กรมทางหลวงทุ่มงบเกือบ 30 ล้าน แก้ไขแยกบ้านบึง ปิดตำนานยูเทิร์นมรณะ
กรมทางหลวงทุ่มงบเกือบ 30 ล้าน แก้แยกบ้านบึง จ.ประจวบคีรีขันธ์ จากยูเทิร์นมรณะ กลายเป็นแยกแห่งความปลอดภัย
(21 มิ.ย.65) นายสุพจน์ เสริมทรัพย์ หัวหน้าหมวดทางหลวงประจวบคีรีขันธ์ ในฐานะ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านการจราจรและขนส่งประจวบคีรีขันธ์ และที่ปรึกษาด้านโรดเซฟตี้ประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า กรณีปัญหาจุดเสี่ยงบริเวณแยกบ้านบึง ทางหลวงหมายเลข 4 ตอน หนองหมู - ห้วยยาง ที่ กม.303+250 ในพื้นที่ ต.อ่าวน้อย อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ จ.ประจวบคีรีขันธ์
ซึ่งก่อนหน้านี้ ได้รับการขนานนามว่าเป็น ยูเทิร์นมรณะ เนื่องจากเกิดอุบัติเหตุรายวัน โดยแต่ละปี จะมีอุบัติเหตุใหญ่ๆ เฉลี่ยประมาณ 15-16 ครั้ง ส่งผลทำให้มีผู้ที่เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก ด้วยลักษณะกายภาพที่อยู่เทิร์นอยู่ตรงกับทางแยกพอดี ประกอบกับบริเวณดังกล่าวเป็นถนนเส้นตรงยาวโค้งเล็กน้อย ทำให้รถที่มาทางตรงใช้ความเร็วสูง จึงก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่าย โดยอุบัติเหตุที่สร้างความสะเทือนใจให้กับสังคมมากที่สุด คืออุบัติเหตุ รถกระบะขับข้ามถนน ตัดหน้ารถทางตรงกระชั้นชิด เป็นเหตุให้เด็กชายและเด็กหญิงที่นั่งท้ายกระบะ ร่างกระเด็นกระแทกพื้นถนนเพชรเกษม ดับสลด 2 ศพ เมื่อเดือน กุมภาพันธ์ 2564 ที่ผ่านมา
โดยก่อนหน้านี้ หมวดทางหลวงประจวบคีรีขันธ์ ได้มีการประชุม แลกเปลี่ยนข้อมูลและรับฟังความคิดเห็นจากกลุ่มผู้นำชุมชน อาสาจราจรและเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในพื้นที่ เพื่อหาแนวทางการแก้ไขปัญหามาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดการแก้ไขปัญหาที่ตรงจุดและยั่งยืน ซึ่งชาวบ้านมีความต้องการให้ปิดยูเทิร์นดังกล่าว เพื่อลดการเกิดอุบัติเหตุในชุมชน
“การปิดยูเทิร์นเพียงอย่างเดียว แม้จะเป็นการแก้ไขปัญหาเบื้องต้นได้ แต่ไม่ได้ช่วยลดความเดือดร้อนให้ชุมชนได้หมด เพราะยูเทิร์นยังเป็นสิ่งสำคัญเนื่องจากบริเวณดังกล่าวเป็นชุมชนขนาดใหญ่ มีโรงเรียนอยู่ริมถนนเพชรเกษม และมีโรงงานอุตสาหกรรมตั้งอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงด้วย เวทีแลกเปลี่ยนความคิดเห็นความต้องการของชุมชนดังกล่าว นำไปสู่การขับเคลื่อนให้เกิดการแก้ไขปัญหาที่เป็นรูปธรรม และแก้ได้ตรงจุดมากที่สุด จึงมีการนำเสนอของบประมาณในการปรับแก้ยูเทิร์นบ้านบึงใหม่ทั้งหมดแบบครบวงจร โดยการปิดยูเทิร์นเก่า ขยับไปสร้างยูเทิร์นใหม่ซึ่งห่างออกไปอีกประมาณ 400 เมตร มีการตีเส้นบังคับเลี้ยวเพื่อให้รถยนต์ รถบรรทุกขนาดใหญ่ สามารถยูเทิร์นได้สะดวก ติดทั้งระบบสัญญาณไฟ ระบบไฟส่องสว่าง ป้ายสัญญาณเตือนต่าง ๆ รวมทั้งทำทางลอดใต้ถนนสำหรับรถจักรยานยนต์ ลอดผ่านได้อย่างปลอดภัย ด้วยงบประมาณทั้งสิ้นเกือบ 30 ล้านบาท โดยตั้งแต่เปิดใช้งานมานานหลายเดือน พบว่าอุบัติเหตุที่ทำให้เกิดการเสียชีวิตเป็นศูนย์ ซึ่งถือว่าการแก้ไขครั้งนี้ได้ผลคุ้มค่ามาก” นายสุพจน์ กล่าว
ผู้ทรงคุณวุฒิด้านการจราจรและขนส่งประจวบคีรีขันธ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นที่บริเวณแยกบ้านบึง ไม่ถึง 1% ที่เกิดจากพฤติกรรมไม่เหมาะสมของคน ไม่ใช่เกิดจากถนนเหมือนสมัยก่อน เนื่องจากมีผู้ขับขี่บางคนไม่ปฎิบัติตามป้ายสัญญาณ จึงยังเกิดอุบัติเหตุเฉียวชนกันบ้างเล็กน้อย แต่ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต
จึงขอฝากเตือนไปยังผู้ใช้รถใช้ถนนทุกคน ไม่ว่าจะขับรถชนิดใด หรือใช้เส้นทางถนนที่จังหวัดใดก็ตาม สิ่งสำคัญคือการเคารพกฎจราจร และปฎิบัติตามป้ายสัญญาณเตือน ป้ายสัญญาลักษณ์เรื่องความปลอดภัยต่างๆ ที่หมวดทางหลวงแต่ละแห่งติดตั้งไว้ เนื่องจากมีการคำนวณความปลอดภัยไว้ทั้งหมดแล้ว แต่หากละเลิก ประมาท และไม่ปฏิบัติตาม จะก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้ทันที
อัลบั้มภาพ 7 ภาพ