ทีมเศรษฐกิจพรรคไทยสร้างไทย จวกรัฐเก็บภาษีหุ้น ฉุดเครื่องยนต์ตลาดลงทุนพัง!

ทีมเศรษฐกิจพรรคไทยสร้างไทย จวกรัฐเก็บภาษีหุ้น ฉุดเครื่องยนต์ตลาดลงทุนพัง!

ทีมเศรษฐกิจพรรคไทยสร้างไทย จวกรัฐเก็บภาษีหุ้น ฉุดเครื่องยนต์ตลาดลงทุนพัง!
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจถดถอย กระทรวงการคลังเตรียมเสนอคณะรัฐมนตรีเก็บภาษีขายหุ้น (Financial Transaction Tax) 0.1% โดยชี้แจงว่ายกเว้นมาตั้งแต่ปี 2534 และจะให้ระยะเวลา 90 วันหลังประกาศในพระราชกฤษฎีกา เพื่อให้โบรกเกอร์ทำระบบข้อมูลและนำส่งภาษีให้กับกรมสรรพากร

ด้าน สุพันธุ์ มงคลสุธี หัวหน้าทีมเศรษฐกิจพรรคไทยสร้างไทย และอดีตประธานกรรมการสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ให้สัมภาษณ์กับทีมข่าว Sanook News ว่า ตอนนี้เครื่องยนต์ทางเศรษฐกิจของประเทศหลายตัวยังไม่สามารถกลับมาขับเคลื่อนได้เต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นการเกษตร, การท่องเที่ยว, และอุตสาหกรรม ส่วนการใช้จ่ายของภาครัฐไม่ได้ตอบโจทย์ให้เกิดการหมุนเวียนของเงินไปยังเศรษฐกิจระดับฐานราก แต่ตลาดทุนเป็นเครื่องยนต์อีกตัวที่กำลังฟื้นตัว แม้จะยังไม่เติบโตมากนัก แต่ก็ถือว่าแข็งแกร่งที่สุดถ้าเทียบกับประเทศอื่นๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เนื่องจากตลาดหลักทรัพย์ไทยแอคทีฟและมีเงื่อนไขที่เอื้อต่อการลงทุน

ดังนั้น หากออกมาตรการเก็บภาษีขายหุ้นซึ่งเป็นตลาดที่มีความอ่อนไหวสูง อาจจะส่งผลต่อความมั่นใจของนักลงทุนและสถาบันการลงทุนต่างๆ เขาอาจจะดึงเงินกลับได้อย่างรวดเร็ว และอาจทำให้ตลาดทุนไทยปรับตัวลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งในช่วงที่เศรษฐกิจไม่ดีซื้อขายน้อย การเก็บภาษีตอนนี้ก็จะได้รายได้น้อย ไม่กี่หมื่นล้านบาท แต่อาจจะทำให้มูลค่าการลงทุนในตลาดลดลงไปเกือบแสนล้านบาท สุพันธุ์เสนอว่า ควรจะเริ่มภาษีเก็บปีหน้า รอให้เศรษฐกิจดีหรือกลับมาฟื้นตัวอย่างเต็มที่ก่อน เพราะเชื่อว่าต่อให้มีช่วงเวลา 90 วัน เศรษฐกิจก็ยังฟื้นตัวกลับมาไม่ทัน

"ช่วงเศรษฐกิจดี จะเก็บภาษีไม่มีใครว่า แต่ช่วงนี้เศรษฐกิจไม่ดี ความหวั่นไหวของตลาดทุนเริ่มสูงขึ้น เห็นได้จากตลาดต่างประเทศตกเกือบ 30% บ้านเรายังตกน้อยมาก หากมีเชื้อทำให้คนไม่มั่นใจ คนมันไปแล้วจะดึงกลับมาไม่ใช่ง่าย แล้วถ้าจะบอกว่าเก็บภาษีวันนี้ พรุ่งนี้ไม่เก็บ ก็ไม่ใช่เล่นขายของ" สุพันธุ์ กล่าว

ทั้งนี้ สุพันธุ์ กล่าวว่า รัฐบาลควรต้องหาวิธีการหารายได้ใหม่ โดยการใช้เงินที่กู้มาไปลงทุนกับเครื่องยนต์ทางเศรษฐกิจตัวอื่นๆ เช่น เปิดประเทศกระตุ้นการท่องเที่ยว ส่งเสริมการเกษตรให้มีผลผลิตที่มากขึ้นและคุณภาพที่ดีขึ้น เพื่อการส่งออกและตอบโจทย์วิกฤติอาหารโลกตอนนี้ ไม่ใช่แจกเงินแล้วจมหายลงไปในน้ำ แล้วใช้วิธีหารายได้ที่เป็นการซ้ำเติมประชาชน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook