แฟนมีตติ้งแด๊ดดี้ "ศิธา" ในวันที่การเมืองคือเรื่องของแฟนด้อม

แฟนมีตติ้งแด๊ดดี้ศิธา ในวันที่การเมืองคือเรื่องของแฟนด้อม

หลังเลือกตั้งผู้ว่า กทม. แม้ น.ต.ศิธา ทิวารี ผู้สมัครจากพรรคไทยสร้างไทย จะไม่ได้ชนะการเลือกตั้งเป็นพ่อเมืองหลวง แต่กระแสความนิยมของเขากลับเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนเกิดนแฮชแท็ก #แด๊ดดี้ขยี้เผด็จการ และ #แด๊ดดี้ศิธา เป็นที่ชื่นชอบของผู้คนทั้งบนโลกออนไลน์และออฟไลน์ เห็นได้จากการจัดกิจกรรม ‘ปิดโรงดูหนัง(ท็อป)กันกับผู้พันปุ่น’ ที่ให้แฟนๆ ในเฟซบุ๊กและทวิตเตอร์ของ น.ต.ศิธา ได้มาทำกิจกรรม พบปะพูดคุย กับเจ้าตัว และดูหนัง Top Gun: Maverick ด้วยกัน เรียกง่ายๆ ว่าเป็นงานแฟนมีตติ้งนั่นเอง ซึ่งบัตรของวานนี้กว่า 1,000 ใบ ก็เต็มภายใน 15-30 นาทีของทุกรอบที่เปิดจอง และมีคนมารอคิวรับบัตรหลุดงานหน้าอีกจำนวนมาก

ในงาน น.ต.ศิธา นอกจากจะทำกิจกรรมเล่นเกมส์ แจกเสื้อ แจกหมวก ให้กับผู้เข้าร่วมงานแล้ว เขายังให้สัมภาษณ์ว่า ไอเดียของการปิดโรงดูหนังเรื่องนี้เพราะต้องการให้คนรุ่นใหม่ที่เห็นภาพทหารในด้านลบ คือใช้อำนาจรัฐประหาร พรากประชาธิปไตย และบริหารประเทศอย่างไม่มีประสิทธิภาพจนนำไปสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย และคนจำนวนมากเสียชีวิตจากโรคระบาด แต่ในขณะเดียวกันทหารที่อยู่ข้างประชาธิปไตย และทหารที่ทำหน้าที่ของตัวเองในการปกป้องชาติบ้านเมือง และไม่ต้องการเข้ามายุ่งเกี่ยวการเมืองก็ยังมีอยู่ และภาพยนตร์เรื่องนี้จะเป็นแรงบันดาลใจให้กันคนที่อยากเป็นทหารดี รวมถึงเป็นกำลังใจให้ทหารที่ดีปฏิบัติหน้าที่ของตัวเองต่อไปด้วย

อย่างไรก็ตาม น.ต.ศิธา กล่าววว่าการเมืองในตอนนี้อยู่ในช่วงที่ใกล้ถึงการเลือกตั้ง เป็นช่วงเวลาที่จะได้สั่งสอนคนที่ทำให้ประชาธิปไตยบิดเบือน แต่อย่างไรก็ตามการชุมนุมหรือแสดงความคิดเห็นตามระบอบประชาธิปไตยยังต้องทำได้

“สั่งสอนคนที่ทำให้ประชาธิปไตยบิดเบือนด้วยการเลือกตั้ง” น.ต.ศิธา กล่าว

ด้านแฟนๆ ที่มาร่วมงาน ก็รับเสื้อและเข้าแถวถ่ายรูปกับ น.ต.ศิธา เป็นแถวยาว มีทั้งผู้ชาย ผู้หญิง เด็ก ผู้ใหญ่ และบางกลุ่มก็มากันทั้งครอบครัว หลายคนก็พกของฝากมาให้ด้วย.

มายา หนึ่งในแฟนคลับที่มาร่วมงานและเอากระเป๋าจากป้ายหาเสียงของเขามาให้เป็นของที่ระลึก บอกว่ารู้จัก น.ต.ศิธา มาตั้งแต่เป็น ส.ส. พรรคไทยรักไทย แต่ก็ยังไม่ได้อะไรมาก จนกระทั่งหลังเลือกตั้งผู้ว่า กทม. เห็น น.ต.ศิธา เริ่มเคลื่อนไหวในทวิตเตอร์ ฟาด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ก็เริ่มชอบ จึงติดตามในช่องทางออนไลน์ตลอด แต่ส่วนตัวก็ทำใจว่าหทกจะติดตามใครก็ต้องดูกันไปยาวๆ ว่าที่เราติดตามคือคนจริง หรืองูเห่า ขณะเดียวกันเรายอมรับว่าเป็นแฟนด้อม และมี น.ต.ศิธา เป็นเมน แต่ต้องดูว่าเขาจะยืนระยะได้นานแค่ไหน ทำงานได้ตอบสนองความต้องการประชาชนหรือไม่ การเป็นแฟนด้อมก็เหมือน ส.ส. กับโหวตเตอร์ แต่จะใกล้ชิดกว่า เรารู้สึกว่าถ้าวันหนึ่งเขาทำไม่ดี เราจะเป็นด่าเขาเอง แล้วถ้าเขาปรับตัว เขาก็จะได้ใจเราและเพื่อนๆ ต่อไป แต่ถ้าทำให้ผิดหวังและทำงานไม่ตอบโจทย์ก็เลิกชอบ แยกย้าย

“เรารู้จักเขาในมุมที่เขาอยากให้เรารู้จัก ถ้าเกิดเขาควบคุมมุมที่อยากให้เรารู้จักได้ ภายใน 4 ปีพิสูจน์ได้ว่าทำอะไร เราก็เลิกเขาต่อ แต่ถ้าเขาทำไม่ได้ก็จบ เหมือนกับแฟนด้อนของศิลปินที่ถ้าเขาทำผลงานหรือทำไม่ได้ตามความคาดหวัง แฟนคลับก็เลิกชอบ คนที่หลับหูหลับตาอวยทุกวันนี้ก็น้อยลงเรื่อยๆ”

ด้านบีม แฟนคลับที่มารอลงทะเบียนคนแรก เล่าว่า ติดตาม น.ต.ศิธา มาตั้งแต่หาเสียงเลือกตั้งผู้ว่า กทม. ความประทับใจแรกคือ คนนี้หล่อ แล้วก็เริ่มติดตาม แต่ที่ชอบจริงๆ คือ ตอนดีเบตที่เขาพูดเรื่องความเท่าเทียมทางเพศและสมรสเท่าเทียม เป็นเรื่องที่ตรงใจ และอยากให้มีสิทธินี้นานแล้ว ประกอบกับ น.ต.ศิธา นำเสนอเรื่องนี้ในเวทีดีเบตได้อย่างเข้าใจจริงๆ มากกว่าคนอื่นๆ หรือนักการเมืองคนอื่นที่เคยพูดเพื่อหาเสียง ขณะเดียวกันการติดตาม น.ต.ศิธา ก็ทำให้ตัวเองสนใจข่าวสารการเมืองมากขึ้น ขณะเดียวกันก็มีความคาดหวังว่าอยากให้ น.ต.ศิธา ทำในเรื่องที่เคยพูดไว้ให้เป็นจริง และตัวเองก็พร้อมที่จะสนับสนุนเต็มที่ และจะติดตามต่อไป