จับ "เซเลบทวิตเตอร์" ลวงเด็กหนุ่มหน้าตาดี-เน็ตไอดอล อัดคลิปเซ็กซ์ แพร่ในกลุ่มลับ

จับ "เซเลบทวิตเตอร์" ลวงเด็กหนุ่มหน้าตาดี-เน็ตไอดอล อัดคลิปเซ็กซ์ แพร่ในกลุ่มลับ

จับ "เซเลบทวิตเตอร์" ลวงเด็กหนุ่มหน้าตาดี-เน็ตไอดอล อัดคลิปเซ็กซ์ แพร่ในกลุ่มลับ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

จับกุมหนุ่มวัย 29 ปี เซเลบทวิตเตอร์ หลังล่อลวงเด็กหนุ่มหน้าตาดี-เน็ตไอดอล มามีเพศสัมพันธ์ อัดคลิปเผยแพร่กลุ่มลับ เบื้องต้น พบเงินรายได้หมุนเวียนหลักแสนบาท

วันนี้ (11 มิ.ย.) ​ศูนย์พิทักษ์เด็ก สตรี ครอบครัว ป้องกันปราบปรามการค้ามนุษย์ และภาคประมง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร./ผู้อำนวยการศูนย์ฯ และกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ได้สั่งการให้ ชุดสืบสวน กองกำกับการ 2 กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ หรือ ปคม. จับกุม นายนิติกร (สงวนนามสกุล) อายุ 29 ปี ในข้อหาค้ามนุษย์ฯ

การจับกุมดังกล่าวเป็นการขยายผลมาจากเมื่อเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา ตำรวจจับกุมผู้ต้องหาในคดีค้ามนุษย์ฯ ซึ่งเป็นแอดมินกลุ่มเกี่ยวกับการหลอกลวงเด็ก หรือเยาวชน มาถ่ายคลิปวิดีโอลามกอนาจาร หลังจากนั้นจะนำคลิปลามกอนาจารดังกล่าวมาขายในกลุ่มลับให้กับผู้ที่สนใจ ซึ่งจากการตรวจสอบพบเด็ก หรือเยาวชน ตกเป็น ผู้เสียหายจำนวนหลายราย

กระทั่งพบว่ามีผู้ใช้บัญชีทวิตเตอร์ ชื่อ "กร (ตัวจริง)" ซึ่งปัจจุบันมีผู้ติดตามบัญชีทวิตเตอร์ดังกล่าวมากกว่า 2.9 แสน มีการลงภาพและข้อความเนื้อหา เกี่ยวกับภาพลามก-อนาจาร ซึ่งเห็นอวัยวะเพศเด็กชาย และการร่วมเพศสัมพันธ์ของเด็กชายกับตนเองจำนวนมาก พร้อมข้อความเชิญชวนว่าหากใครสนใจคลิปวิดีโอดังกล่าวสามารถสมัครเข้าเป็นสมาชิกในกลุ่มลับของแอปพลิเคชั่นไลน์ โดยต้องเสียเงินค่าเข้ากลุ่ม

เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แฝงตัวสมัครเป็นสมาชิกเพื่อเข้ากลุ่ม จากการตรวจสอบพบว่ามีการเผยแพร่คลิป ขณะแอดมินกลุ่มมีเพศสัมพันธ์กับเด็กชายอายุต่ำกว่า 18 ปี จำนวนหลายราย ซึ่งเชื่อว่าเด็กชายจำนวนดังกล่าว มีการถูกล่อลวงมา จึงได้เข้าช่วยเหลือเด็กชายที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ที่ถูกหลอกลวงมาด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์

เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รวบรวมพยานหลักฐาน กระทั่งศาลอาญาได้อนุมัติหมายจับที่ 1080/2565 ลงวันที่ 7 มิถุนายน 2565 ในข้อหากระทำความผิดฐาน “ค้ามนุษย์โดยการแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากการผลิตหรือเผยแพร่วัตถุหรือสื่อลามก โดยได้กระทำแก่เด็กอายุเกินสิบห้าปีแต่ไม่ถึงสิบแปดปี, พรากผู้เยาว์อายุกว่าสิบห้าปีแต่ยังไม่เกินสิบแปดปีไปเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแล เพื่อหากำไรหรือเพื่อการอนาจาร โดยผู้เยาว์นั้นเต็มใจไปด้วย เพื่อความประสงค์แห่งการค้า หรือโดยการค้า เพื่อการแจกจ่ายหรือเพื่อการแสดงอวดแก่ประชาชน ทำผลิต มีไว้ นำเข้าหรือยังให้นำเข้าในราชอาณาจักร ส่งออกหรือยังให้ส่งออกไปนอกราชอาณาจักร พาไปหรือยังให้พาไปหรือทำให้แพร่หลายโดยประการใดๆ ซึ่งสื่อลามกอนาจารเด็ก, ร่วมกันชักจูง ส่งเสริม หรือยินยอมให้เด็กประพฤติตนไม่สมควรหรือน่าจะทำให้เด็กมีความประพฤติเสี่ยงต่อการกระทำผิด และร่วมกันใช้ ชักจูง ยุยง ส่งเสริม หรือยินยอมให้เด็กประพฤติตนไม่สมควร หรือน่าจะทำให้เด็กมีความประพฤติเสี่ยงต่อการกระทำผิดและกระทำการอันมีลักษณะลามกอนาจารเพื่อให้ได้มาซึ่งค่าตอบแทนหรือเพื่อการใด”

หลังจากนั้น พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ ผบก.ปคม. และ พ.ต.อ.พัฒนพงศ์ ศรีพิณเพราะ ผกก.2 บก.ปคม. มอบหมายให้ชุดสืบสวน นำโดย พ.ต.ท.ปฐมพงศ์ มีอยู่ สว.กก.2 บก.ปคม. เข้าจับกุม นายนิติกร (สงวนนามสกุล) อายุ 29 ปี สัญชาติไทย ได้ที่บ้านพักแห่งหนึ่งใน อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี เมื่อวันที่ 9 มิ.ย.ที่ผ่านมา

โดย นายนิติกร ให้การรับสารภาพว่า เป็นแอดมินกลุ่ม และเป็นเจ้าของบัญชีทวิตเตอร์ ชื่อ "กร (ตัวจริง)" และกลุ่มไลน์ลับ

นอกจากนี้ นายนิติกร ยังรับว่าเป็นผู้ถ่ายคลิปขณะมีเพศสัมพันธ์กับเด็กชาย อายุต่ำกว่า 18 ปี จำนวนหลายราย โดยตนได้หลอกชักชวนเด็กผู้ชายที่หน้าตาดี หรือเน็ตไอดอลต่างๆ ที่รู้จักกันผ่านสื่อสังคมออนไลน์มามีเพศสัมพันธ์กัน ซึ่งจะให้ค่าตอบแทนเป็นเงิน ครั้งละ 2,000-3,000 บาท

และเมื่อตนอัดคลิปวิดีโอดังกล่าวแล้ว จะนำมาขายและเผยแพร่ในกลุ่มลับที่ตนเองเป็นแอดมิน โดยตนเองจะได้ค่าตอบแทนเป็นค่าเข้ากลุ่มจากสมาชิก รายละ 500-1,000 บาท ซึ่งทำมานานกว่า 4 ปี เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนจึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน กองกำกับการ 2 กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย

พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง มีความห่วงใย เด็กผู้เสียหาย ที่ตกเป็นเหยื่อของกระบวนการค้ามนุษย์ เพราะนอกจากความเสียหายทางร่างกายที่เกิดขึ้นกับเด็กเหล่านี้แล้ว ยังมีความเสียหายทางจิตใจที่จะฝังรากลึก ส่งผลกระทบต่อใช้ชีวิตในอนาคต

จึงฝากเตือนภัยพี่น้องประชาชนที่อาจตกเป็นผู้เสียหาย และผู้ปกครองที่มีบุตรหลานเริ่มเข้าสู่วัยรุ่น ให้สังเกตพฤติกรรมของบุตรหลานว่ามีการใช้จ่ายเงินในลักษณะที่ฟุ่มเฟือยหรือไม่ รวมทั้งหมั่นตรวจสอบการใช้สื่อออนไลน์ของเด็กว่ามีความผิดปกติน่าสงสัยหรือไม่

ในส่วนของผู้ที่มีสื่อลามกเด็กไว้ในครอบครอง จะมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 287/1 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินห้าปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และหากมีการส่งต่อสื่อลามกเด็ก หรือมีส่วนหรือเข้าเกี่ยวข้องในการค้าเกี่ยวกับสื่อลามกอนาจารเด็ก จ่ายแจกหรือแสดงอวดแก่ประชาชน จะมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 287/2 ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สามปีถึงสิบปีถึงสิบปี และปรับตั้งแต่หกหมื่นบาทถึงสองแสนบาท

และฝากเตือนผู้ที่คิดจะหลอกลวงเด็กหรือเยาวชน มาบันทึกภาพ-คลิปวิดีโอแล้วนำมาเผยแพร่เพื่อหารายได้ ว่ากระทำดังกล่าวเป็นความผิดฐานค้ามนุษย์ และเป็นความผิดที่มีอัตราโทษจำคุกกว่าสิบปีต่อการกระทำผิดหนึ่งครั้ง และมีอายุความดำเนินคดี 20 ปี

หากประชาชนมีเบาะแส หรือได้รับความเดือนร้อน สามารถแจ้งข้อมูลได้ที่ กองบังคับการปราบปราม การค้ามนุษย์ หรือ โทร สายด่วน 1191 หรือเพจเฟซบุ๊ก กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ “เป็นมืออาชีพด้วยเทคโนโลยีทันสมัย คืนคุณค่าความเป็นคน ประชาชนได้พึ่งพา”

ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ พ.ต.ท.ปฐมพงศ์ มีอยู่ สารวัตรกองกำกับการ 2 กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ โทรศัพท์ : 097-191-7447

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook