ร้านอาหารดังเผย “ไม่รับทำอาหาร-ขนมใส่กัญชา” หวั่นผลข้างเคียงต่อลูกค้า
ร้านอาหารและเบเกอรี่ชื่อดัง “Mad Sugar Bakery & More” โพสต์เฟซบุ๊กยืนยัน ไม่รับทำอาหารและขนมที่มีส่วนผสมของกัญชา พร้อมแสดงความกังวล เนื่องจากการเปิดเสรีกัญชาโดยไม่มีการเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับผลข้างเคียงหรืออันตรายของการแพ้กัญชา หรือใช้กัญชาเกินขนาด อาจจะส่งผลกระทบต่อประชาชนได้
สุจิตรา อุ่นเอมใจ เจ้าของร้าน Mad Sugar Bakery & More และเป็นผู้โพสต์สเตตัสดังกล่าว เปิดเผยกับ Sanook ว่า โพสต์ดังกล่าวเกิดจากความกังวล เนื่องจากผลกระทบต่อร่างกายของผู้บริโภคกัญชาแต่ละคนมีความแตกต่างกัน โดยอาจจะมีผลต่อสมอง เป็นพิษ หรืออาจจะทำให้ผู้บริโภคเมาหรือแพ้ได้ ซึ่งยังไม่มีใครให้ข้อมูลกับผู้ประกอบการร้านอาหารว่า หากลูกค้ามีอาการแพ้ ทางร้านจะมีข้อปฏิบัติอย่างไร
“ต้องมีประกาศว่าแต่ละร้านจะมีการใช้กัญชาเป็นส่วนผสมในอาหารชนิดใดบ้าง ควรจะมีการควบคุมตรงนี้ด้วยค่ะ เพราะไม่อย่างนั้น ถ้ามีร้านที่เขาเชื่อว่าใส่กัญชาไปในอาหาร อาหารจะอร่อยขึ้น แต่ไม่ได้เปิดเผยข้อมูลนี้ ก็อาจจะเจอคนที่แพ้ได้ อีกอย่างหนึ่ง ถึงแม้ว่าเราจะบอกว่าเราใส่ แต่เราก็ไม่สามารถรับผิดชอบต่อผลที่จะเกิดขึ้นต่อร่างกายของลูกค้าได้ เพราะมันยังเป็นของใหม่อยู่ค่ะ”
ท่ามกลางกระแส “กัญชาฟีเวอร์” ที่ร้านอาหารหลายร้านเริ่มพัฒนาสูตรอาหารผสมกัญชา สุจิตรากลับยังคงสวนกระแส และแม้ว่าจะมีการออกกฎหมายควบคุมเรื่องการใช้กัญชาในอาหาร เธอก็ยังยืนยันว่าจะไม่ผสมกัญชาในอาหารของร้าน
“จากประสบการณ์คนที่ใช้บ่อย ก็คงไม่ใช้ค่ะ เพราะว่ามันไม่ได้มีผลกระทบแค่เราเป็นผื่นหรือล้วงคออาเจียนออกมาแล้วเราจะหาย เพราะถ้าเรากินเข้าไป มันมีผลต่อสมอง และเวลาเรากิน มันจะมีผลแรงกว่าดูด แล้วมันจะอยู่นานกว่ามาก สมมติว่าเราดูดกัญชา ผลมันจะอยู่ไม่เกิน 2 ชม. แต่ถ้าเรากิน มันจะอยู่ 8 ชม. เลยค่ะ ซึ่งถ้าคนที่เขาไม่เคย ไม่ชิน ไม่รู้ มันก็จะทรมาน ก็เลยไม่เสี่ยงดีกว่า เพราะว่าร่างกายแต่ละคนในยุคนี้ก็อ่อนไหว”
“ทางร้านไม่ได้จับทุกกระแสที่เกิดขึ้นในสังคม แต่พยายามเลือกสิ่งที่เหมาะกับร้านและความปลอดภัยของลูกค้าเป็นหลัก” สุจิตรากล่าว
ในขณะที่หลายคนยินดีกับกระแสกัญชาเสรี แต่ก็ยังมีอีกหลายฝ่าย ทั้งบุคลากรทางการแพทย์และผู้บริโภคทั่วไป ที่แสดงความกังวลเกี่ยวกับการเปิดเสรีกัญชาโดยไม่มีกฎหมายรองรับ การเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับกัญชา รวมทั้งผลกระทบต่อร่างกายที่อาจรุนแรงได้