ตะลึง! "นายกโบว์ลิง" ลูกชายบิ๊กแจ๊ส วูบหมดสติจนต้องหามส่ง รพ. คาดถูกวางยาพิษ

ตะลึง! "นายกโบว์ลิง" ลูกชายบิ๊กแจ๊ส วูบหมดสติจนต้องหามส่ง รพ. คาดถูกวางยาพิษ

ตะลึง! "นายกโบว์ลิง" ลูกชายบิ๊กแจ๊ส วูบหมดสติจนต้องหามส่ง รพ. คาดถูกวางยาพิษ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

"นายกโบว์ลิง" ลูกชายบิ๊กแจ๊ส วูบหมดสติจนต้องนำตัวส่งโรงพยาบาลเพื่อช่วยชีวิต คาดถูกวางยาพิษ

วันนี้ (15 มิ.ย.) ร.ต.อ.ดร.ตรีลุพธ์ ธูปกระจ่าง หรือ "นายกโบว์ลิง" นายกเทศมนตรีนครรังสิต กล่าวว่า เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 9 มิ.ย. 65 เวลา 15.00 น. ตนมีอาการวูบ ตัวสั่น มือสั่น จนมีสีเขียว ตัวเย็น เหนื่อยหอบภายในห้องทำงานโดยไม่ทราบสาเหตุ หลังจากที่ดื่มน้ำเข้าไป เพื่อนร่วมงานเห็นจึงเข้าช่วยเหลือและเรียกหน่วยแพทย์ฉุกเฉินที่เข้าเวรอยู่ช่วยดูอาการเบื้องต้นและวัดความดัน พบว่าสูงถึง 180 กว่า หลังจากหน่วยแพทย์ช่วยเหลือเบื้องต้นแล้วจึงนำตนส่งโรงพยาบาลเปาโล รังสิต แอดมิทอยู่ 2 วัน โดยผลการเอกซเรย์สมองและหัวใจก็ปกติดี

ต่อมาได้ทำ MRI ที่โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ ผลออกมาปกติ แต่อาการของตนก็ยังไม่ปกติ มีอาการรู้สึกวูบๆ และมือสั่นในบางครั้ง ตนจึงนำผลตรวจมาปรึกษาแพทย์ที่โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ โดยคุณหมอได้ทำเพทเอ็มอาร์ไอ มีการฉีดสีเข้าเส้นเลือดในร่างกายเพื่อตรวจสมองว่ามีการผิดปกติอย่างไร ซึ้งต้องรอผลให้แพทย์วิเคราะห์อีกครั้ง

big-jazz-son-150622-1

ส่วนสาเหตุการป่วยฉุกเฉินครั้งนี้หลังจากที่ตนดื่มน้ำแล้วมีอาการวูบและมือสั่น เนื่องจากสุขภาพของตนแข็งแรง ที่ผ่านมาไม่เคยมีอาการแบบนี้มาก่อน ครั้งนี้เป็นครั้งแรกในชีวิตที่เกิดอาการขึ้น ตนก็ยังคิดว่าอาการที่มึนๆ เมาๆ อาจจะมีใครเอาอะไรมาให้ทานบ้าง ซึ่งตนได้สอบถามแม่บ้านที่ดูแลว่าเอาอะไรมาให้ทาน ซึ่งหลังจากที่มีอาการวูบพร้อมกับมือสั่นตัวสั่นอยู่ตลอดเวลา จนมือเขียวก็มีหน่วยกู้ชีพในเทศบาลนครรังสิตมาช่วยปฐมพยาบาลในเบื้องต้น แต่ไม่สามารถเจาะเลือดที่ปลายนิ้วมือเพื่อวัดน้ำตาลในเลือดได้ เพราะเจาะแล้วไม่มีเลือดไหลออกมา เมื่อตนพอได้สติบ้างเจ้าหน้าที่ก็ช่วยกันส่งตัวไปโรงพยาบาล เมื่อตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลอย่างละเอียดแล้วกลับไม่พบสาเหตุ

ต่อมา พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง (บิดา) ซึ่งมีความรู้ด้านสมุนไพรได้แนะนำให้ทานใบไม้สมุนไพรชนิดหนึ่งที่ใช้ตรวจสอบสารเคมีที่เป็นพิษเข้าร่างกาย ตนจึงทานดูพบว่า ลิ้นของตนเปลี่ยนเป็นสีดำ จากนั้นตนจึงทดลองให้คนอื่นทานตรวจสอบดูก็ไม่เป็นเหมือนตน ตามที่พระอาจารย์ที่เชี่ยวชาญการรักษาด้วยสมุนไพรแจ้งมาว่า การที่ลิ้นและภายในปากมีสีดำนั้นแสดงว่าร่างกายต้องได้รับสารเคมีที่เป็นพิษได้เข้ามาในร่างกายเป็นจำนวนมาก ซึ่งน่าจะปนเปื้อนมากับอาหาร ซึ่งหากรับประทานในปริมาณที่มากอาจจะทำให้เสียชีวิตได้ในทันที

ทางด้านแพทย์หญิงมนธวัล เวชอนันนุรักษ์ แพทย์เฉพาะทางอายุรศาสตร์โรคหัวใจ โรงพยาบาลเปาโล รังสิต กล่าวว่า ร.ต.อ.ดร.ตรีลุพธ์ ธูปกระจ่าง หรือ นายกโบว์ลิง นายกเทศมนตรีนครรังสิต ซึ่งเป็นคนไข้ได้เข้ามาที่โรงพยาบาลเนื่องจากมีอาการวูบ หน้ามืด เวียนศีรษะ แต่ยังไม่หมดสติ ซึ่งแรกรับมีอาการอ่อนเพลียค่อนข้างเยอะ หมอได้ตรวจร่างกายเบื้องต้น ไม่ได้พบความผิดปกติอะไร แต่ทางการแพทย์ตรวจอย่างละเอียด โดยมีการตรวจในเรื่องของผลเลือด เอกซเรย์คอมพิวเตอร์สมองและตรวจหัวใจ ระหว่างที่คนไข้อยู่ในห้องฉุกเฉินได้ตรวจคลื่นหัวใจและได้ตรวจในเรื่องของหัวใจอย่างละเอียดเพิ่มขึ้น โดยมีการอัลตราซาวด์หัวใจ และติดมอนิเตอร์หัวใจตลอด 24 ชั่วโมง พบว่าปกติดี

ในส่วนของการเอกซเรย์คอมพิวเตอร์สมองผลออกมาก็ปกติดีทั้งหมด เมื่อซักประวัติย้อนหลังพบว่า นายตรีลุพธ์ มีประวัติทำงานหนักและพักผ่อนน้อย เบื้องต้นมีการให้ยา ให้วิตามินบำรุง และให้น้ำเกลือ คนไข้ก็มีอาการดีขึ้น ซึ่งจะมีการนัดให้เข้ามาตรวจอาการอีกครั้งหนึ่ง

ขณะที่ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี กล่าวว่า ปกติลูกชายตนมีร่างกายที่แข็งแรง ไม่เคยมีอาการเกี่ยวกับทางสมอง ไม่มีอาการเกี่ยวกับหลอดเลือด แต่อยู่ๆ ก็วูบไป มีอาการเบลอ ความดันขึ้นสูงมาก ผิดปกติ มือเขียว เนื่องจากตนเป็นแพทย์ทางเลือก อาการแบบนี้แสดงให้เห็นว่าขาดเลือดกะทันหันอย่างเฉียบพลัน ซึ่งตนวิเคราะห์เบื้องต้นได้ 2 อย่างคือ 1. เกิดจากหัวใจ 2. เกิดจากหลอดเลือดสมอง

อาการที่แสดงออก คือ เลือดไปเลี้ยงที่มือและเท้าไม่ได้ จึงแอดมิทที่โรงพยาบาล ทางแพทย์ให้การดูแลอย่างดี มีการตรวจร่างกายตลอด 24 ชั่งโมง เมื่อเข้าโรงพยาบาลแล้วทุกอย่างก็ค่อยๆ ดีขึ้น ความดันเริ่มกลับมาเป็นปกติ นอกจากนี้ ตนได้ส่งไปตรวจเพิ่มเติม เข้าอุโมงค์เอ็มอาร์ไอที่โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ ทั้งหลอดเลือดสมอง หัวใจ ทุกอย่างออกมาปกติ ภายหลังจึงมาฉุกคิดว่า มีใครเอาอะไรมาให้กินหรือไม่

"ซึ่งผมมีความรู้เรื่องสมุนไพรอยู่แล้ว ผมจึงให้ลูกชายเคี้ยวสมุนไพรชนิดหนึ่งเพื่อทดสอบ ซึ่งสมุนไพรชนิดนี้หากมีสารแปลกปลอมจะทำให้ลิ้นเราเปลี่ยนสีเป็นสีดำ ผมก็ให้เคี้ยว 10 ใบ จากลิ้นปกติเปลี่ยนเป็นสีดำ แสดงให้เห็นว่ามีสารที่เป็นพิษเข้าไปในร่างกาย ผมจึงได้หารือกับ พล.อ.ต.นายแพทย์สันติ ศรีเสริมโภค รองเลขาธิการราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ซึ่งให้เข้าไปเจาะเลือดเพื่อแยกวิเคราะห์ผลเลือดอย่างละเอียดอีกครั้ง ถือว่าเป็นอุทาหรณ์" พล.ต.ท.คำรณวิทย์ กล่าว

นอกจากนี้ นายก อบจ.ปทุมธานี กล่าวเพิ่มเติมว่า "หากมีคนทำต้องมาคุยกัน ผมก็ศิษย์มีอาจารย์เหมือนกัน มาทำกับลูกผมขนาดนี้จะให้ผมยอมเหรอ ทีนี้ก็ต้องเอาเรื่องจริงมาพูดกัน โดยเราได้พยายามประสานคุณหมอที่เชี่ยวชาญตามโรงพยาบาลต่างๆ ตรวจผ่านเครื่องมือทางการแพทย์ในหลายๆ ที่ แต่แพทย์ก็ยังหาสาเหตุไม่พบว่าเกิดจากสาเหตุใดที่ร่างกายขาดเลือดเฉียบพลันขนาดนี้ ต่อไปก็ต้องระวังตัว เนื่องจากคนที่สันดานสกปรกอย่างนี้ยังมีอยู่ ขอให้กรรมตามทันแล้วกัน ให้มันคิดบางว่า ถ้าเป็นลูกมันบ้างมันจะรู้สึกอย่างไง จะยอมไหม"

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook