“ฟลุ๊ค กะล่อน” ถ้าการเมืองดี วันนี้ฉันจะแต่งงาน

“ฟลุ๊ค กะล่อน” ถ้าการเมืองดี วันนี้ฉันจะแต่งงาน

“ฟลุ๊ค กะล่อน” ถ้าการเมืองดี วันนี้ฉันจะแต่งงาน
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

Highlight

  • ฟลุ๊ค กะล่อน เน็ตไอดอลสุดเซ็กซี่ ผู้มี “หนวด” เป็นเอกลักษณ์ และถือเป็นเน็ตไอดอลในเฟสบุ๊กคนแรก ๆ ของประเทศไทย 
  • แม้ครั้งหนึ่งชื่อของฟลุ๊ค กะล่อน จะถูกโจมตีจากชาวเน็ตเป็นอย่างมาก แต่ฟลุ๊คก็ก้าวข้ามผ่านคืนวันอันโหดร้ายเหล่านั้นมาได้ด้วยพลังใจจากคนรอบข้าง โดยเฉพาะคนรักที่คอยสนับสนุนฟลุ๊คอยู่เสมอ 
  • นอกจากเป็นไอค่อนด้านแฟชั่น ฟลุ๊ค กะล่อนยังเป็นคนมีชื่อเสียงอีกคนหนึ่ง ที่ออกมาขับเคลื่อนเรื่องการเมือง และเรียกร้องสิทธิให้กับกลุ่มคนที่มีความหลากหลายทางเพศ เช่น พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม
  • ฟลุ๊คยืนยันว่า พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม จะเป็นประโยชน์กับทุกคนในสังคม และถ้าการเมืองดี มีกฎหมายรองรับการแต่งงานของ LGBTQ+ วันนั้นฟลุ๊คก็คงจะแต่งงานกับคนรักเป็นที่เรียบร้อย

ถ้าพูดถึงเน็ตไอดอลสุดเซ็กซี่ ผู้มี “หนวด” เป็นเอกลักษณ์ คงจะเป็นใครไปไม่ได้ นอกจาก “ฟลุ๊ค กะล่อน” เน็ตไอดอลยุคบุกเบิก ผู้ก้าวข้ามผ่านคืนวันที่ได้รับแต่ความเกลียดชังจากชาวเน็ต สู่ “ไอคอน” ด้านแฟชั่นที่เปรี้ยวจี๊ดเข็ดฟันและโด่งดังข้ามประเทศ แต่นอกจากความโดดเด่นด้านแฟชั่นแล้ว ฟลุ๊ค กะล่อน ยังเป็นอีกหนึ่งคนมีชื่อเสียงที่ออกมาขับเคลื่อนและเรียกร้องสิทธิให้กับกลุ่มคนที่มีความหลากหลายทางเพศ (LGBTQ+) อยู่เสมอ โดยหวังว่าสักวันหนึ่งสังคมจะให้การยอมรับและให้สิทธิ์กับ LGBTQ+ ในการที่จะรัก สร้างครอบครัว และสามารถอยู่ในสังคมได้อย่างเท่าเทียมกับชายหญิงทั่วไป 

เน็ตไอดอลเฟสบุ๊กยุคบุกเบิก 

“ช่วงตอนที่เราเล่นเฟสบุ๊กใหม่ ๆ ช่วงที่ปิดเทอม มันมีรูปหนึ่งที่เราใส่ชุดนักเรียนถูกแชร์ออกไปเยอะมาก เมื่อย้อนไป 10 ปีที่แล้ว ถูกแชร์ไปประมาณ 7 พันแชร์ คือเยอะนะ แล้วก็ทำให้คนมากดไลก์รูปเรา เวลาที่เราลงรูป คนไลก์ก็จะขึ้นหลักแปดพัน เก้าพัน หนึ่งหมื่น ก็เริ่มเยอะมาก ๆ ในช่วงนั้น ซึ่งถ้าพูดในยุคของเฟสบุ๊ก ฟลุ๊ค กะล่อนก็คือคนแรก เป็นยุคแรกของเน็ตไอดอลเลย” ฟลุ๊คเล่าย้อนถึงจุดเริ่มต้นของการเป็นเน็ตไอดอลรุ่นบุกเบิกในเฟสบุ๊ก

ฟลุ๊ค กะล่อนฟลุ๊ค กะล่อน

ด้วยเอกลักษณ์ของคนหน้าหวานแต่มีหนวด จึงทำให้ฟลุ๊ค กะล่อน ถูกจดจำได้อย่างง่ายดาย ซึ่งฟลุ๊คเล่าให้เราฟังว่า เหตุผลของการไว้หนวดไม่ใช่เพราะอยากสร้างกระแสหรือสร้างคาแร็กเตอร์ใด ๆ แต่เกิดจากคำสอนของคุณแม่ว่า ถ้าโกนหนวดแล้ว หนวดจะแข็งเหมือนคุณพ่อ ซึ่งทำให้ฟลุ๊คจำขึ้นใจ และไม่ยอมโกนหนวดเด็ดขาด 

“แต่ตอนที่เราเป็นผู้ชาย มันไม่เคยมีหนวด แต่พอเราเริ่มทัดหูปุ๊บ หนวดมาแล้ว ทำยังไงล่ะทีนี้ โกนก็ไม่ได้ ไม่กล้าโกน กลัวมันจะแข็ง ก็เลยปล่อยมันไว้ ไม่เคยโกนเลย ซึ่งมีเหตุผลแค่นี้จริง ๆ” ฟลุ๊คบอก 

ความมั่นใจเกิดได้ด้วยพลังจากคนรัก

แม้จะเป็นเน็ตไอดอลบนเฟสบุ๊กคนแรก ๆ ของเมืองไทย แต่ชื่อของฟลุ๊ค กะล่อนในอดีต กลับเป็นชื่อที่ชาวเน็ต “ยี้” และตกเป็นเป้าโจมตีอยู่เสมอ แน่นอนว่าพลังลบเหล่านั้นไม่ก่อให้เกิดผลดีกับผู้ถูกกระทำ แต่การ “เมินเฉย” ไม่สนใจต่อข้อความที่ไม่สร้างสรรค์ ก็ทำให้ฟลุ๊คสามารถก้าวเดินต่อไปได้

ฟลุ๊ค กะล่อนฟลุ๊ค กะล่อน

“เรารู้นะว่าคนด่า แต่เราไม่ได้ไปนั่งดูว่ามีใครด่าว่าอะไรบ้าง เรารู้ว่าด่า ก็ด่าไป เราก็ปิดโทรศัพท์ แล้วก็ใช้ชีวิตปกติ ถามว่าชีวิตปกติเดินตลาด มีคนเดินมาด่าเราไหม ไม่มีนะ มีแต่คนมาขอถ่ายรูป” ฟลุ๊คชี้ 

ไม่ใช่แค่ความพยายามเมินเฉยต่อความคิดเห็นที่ด่าทอ ฟลุ๊ค กะล่อนยังบอกกับเราว่า ตัวเองโชคดีมาก ๆ ที่มีคนรอบข้างที่เข้าใจและคอยสนับสนุนอยู่เสมอ โดยเฉพาะพลังจาก “คนรัก” ซึ่งกลายเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้เขากลายเป็น “ฟลุ๊ค กะล่อน” เติบโตเป็นคนที่แสนมั่นใจในวันนี้ 

“ถ้าย้อนกลับไปได้ จะทำสิ่งที่เคยทำไหม ก็ยังยืนยันว่าทำนะ ถ้าไม่มีวันนั้นก็คงไม่มีแรงผลักดันหรือแรงที่จะลบคำสบประมาท หรืออะไรต่าง ๆ ที่ทำให้เราเติบโตจนถึงวันนี้ ก็คิดว่าเป็นทั้งคอมเมนต์ต่าง ๆ ด้วย หรือสภาพแวดล้อมที่เราโดนกดดันในช่วงตอนนั้น ทำให้เราโตขึ้นมาก แล้วหลัก ๆ คือคนรอบข้าง แฟนคือคนที่คอยถีบเราให้โตขึ้น เปลี่ยนตัวเองในทางที่ดีขึ้น และเป็นฟลุ๊คคนใหม่ที่สวยงาม” 

ฟลุ๊ค กะล่อนฟลุ๊ค กะล่อน

“ทำไมดูมั่นใจจัง แต่งตัวโป๊มาก เอาจริง ๆ นะ ฟลุ๊คเป็นคนขี้อายมาก จะแต่งตัวโป๊ก็ต่อเมื่อมีคนรอบตัวอยู่ด้วย มีแฟนอยู่ด้วย มีผู้จัดการอยู่ด้วย มีเพื่อนอยู่ด้วย ความมั่นใจมาจากคนรอบข้าง จะบอกว่าถ้าคนรอบข้างดี เราจะทำอะไรในแบบที่เป็นตัวของตัวเองได้มากขึ้น และกล้าทำในสิ่งที่เราไม่กล้าทำด้วยซ้ำ” ฟลุ๊คกล่าว 

การเมืองคือเรื่องของความเท่าเทียม 

แม้ความเข้าใจเรื่องความหลากหลายทางเพศของคนในสังคมไทยจะมีมากขึ้น และมีการเปิดพื้นที่ให้กลุ่ม LGBTQ+ มากขึ้น แต่ฟลุ๊คก็ยังยืนยันว่าความเท่าเทียมที่แท้จริงยังไม่เกิดขึ้น และฟลุ๊คก็ยังยืนยันที่จะสร้างความเข้าใจให้คนในสังคม จนกว่าทุกคนจะเท่าเทียมกันอย่างแท้จริง 

“คนที่มีความหลากหลายก็คือคนเท่าเทียมกันกับชายหญิงเหมือนกัน หลายคนบอกว่า ก็เห็นเดินกันปกติ เห็นกะเทย เห็นเกย์เดินจับมือกันได้ปกติ จู่ ๆ จะมาเรียกร้องอะไรอีก จะบอกว่ามันดีขึ้นค่ะ แต่มันไม่ได้แปลว่าดีแล้ว เพราะฉะนั้นเราจะไม่เรียกร้อง ก็ต่อเมื่อเรารู้สึกว่าเราเท่าเทียม เราจะทำเอกสาร จะเดินเอกสารอะไรก็ได้ที่ไม่ต้องยืนยันตัวตน นั่นแปลว่าเท่าเทียมแล้ว แต่ตอนนี้เรายังต้องพิสูจน์นั่นนี่ เราจึงรู้สึกว่ายังไม่เท่าเทียม เราก็เลยจะเรียกร้องจนกว่าเราจะรู้สึกว่า คนที่มีความหลากหลายทางเพศเท่าเทียมกับชายหญิง” ฟลุ๊คชี้ 

ฟลุ๊ค กะล่อนฟลุ๊ค กะล่อน

อีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้ฟลุ๊ค กะล่อน กลายเป็นไอดอลของใครหลายคน ก็เพราะความตื่นตัวทางการเมือง ที่ฟลุ๊คมักจะออกมาเคลื่อนไหวทางการเมืองในโซเชียลมีเดียส่วนตัวอยู่เสมอ เช่นเดียวกับการเรียกร้องเรื่อง “พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม” ที่ฟลุ๊คระบุว่า ไม่มีใครเสียประโยชน์จากการผ่านกฎหมายฉบับนี้ 

สมรสเท่าเทียมที่เรากำลังเรียกร้องกันอยู่ มันไม่มีใครเสียผลประโยชน์ ทุกคนได้รับประโยชน์เท่าเทียมกัน แล้วก็ยังไม่มีอะไรที่จะมาแย้งได้เลยว่า ผลเสียของมันคืออะไร ใครเสียประโยชน์จากตรงนี้ มันไม่มีเลย เพราะว่าทุกอย่างมันเปลี่ยนจากชายหญิงเป็นบุคคล เพราะฉะนั้น ทุกคนจะได้สิทธิ์เท่าเทียมกันหมด” 

“ถ้าการเมืองดี เราก็คงแต่งงานกับแฟน แล้วก็คงซื้อบ้านร่วมกัน แต่สิ่งที่หนูเรียกร้องมาโดยตลอด ก็คือเรื่องของการลดหย่อนภาษี แล้วก็เรื่องการรักษาพยาบาล จะบอกว่าหนูกับแฟนไม่ได้โตมากับพ่อแม่ เราอยู่ด้วยกันแค่สองคนมาตั้งแต่เมื่อ 7 ปีที่แล้ว เพราะฉะนั้นเวลาเกิดเจ็บป่วยขึ้นมา พ่อแม่ไม่สามารถมาเซ็นให้ได้ แต่เราที่อยู่ใกล้ตัวก็ไม่สามารถเซ็นรับรองหรือเซ็นอะไรให้เขาได้เลย เพราะว่าเรื่องของสมรสเท่าเทียม นี่ก็เลยเป็นสิ่งที่เราเรียกร้องกัน” ฟลุ๊คกล่าวทิ้งท้ายอย่างมีความหวัง

อัลบั้มภาพ 10 ภาพ

อัลบั้มภาพ 10 ภาพ ของ “ฟลุ๊ค กะล่อน” ถ้าการเมืองดี วันนี้ฉันจะแต่งงาน

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook