หดหู่ ช่วยเด็กหญิงออทิสติกวัย 12 ขวบ ถูกพ่อแท้ๆ ข่มขืนจนอวัยวะเพศฉีกขาด
เด็กหญิงออทิสติกวัย 12 ขวบ ถูกพ่อแท้ๆ ข่มขืนหลายครั้งจนอวัยวะเพศฉีกขาด ป้าโอดครอบครัวยากจนมาก ไม่มีเงินพาหลานไปทำหมัน
วันนี้ (22 มิ.ย.65) เวลา 11.30 น. นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ “กัน จอมพลัง” ได้เดินทางมาที่ สภ.โพธิ์กลาง อ.เมือง จ.นครราชสีมา เพื่อให้ความช่วยเหลือคดีพ่อแท้ๆ อายุ 56 ปี ข่มขืนลูกสาวในไส้ อายุ 12 ปี ภายหลังจากที่ได้รับร้องเรียนจากป้าของเด็กหญิง ให้มาช่วยเหลือเร่งรัดคดี เนื่องจากผู้ก่อเหตุเป็นพ่อแท้ๆ และเด็กหญิงก็เป็นเด็กพิเศษ (ออทิสติก) ด้วย ซึ่งวันนี้พนักงานสอบสวนได้นำตัวแม่และเด็กหญิงอายุ 12 ปี เข้ามาสอบปากคำ โดยมีเจ้าหน้าที่สหวิชาชีพ และเจ้าหน้าที่จากสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ รวมทั้งเจ้าหน้าที่จากบ้านพักเด็กและครอบครัวนครราชสีมา ร่วมสอบปากคำด้วย
ขณะเดียวกันล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โพธิ์กลางก็ได้มีการจับกุม นายไก่ (นามสมมติ) พ่อของเด็กที่ก่อเหตุข่มขืนลูกแท้ๆ ของตนเองไว้ได้แล้ว โดยอยู่ระหว่างกำลังทำการสอบสวนของเจ้าพนักงานสอบสวน สภ.โพธิ์กลางอยู่
โดยนายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ “กัน จอมพลัง” เปิดเผยว่า ตนเองได้รับการร้องเรียนจากป้าของเด็กหญิง ให้มาช่วยเหลือ เนื่องจากแม่ของเด็กจับได้ว่าลูกสาววัย 12 ปี ถูกพ่อแท้ๆ ข่มขืนกระทำชำเรามาแล้วหลายครั้ง ในระยะช่วง 2 สัปดาห์นี้ โดยภายหลังจากที่แจ้งความแล้ว แม่และป้าของเด็กกลัวว่าคดีจะไม่มีความคืบหน้า อีกทั้งพ่อของเด็กก็ยังไม่ได้ถูกจับกุมตัวมาดำเนินคดี และยังวนเวียนมาหาลูกสาวที่บ้านตลอด ล่าสุดเมื่อคืนพ่อก็ยังมาหาลูกสาวที่บ้าน ซึ่งแม่และน้องก็กลัวว่าจะไม่ปลอดภัย ตนเองทราบเรื่องจึงได้เร่งประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อให้ทำการจับกุมพ่อคนนี้โดยเร็ว
ทั้งนี้จากการสอบถามจากน้องอายุ 12 ปี บอกว่าพ่อไม่ได้ข่มขืนเพียงแค่ครั้งเดียว แต่ข่มขืนต่อเนื่องมาแล้วหลายครั้งในรอบ 2 สัปดาห์นี้ ดังนั้นเคสแบบนี้ถ้าไม่รีบดำเนินการจับกุมโดยเร็ว ก็จะเป็นการเปิดช่องว่างให้ผู้กระทำผิดมาก่อเหตุซ้ำไปเรื่อยๆ และสิ่งที่น่าสงสารอีกเรื่องคือ ป้าของน้องพาไปหาหมอ แล้วหมอแนะนำให้น้องทำหมันเพื่อป้องกันไม่ให้ตั้งครรภ์ แต่ด้วยฐานะทางครอบครัวของน้องยากจน แม้แต่เงิน 50 บาท ที่จะเดินทางไปโรงพยาบาลยังไม่มีเลย จึงไม่มีปัญญาหาเงินมาทำหมันได้ ซึ่งวันนี้นอกจากตนเองจะมาติดตามเร่งรัดคดีแล้ว ก็จะได้มอบเงินเยียวยาเพื่อช่วยเหลือค่าดำเนินการต่างๆ ทุกอย่างต่อไปด้วย
ด้าน นางปภาพร (สงวนนามสกุล) อายุ 44 ปี ป้าของเด็กหญิง กล่าวว่า ก่อนหน้านั้นน้องก็เคยมาบอกว่าถูกพ่อแท้ๆ ทำการข่มขืน แต่ญาติก็ยังไม่ปักใจเชื่อ เนื่องจากว่าน้องเป็นเด็กพิเศษออทิสติก กระทั่งเมื่อวันที่ 2 มิ.ย.65 แม่ของเด็กสังเกตเห็นว่ามีเลือดไหลออกมาเลอะกางเกงบริเวณอวัยวะเพศ จึงได้สอบถามว่าเกิดอะไรขึ้น ซึ่งน้องก็บอกว่าได้ไปหาพ่อที่ห้องพัก เพื่อขอเงินซื้อข้าวกิน และถูกพ่อใช้กำลังข่มขืนหลายครั้ง เมื่อแม่เด็กรู้เอานำเรื่องมาปรึกษาตนเอง ตนเองจึงได้พาเด็กไปโรงพยาบาลเพื่อตรวจ ซึ่งหมอก็บอกว่าเด็กถูกข่มขืนจนอวัยวะเพศเกิดการอักเสบ และหมอยังแนะนำให้ทำหมันเด็กด้วย เพื่อป้องกันการตั้งครรภ์ แต่ครอบครัวของเด็กยากจนมาก จึงไม่มีเงินทำหมัน ตนเองจึงได้พาแม่ของเด็ก และเด็กมาแจ้งความไว้ที่ สภ.โพธิ์กลาง เพื่อดำเนินคดีกับพ่อของเด็กให้ถึงที่สุด
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปที่บ้านของเด็กอายุ 12 ปี ที่ถูกพ่อแท้ๆ ข่มขืน ซึ่งเป็นเพิงเล็กๆ ตั้งอยู่บนพื้นที่ติดกับป่ารกร้าง บริเวณซอยมิตรภาพ 19 ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา โดยครอบครัวนี้เช่าอยู่ รอบบ้านเป็นการนำป้ายไวนิล และสังกะสีกั้นเป็นผนัง โดยมีหลังคามุงสังกะสีบังแดดบังฝน ด้านหน้าไม่มีประตู มีเพียงผ้าห่มเก่าๆ นำมาปิดไว้เท่านั้น ส่วนภายในก็มีเพียงที่นอนเก่าๆ กางมุ้งนอน โดยบ้านหลังนี้อาศัยอยู่ด้วยกัน 3 คน ได้แก่ แม่ และลูก 2 คน คือน้องเอ (นามสมมติ) อายุ 12 ปี และน้องชายคนเล็ก อายุ 6 ขวบ
โดยพบกับ นางแก้ว (นามสมมติ) อายุ 63 ปี ซึ่งเป็นยายของเด็กหญิงเอ ซึ่งได้นำกางเกง 2 ตัว ของน้องอายุ 12 ปี ที่มีรอยคราบเลือดติดอยู่มาให้ดู พร้อมกับกล่าวว่า ครอบครัวของน้องเอ (นามสมมติ) อายุ 12 ปี ยากจนมาก อาศัยอยู่กัน 3 คน คือแม่ น้องเอ และน้องชายคนเล็ก อายุ 6 ขวบ ในเพิงพักบนที่ดินซึ่งเช่าอยู่ ส่วนพ่อของน้องเอ ไปเช่าห้องพักอยู่ห่างจากนี้ประมาณ 200 เมตร แต่ก็ยังแวะเวียนมาหาลูกและเมียบ่อยๆ ส่วนน้องเอนั้น เป็นเด็กพิเศษ (ออทิสติก) ซึ่งมักจะเดินไปขอเงินพ่อซื้อขนมและกับข้าวกินเป็นประจำ
โดยก่อนที่จะรู้ว่าถูกพ่อข่มขืน เมื่อวันที่ 2 มิ.ย.65 น้องเอ ได้เดินไปหาพ่อที่หอพัก เพื่อขอเงินซื้อขนม และกลับมาช่วงเย็น แม่ของเด็กก็สังเกตเห็นมีรอยเลือดที่บริเวณเก้ากางเกงที่น้องใส่ จึงได้เค้นสอบถาม และน้องบอกว่าถูกพ่อข่มขืนมา ทำให้ตนเองและญาติๆ รู้สึกตกใจมาก ทั้งนี้พ่อของเด็กมักจะเป็นคนที่ชอบดื่มสุรา นิสัยเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย ซึ่งตอนนี้รู้สึกเป็นห่วงสภาพจิตใจของหลานสาวมาก เพราะกลัวหลานจะเครียดจนฆ่าตัวตาย ใจหนึ่งก็อยากให้ไปอยู่ที่บ้านพักเด็ก เพราะอยู่ที่บ้านหลังนี้ก็รู้สึกไม่ปลอดภัย เนื่องจากไม่รู้ว่าพ่อของเด็กจะออกจากคุกมาเมื่อไหร่ และอีกอย่างบ้านหลังนี้ก็ไม่มีประตูปิดมิดชิด มีเพียงผ้ามากั้นเป็นประตูเท่านั้น ซึ่งหลานสาวก็เติบโตจะเป็นสาวแล้ว ก็กลัวว่าจะถูกคนไม่หวังดีมาก่อเหตุข่มขืนซ้ำอีก
ด้าน พ.ต.อ.นาวิน ธีระวิทย์ ผกก.สภ.โพธิ์กลาง กล่าวว่า ภายหลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งความแล้ว ก็ได้เรียกตัวแม่ของเด็กมาสอบปากคำ รวมทั้งได้เชิญเจ้าหน้าที่สหวิทยามาร่วมสอบปากคำเด็กหญิงด้วย ซึ่งเบื้องต้นก็เป็นที่แน่ชัดแล้วว่าเด็กถูกพ่อแท้ๆ ข่มขืนกระทำชำเราจริง ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แจ้งข้อหาพ่อของเด็ก ในข้อหาข่มขืนกระทำชำเราเด็กที่มีอายุไม่เกิน 13 ปี ซึ่งเป็นผู้สืบสันดาน ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 7 ปี ถึง 20 ปี และปรับตั้งแต่ 140,000 ถึง 400,000 บาท หรือจำคุกตลอดชีวิต โดยจะให้พนักงานสอบสวนเร่งส่งสำนวนไปให้อัยการฟ้องศาลดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป