เร่งขยายผล คดีทหารฆ่าถ่วงน้ำ "ครูหนิง" หลังผู้ต้องหาอ้างฆ่าเพราะหึงหวง

เร่งขยายผล คดีทหารฆ่าถ่วงน้ำ "ครูหนิง" หลังผู้ต้องหาอ้างฆ่าเพราะหึงหวง

เร่งขยายผล คดีทหารฆ่าถ่วงน้ำ "ครูหนิง"  หลังผู้ต้องหาอ้างฆ่าเพราะหึงหวง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ผบช.ภ.7 นำทีมตร.เพชรบุรี แถลงผลจับกุม “จ.ส.อ.” ฆ่าถ่วงน้ำ “ครูหนิง” ยังไม่ชัดเป็นทหารจริงหรือแอบอ้าง สั่งสอบขยายผลต่อก่อเหตุคนเดียวหรือไม่

พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7 พร้อมด้วยพล.ต.ต.อุทัย กวินเดชาธร ผบก.ภ.จว.เพชรบุรี และคณะ ร่วมแถลงถึงการจับกุมจ.ส.อ.สุรินทร์ หรือติ๊ก อายุ 38 ปี ทหารค่ายฝึกรบพิเศษแก่งกระจาน ผู้ต้องหาคดีฆาตกรรมอำพรางศพครูหนิง ครูกศน. อายุ 40 ปี ชาวจังหวัดชุมพร

สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 1 มิ.ย.65 นายวาที อายุ 70 ปี ที่ มาที่ สภ.แก่งกระจาน แจ้งว่า ครูหนิง บุตรสาว ซึ่งรับราชการอยู่ที่ กศน.อำเภอแก่งกระจาน หายตัวไปพร้อมกับรถยนต์โดโยต้า ทะเบียน บพ 9114 เพรรบุรี ไม่สามารถติดต่อได้ตั้งแต่วันที่ 26 พ.ค.65 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แก่งกระจาน จึงได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ กองกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดเพชรบุรี ออกสืบสวนติดตามหาข่าว ต่อมาวันที่ 9 มิ.ย. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสืบสวนหาข่าวจนสามารถติดตามรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นรึโว่ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ซึ่งเป็นรถของครูหนิงได้ที่ ม.2 ต.ท่ายาง อ.ท่ายาง จ.เพชรบุรี ซึ่งผู้ต้องหา นำมาจำนำไว้เมื่อวันที่ 27 พ.ค. ในราคา 90,000 บาท

จากการสืบสวนทราบว่าผู้ต้องหา มีความสนิทสนมกับครูหนิง น่าเชื่อว่าผู้ต้องหาเป็นผู้ก่อเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงรวบรวมพยานหลักฐานยื่นคำร้องต่อศาลเมื่อวันที่ 10 มิ.ย. เพื่อขออนุมัติหมายจับในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา / ปิดบังซ่อนเร้นย้ายหรือทำลายศพหรือส่วนของศพเพื่อปิดบังการตายหรือเหตุแห่งการตาย

จากการสอบถามเบื้องต้นผู้ตัองหารับว่าเมื่อวันที่ 27 พ.ค. เวลาประมาณ 01.00 น. ได้เดินทางมาพบ ครูหนิงที่บ้านพัก และมีปากเสียงกันและถูกด่าทอด้วยถ้อยคำหยาบคายและด่าว่าไปถึงพ่อแม่ จึงเอามือบีบคอจนหมดสติ และประคองขึ้นรถยนต์ของครูหนิงแล้วพาไปที่ไร่ของตนซึ่งอยู่ที่หมู่บ้านดอนยาง หมู่ 1 ต.ดอนยาง อ.เมืองเพชรบุรี จ.เพชรบุรี แล้วทิ้งศพของ ลงในสระน้ำภายในไร่ดังกล่าว สำหรับของกลางในคดีที่ตำรวจนำมา ประกอบด้วยรถยนต์ของครูหนิงที่ไม่ติดแผ่นแผ่นป้ายทะเบียน รวมทั้งของกลางอื่นๆที่ใช้ในการก่อเหตุ เช่น ก้อนอิฐ เหล็ก แหนบรถยนต์ ฯลฯ ส่วนประวัติการกระทำความผิดของผู้ต้องหาไม่พบประวัติการกระทำความผิด

พล.ต.ท.ธนายุตม์ กล่าวว่า ขณะนี้กำลังสอบสวนเพื่อขยายผลอยู่ว่า มีใครร่วมก่อเหตุด้วยหรือไม่ แต่หลักฐานขณะนี้บ่งชี้ว่าก่อเหตุคนเดียวแต่ก็เป็นที่น่าตั้งข้อสังเกตว่าของกลางหนักรวมกันกว่า 50 กิโลกรัม จะสามารถซ่อนอำพรางคนเดียวได้หรือไม่ ส่วนสาเหตุที่ลงมือฆ่าต้องสอบเพิ่มเติมว่าสาเหตุที่แท้จริงมาจากอะไร เพราะการทะเลาะกัน จากเรื่องหึงหวง เป็นเพียงคำกล่าวอ้างของผู้ต้องหาแต่เพียงเท่านั้น

เมื่อสอบถามว่าหลังจากที่ผู้ต้องหานำรถไปจำนำแล้วมีบุคคลที่สามมารับกลับหรือไม่ พล.ต.ท.ธนายุตม์ กล่าวขอบคุณสื่อมวลชนที่ตั้งข้อสังเกตประเด็นนี้เดี๋ยวนำไปสอบสวนต่อไป และหากสอบสวนแล้วว่าอู่รถที่รับจำนำมีส่วนเกี่ยวข้องก็จะดำเนินคดีด้วยเช่นกัน

ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวได้ตั้งข้อสังเกตว่าคดีนี้ผู้ต้องหาเป็นทหาร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ระบุทันทีว่า กำลังตรวจสอบอยู่ เราจะไปกล่าวโทษเขาไม่ได้บางทีอาจสามารถแอบอ้างได้ เมื่อถามย้ำว่าถ้าหากยังไม่ตรวจสอบว่าเป็นทหาร แล้วในช่วงเช้าที่ผ่านมามีการนำตัวผู้ต้องหาไปฝากขังที่ศาลทหาร มทบ.15ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 กล่าวว่า อยู่ในกระบวนการสอบสวน ถึงแม้ว่าเป็นใครยืนยันว่าจะดำเนินการตามขอบเขตของกฎหมาย

พล.ต.ต.อุทัย กล่าวว่า ในขั้นตอนของการสอบสวน รวมทั้งไปตอนไปชี้จุด ผู้ต้องหาให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ไม่มีท่าทีหรืออาการเครียดแต่อย่างใดยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมกับผู้เสียชีวิตและครอบครัวผู้เสียชีวิตอย่างยุติธรรม

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook