์ กรณีได้ซื้อบ้านจากโครงการดังกล่าวแล้วต้องประสบกับปัญหาสระน้ำของหมู่บ้าน เกิดดินสไลด์ยุบตัว และลามเข้าจนถึงตัวบ้านของลูกบ้านบางส่วนจนได้รับความเสียหายไปหายหลัง

อีกทั้ง ยังมีปัญหาถนนภายในโครงการหมู่บ้านชำรุด อันเนื่องมาจากเกิดโพรงใต้พื้นถนน จนทำให้ถนนทรุดตัว รวมถึง เจ้าของผู้ก่อสร้างโครงการหมู่บ้าน ไม่ได้มีการเทลีนรองท่อระบายน้ำเอาไว้ด้วย ซึ่งอาจจะทำให้ส่งผลให้เกิดความเสียหายตามมาอีกมากมายในอนาคต จึงเดินทางมาลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สภ.เมืองนครสวรรค์ ก่อนจะเดินทางไปร้องเรียนต่อศูนย์ดำรงธรรม จ.นครสวรรค์ เพื่อให้ช่วยเหลือแก้ปัญหา เพราะที่ผ่านมานานกว่า 3 ปี ทางเจ้าของผู้ก่อสร้างโครงการหมู่บ้าน ได้มีการแก้ปัญหาแบบขอเอาตัวรอดให้ผ่านพ้นไปเป็นครั้งๆ โดยไม่ยอมแก้ปัญหาให้ตรงจุด จนถึงขณะนี้ ดินตลิ่งที่สระน้ำ ก็ยังเกิดการสไลด์อย่างต่อเนื่อง และสร้างความเสียหายให้กับตัวบ้านอย่างต่อเนื่องด้วยเช่นกัน 

จากการสอบถาม ดร.ภูวพัศ เวสานุชาติ ประธานโครงการหมู่บ้าน เปิดเผยว่า โครงการหมู่บ้านดังกล่าวเป็นโครงการหมู่บ้านจัดสรร แบบบ้านเดียว 2 ชั้น มีพื้นที่และกำแพงล้อมบ้าน ในราคา 3.5-10 ล้าน ซึ่งมีอยู่รวมกันกว่า 40 หลัง ส่วนบ้านที่เกิดปัญหาพังเสียหาย จะอยู่ที่บริเวณโซนริมสระน้ำของโครงการหมู่บ้าน จำนวน 9 หลัง ที่ถูกดินตลิ่งสระน้ำสไลด์กัดเซาะเข้าไปถึงบริเวณพื้นที่บ้านได้รับความเสียหายอย่างหนัก กำแพงด้านหลังของบ้านเกิดทรุดตัวแตกร้าว ส่วนบางหลังก็ได้รับความเสียหายหนักแตกร้าวไปถึงตัวบ้าน ซึ่งก็ยังคงทรุดตัวสร้างความเสียหายอย่างต่อเนื่อง หนำซ้ำ ยังพบว่า มีการเกิดโพรงใต้สระน้ำด้วย ซึ่งอาจเป็นอันตรายรายอย่างยิ่ง 

เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงการรับผิดชอบกับเจ้าของโครงการหมู่บ้าน ดร.ภูวพัศ ระบุว่า ปัญหาดินสระน้ำสไลด์จนทำให้บ้านเสียหายนั้น กลุ่มเจ้าของบ้านผู้เสียหายได้ซื้อบ้านมาตั้งแต่เมื่อ 6 ปีที่แล้ว และมาเกิดปัญหาดินสระน้ำสไลด์ เมื่อช่วงต้นปี 2563 ซึ่งก็ได้มีการรวมตัวกับแจ้งกับทางเจ้าของโครงการหมู่บ้านให้มาช่วยแก้ปัญหาอยู่หลายครั้ง แต่ทางเจ้าของก็รับผิดชอบแบบขอไปที โดยซ่อมไปแบบชั่วคราว ด้วยการเอาดินมาถมเอาให้รอดตัวเรื่อยๆ ไม่มีการซ่อมแซมอย่างจริงจังเลยสักครั้ง จึงทำให้บานปลายเกิดปัญหาใหญ่มากขึ้น 

“บ้านของผมซื้อมาราคา 5 ล้านกว่าบาท และก่อนซื้อก็เห็นแผนของโครงการจะมีการสร้างเขื่อนล้อมสระน้ำเอาไว้ด้วย เพื่อป้องกันไม่ให้ดินสระน้ำทรุดตัว แต่เมื่ออยู่ไป ทางเจ้าของโครงการหมู่บ้าน กลับไม่มาสร้างเขื่อนริมน้ำ แล้วปล่อยทิ้งไว้ให้ดินสไลด์ลุกลามไปยังตัวบ้านแต่ละหลัง หนำซ้ำยังเกิดโพรงใต้สระน้ำอีก ซึ่งมันถือว่าเป็นปัญหาใหญ่มากเลยนะ ถ้าดินใต้บ้านเกิดเป็นโพรงจากการถูกน้ำกัดเซาะ แล้วเกิดหลุมบ้านยุบตัวพังไป เจ้าของโครงการเขาจะรับผิดชอบไหวไหม แค่ทุกวันนี้ ความรับผิดชอบก็แทบจะไม่มีอยู่แล้ว และแต่ละคนสุดจะทนมาก จึงมีการที่เดินทางมารวมตัว เพื่อลงบันทึกประจำวันกับตำรวจ และจะเดินทางไปร้องทุกข์ต่อศูนย์ดำรงธรรมต่อไป 

อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า กลุ่มผู้เสียหายแต่ละคนที่เดินทางมาลงบันทึกประจำวันในวันนี้ ส่วนใหญ่เป็นนักธุรกิจ ผู้บริหารธนาคาร รวมถึงยังมีนายตำรวจระดับใหญ่ และแม้แต่ร้อยเวรโรงพัก สภ.เมืองนครสวรรค์ ก็ยังตกเป็นผู้เสียหายด้วย 

ส่วนการตรวจสอบบ้านที่มีปัญหาทั้งหมด 9 หลัง พบว่า กำแพงหลังบ้านแต่ละหลัง อยู่ชิดกับขอบริมตลิ่ง จนทำให้ฐานของกำแพงเริ่มมีการทรุดตัวตาม แล้วก็ยังมีบ้านบางส่วน ได้รับความเสียหายที่ตัวอาคารบ้านหลายจุด มีรอยแตกร้าว ใต้พื้นของอาคารบ้าน เมื่อลองเคาะแล้ว จะได้ยินเสียงไม่แน่น คล้ายกับดินใต้ล่างกวง รวมถึงยังพบว่า มีการซ่อมแซมตัวอาคารบ้านที่มีการแตกร้าวแล้ว แต่ทางเจ้าของโครงการ กลับให้ทีมงานมาทำงานซ่อมแซมให้แบบชุ่ยๆ ด้วย ซึ่งหลังจากที่กลุ่มผู้เสียหายออกจากโรงพักเดินทางไปร้องเรียนต่อยังศูนย์ดรงธรรม ทางเจ้าหน้าที่ได้รับปากว่า เช้าวันพรุ่งนี้ จะมีการเดินทางลงพื้นที่ตรวจสอบปัญหาทันที แต่ทางกลุ่มผู้เสียหายก็ยังหวั่นใจว่า อาจจะไม่ได้รับความเป็นธรรมอีก เพราะที่ผ่านมา ร้องเรียนไปยังหลายหน่วยงานแล้ว ทั้งในท้องถิ่น และจังหวัด แต่เรื่องก็ยังเงียบเหมือนเป็นเป่าสาก จึงได้นำเรื่องมาร้องเรียนยังสื่อมวลชนอีกทางด้วย