เผาแล้ว "เจเจ" สาวข้ามเพศถูกฆ่าหมกบ้าน แม่ขอจองเวรแฟนฝรั่ง รอผล DNA มัดตัว

เผาแล้ว "เจเจ" สาวข้ามเพศถูกฆ่าหมกบ้าน แม่ขอจองเวรแฟนฝรั่ง รอผล DNA มัดตัว

เผาแล้ว "เจเจ" สาวข้ามเพศถูกฆ่าหมกบ้าน แม่ขอจองเวรแฟนฝรั่ง รอผล DNA มัดตัว
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

เผาแล้ว "เจเจ" สาวข้ามเพศถูกฆ่าหมกบ้าน แม่ไม่อโหสิกรรมให้แฟนฝรั่งของลูก ขอจองเวรไปตลอด รอผล DNA มัดตัว

ผู้สื่อข่าวรายงานถึงความคืบหน้า คดีกรณี พบศพ นายธีรพงศ์ หรือ เจเจ อายุ 31 ปี สาว LGBTQ+ ที่ถูกฆ่าหมกศพไว้ในบ้านเลขที่ 107 ม.11 ต.กังแอน อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ หลายสัปดาห์ โดยมี นายมาริอุส สัญชาติ ลิทัวเนีย อายุ 32 ปี เป็นผู้ต้องสงสัยลงมือฆ่าหมกศพ ก่อนถูกควบคุมตัวกลับมาจากพื้นที่ สภ.เมืองพัทยา มาสอบสวนที่ สภ.ปราสาท อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ พื้นที่เกิดเหตุ

โดยนายมาริอุส ได้ให้การปฏิเสธ ว่าไม่ได้ฆ่าผู้ตายแต่อย่างใด แม้หลักฐานทั้งคำให้การของพยานและภาพวงจรปิดจะพุ่งเป้าไปยังนายมาริอุสว่าเป็นผู้ก่อเหตุก็ตาม แต่คงยังให้การปฎิเสธและมีพิรุธในหลายประเด็น

ทั้งนี้หลังจากนายมาริอุสได้ให้การปฏิเสธ ตำรวจ สภ.ปราสาท ได้ประสานกองพิสูจน์หลักฐาน จ.สุรินทร์ ลงพื้นที่มาเก็บหลักฐานเนื้อเยื้อของนายมาริอุสไปตรวจดีเอ็นเอทันที เพื่อเปรียบเทียบกับดีเอ็นเอในคราบเลือด สารคัดหลั่งและรอยนิ้วมือต่างๆ ภายในบ้านของผู้ตายทั้งที่ชั้นล่างและชั้น 2 ของตัวบ้าน

ซึ่งแหล่งข่าวยืนยันว่า คราบเลือดบนชั้น 2 ของตัวบ้าน มีดีเอ็นเอ 2 บุคคลเท่านั้น คือของผู้ตายและบุคคลต้องสงสัยอีก 1 คน และหากการตรวจดีเอ็นเอที่ตัวของนายมาริอุส ตรงกับกับดีเอ็นเอที่พบอยู่ในคราบเลือด สารคัดหลั่งและรอยนิ้วมือบนชั้นสองของตัวบ้านแล้วตรงกัน ก็เชื่อได้ว่านายมาริอุสคือคนร้ายตัวจริง และจะสามารถมัดตัวด้วยพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์และขอหมายศาลออกหมายจับนายมาริอุสได้ทันที แต่หากดีเอ็นเอของนายมาริอุสไม่ตรงกับที่เกิดเหตุ นั่นก็แสดงว่าผู้ที่ฆาตกรรมผู้ตาย ต้องเป็นบุคคลอื่นที่ไม่ใช่นายมาริอุสอย่างแน่นอน ซึ่งผลตรวจดีเอ็นเออยู่ระหว่างทำการตรวจสอบในห้องแล็บของ สนง.พิสูจน์หลักฐาน จ.สุรินทร์

 

ขณะที่นายมาริอุส ผู้ต้องสงสัยยังคงถูกควบคุมตัวอยู่ที่ สภ.ปราสาท เจ้าหน้าที่ตำรวจตั้ง 3 ข้อหา ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนถึงแก่ความตาย ปิดบังอำพรางซ่อนเร้นศพ และลักทรัพย์ ได้ยื่นฝากขังที่ศาลจังหวัดแล้ว  เมื่อวานนี้ (18 มิ.ย.65)

ล่าสุดในวันนี้ (19 มิ.ย.65) ทางญาติได้ทำพิธีฌาปนกิจศพ นายธีรพงศ์ หรือ เจเจ เมื่อเวลา 11.00 น. ที่วัดสีโควนาราม ต.กังแอน อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ โดยมีพระครูกิตติธีราภรณ์ ผู้อำนวยการศูนย์บริการอุปกรณ์การแพทย์ อ.ปราสาท เจ้าอาวาสวัดสีโควนาราม เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ ซึ่งบรรยากาศภายในงานเป็นด้วยความเศร้าโศกของบรรดาญาติๆ เพื่อนๆ ของนายธีรพงศ์ ที่ต่างเดินทางมาร่วมส่งดวงวิญญาณผู้ตายเป็นครั้งสุดท้ายจำนวนมาก พร้อมพูดคุยวิพากย์วิจารณ์และสาปแช่ง ถึงความโหดเหี้ยมของฆาตกรที่ลงมือฆ่า

ในขณะเดียวกันตลอดพิธี พบว่ามีสุนัขสีขาว เพศเมีย พันธุ์อเมริกันบูลลี่ อายุประมาณ 5 ปี ชื่อเอ็มม่า สุนัขของผู้ตาย ที่พระครูกิตติธีราภรณ์  ผู้อำนวยการศูนย์บริการอุปกรณ์การแพทย์ อ.ปราสาท เจ้าอาวาสวัดสีโควนาราม อ.ปราสาท เป็นผู้รับเลี้ยงไว้ หลังจากพบเฟซบุ๊กพลเมืองดี ลงภาพสุนัขประกาศหาเจ้าของ เนื่องจากถูกทิ้งไว้ที่สวนสาธารณะหนองกังแอน โดยที่ไม่รู้ด้วยว่าเป็นสุนัขของผู้ตาย ซึ่งสุนัขดังกล่าว เจ้าอาวาสได้ตั้งชื่อใหม่ว่า “แคท” ได้นั่งอยู่ข้างๆ พระครูกิตติธีราภรณ์ ตลอดพิธีฌาปนกิจศพ และมองไปที่เมรุที่ตั้งศพของนายนายธีรพงศ์  ตลอดเวลา แม้กระทั่งช่วงที่ขึ้นไปรับผ้าบังสุกุล เจ้าเอ็มม่า หรือ เจ้าแคท ก็เดินตามหลวงพ่อขึ้นไปร่วมส่งวิญญาณเจ้าของด้วย ทำให้ผู้ที่มาร่วมงานต่าง รู้สึกเอ็นดูและต่างสงสาร กับภาพที่ได้พบเห็นในวันนี้ และต่างก็ทึ่งกับความเชื่อง ความฉลาดและความซื่อสัตย์ที่มีต่อเจ้าของของเจ้าเอ็มม่า หรือเจ้าแคทเป็นอย่างยิ่ง

ด้านนางวันดี ผู้เป็นแม่ กล่าวว่า ตอนนี้ยังกังวลใจอยู่กลัวคดีไม่คืบหน้า เพราะเขายังไม่ยอมรับว่าฆ่า ตอนนี้รอแต่ผลพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ ที่จะตัดสินเอาผิดกับเขาได้ ตนมั่นใจว่าเขาเป็นคนทำแน่นอน ขอให้ดีเอ็นเอที่ทางตำรวจนำไปตรวจพบหลักฐานโดยเร็ว คนทำจะได้รับผลกรรมที่ทำไปเร็วๆ ตอนนี้ตนและครอบครัวก็ต้องเข้มแข็งต้องอยู่ให้ได้ เพราะว่าไม่มีเขาเป็นที่พึ่งแล้ว ส่วนเรื่องที่เขาบอกว่าแม่ทะเลาะกับเจเจประจำนั้น ไม่เป็นความจริง เขาอ้างขึ้นมาเอง ก็แล้วแต่ผู้ต้องหาจะพูดก็แล้วกัน แล้วเราจะทะเลาะกับลูกเรื่องอะไร ถ้าแม่เป็นคนฆ่า แล้วเขาจะเอาโทรศัพท์ของลูกเราไปด้วยทำไม ไม่ขออโหสิกรรมให้สักอย่างเลย จะจองเวรจองกรรมกับมันไปตลอดจนวาระสุดท้าย จนกว่ามันจะยอมรับความผิดรับสารภาพ

หลังจากเสร็จพิธีงานศพลูกแล้ว ก็จะทำบุญบ้านใหญ่ ต่อไปตนก็จะไปนอนที่บ้านใหญ่บ้าง เพื่อที่จะไม่ให้บ้านร้าง ส่วนหมาก็ให้อยู่กับหลวงพ่อที่วัดนี้เลย ให้หลวงพ่อท่านเลี้ยงเลย ตอนนี้ไม่รู้จักตนแล้ว ขนาดเรียกชื่อเอ็มม่าๆ เขายังเฉยเลย ตนเลี้ยงตั้งแต่ตัวเล็กๆ ซื้อมาราคาหมื่นห้า ก็ปล่อยให้เขาได้อยู่กับแม่เขาที่วัดที่นี่เลย เขาจะได้สบายใจ

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook