เรื่องจริงยิ่งกว่านิยาย โจรขึ้นบ้าน คนโทรแจ้งให้เจ้าของบ้านรู้คือโจร อาสาดูบ้านให้
สาวโพสต์ TikTok ยอมใจ! หัวขโมยดอดขึ้นบ้าน แถมแกล้งโทรแจ้งให้รู้ว่ามีขโมยขึ้นบ้าน เพื่อขอรับสินน้ำใจ พร้อมอาสาดูแลเฝ้าบ้านให้
จากกรณีผู้ใช้แอปพลิเคชั่น TikTok ชื่อว่า nashy.nasha ได้โพสต์คลิปวิดีโอเหตุการณ์หัวขโมยลอบขึ้นบ้านของผู้โพสต์ รื้อค้นขโมยทรัพย์สินเกลื่อน โดยระบุว่า "เมื่อมีโจรปล้นบ้าน แล้วคนที่โทรมาแจ้งให้เรารู้ก็คือโจร คือ ขโมยของ พังบ้าน แล้วยังโทรมาขอรับสินน้ำใจที่แจ้งข่าว และยังเสนอตัวดูแลบ้าน เฝ้าบ้านให้ คุณพระ!!!เรื่องจริงยิ่งกว่านิยาย ที่แย่ที่สุดเหมือนเรื่องจะเงียบ โจรได้ปล่อยตัว มาปั่นจักรยานในหมู่บ้านแบบชิล #สงสารบ้าน #สงสารตัวเอง ซึ่งภาพในคลิปขึ้นแคปชั่นว่า “เรื่องจริงยิ่งกว่านิยาย” มีความยาว 9 วินาที เผยให้เห็นสภาพบ้านถูกรื้อค้นทรัพย์สินข้าวของกระจัดกระจาย
ต่อมาได้โพสต์คลิปที่ 2 ระบุว่า "ตัวบ้านอยู่นอกหมู่บ้านห่างจากบ้านหลังอื่นๆ แล้วโจรก็ฉลาดเปิดไฟในบ้าน ชาวบ้านผ่านไปผ่านมาก็คิดว่าเจ้าของบ้านมาไม่ได้เอะใจอะไร เป็นบ้านที่ต่างจังหวัดค่ะ เพิ่งย้ายมาอยู่กรุงเทพฯกันได้แค่ 3 เดือนเองค่ะ #โจรปล้นบ้าน ส่วนภาพในคลิปเป็นภาพที่ตั้งของบ้านเกิดเหตุ จะอยู่ห่างจากบ้านเรือนของคนอื่น มีทุ่งนาอยู่ด้านข้างและด้านหลังตัวบ้าน เขียนแคปชั่นว่า “ตัวบ้านอยู่นอกหมู่บ้าน ห่างจากหลังอื่นๆค่ะ โจรฉลาด เปิดไฟในบ้าน ชาวบ้านผ่านมานึกว่าเจ้าของบ้าน ไม่ได้เอะใจ”
และคลิปที่ 3 ระบุว่า "ประตูห้องล็อกไว้ 2 ชั้น ใส่แม่กุญแจไว้ หน้าต่างห้องติดเหล็กดัดไว้ทั้งหมดทุกด้าน ยอมใจในความพยายาม ทุบกระจกแล้วมุดเข้าไป เอาพระกับเงินขวัญถุงในห้องนี้ไป มูลค่าอาจจะไม่เยอะ แต่ก็ทำใจยากอยู่ #เรื่องนี้ต้องไม่เงียบ ซึ่งในคลิปเป็นภาพประตูไม้ที่บุกระจก ถูกคนร้ายทุบกระจกด้านบนแล้วมุดตัวเอาไปในห้อง กับร่องรอยการทุบลูกบิดประตูจนพัง ผนังปูนหล่นร่วง โดยแคปชั่นเขียนว่า “จุดที่วงกลมคือ คนร้ายทุบแล้วมุดเข้าไป เพราะหน้าต่างทุกด้านติดเหล็กดัด ยอมใจในความพยายาม”
ล่าสุด วันนี้ (27 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปบ้านเกิดเหตุ ซึ่งอยู่ในพื้นที่อำเภอพระทองคำ จังหวัดนครราชสีมา พบกับ นายประสิทธิ์ อายุ 54 ปี เจ้าของบ้าน ซึ่งเป็นบิดาของนางภนัชฌา อายุ 37 ปี ผู้โพสต์คลิปลง Tiktok เปิดเผยว่า ตนและครอบครัวได้พักอาศัยอยู่ที่ กทม. อยู่กับลูกสาว ส่วนบ้านหลังนี้ได้สร้างเอาไว้พักอาศัยตอนกลับมาโคราช ซึ่งเวลาปกติจะไม่มีคนอยู่
แต่ในวันที่รู้ข่าวว่ามีโจรขึ้นบ้าน คือคืนวันศุกร์ที่ 24 มิ.ย. 2565 ที่ผ่านมา โดยลูกสาวของตนบอกว่า มีคนโทรมาบอกว่า มีโจรขึ้นบ้าน รื้อค้นข้าวของกระจุยกระจาย พอรู้ดังนั้นตนกับภรรยาจึงรีบเดินทางกลับมาที่โคราชในวันเสาร์ที่ 25 มิ.ย. 2565 พอมาถึงก็ยังเห็นประตูรั้วหน้าบ้านปิดอยู่ แต่ประตูหน้าบ้านเปิดแง้มไว้
ตนจึงรีบเข้าไปดูที่ชั้นล่างของบ้านก่อน ก็พบว่า ข้าวของในบ้านถูกรื้อกระจัดกระจายเต็มพื้นบ้าน โดยห้องของตนถูกทุบกระจกบริเวณด้านบนประตู และบริเวณลูกบิดประตู พบร่องรอยการถูกงัดแงะ พอตรวจในห้องน้ำ ก็พบร่องรอยการขับถ่ายอุจจาระทั้งในชักโครกและที่พื้นห้องน้ำ เมื่อไปตรวจสอบชั้น 2 ของบ้าน ก็พบร่องรอยการรื้อค้นข้าวของภายในบ้านเหมือนกัน
จากนั้นจึงลงไปตรวจสอบบริเวณโดยรอบตัวบ้าน เพื่อหาร่องรอยว่าโจรเข้ามาภายในบ้านได้อย่างไร เพราะประตูล็อกทุกบาน ซึ่งก็พบว่า ประตูด้านหลังของบ้านที่ติดกับห้องครัว มีร่องรอยถูกงัดแงะ จึงคาดว่า โจรน่าจะใช้ประตูนี้ผ่านเข้าไปในตัวบ้าน
โดยทรัพย์สินภายในบ้านที่หายไป ก็มีพวกอุปกรณ์ช่าง เงินที่เก็บไว้ในไซอันเล็กตอนขึ้นบ้านใหม่ ที่ญาติๆ นำมาใส่เอาไว้ให้เพื่อความเป็นสิริมงคล จะมีเงินอยู่ในนั้นเกือบพันบาท นอกจากนี้ จะมีกระปุกออมสินถูกแงะเอาเงินออกไป มีเงินอยู่ประมาณ 300 บาท หลังจากตรวจสอบเบื้องต้นเสร็จก็รีบเดินทางไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระทองคำ
ด้าน นางสาวปัทมาภรณ์ อายุ 37 ปี เพื่อนบ้าน เล่าว่า ตนผ่านบ้านหลังเกิดเหตุเป็นประจำ แต่ก็ไม่ได้เอะใจอะไร นึกว่าเจ้าของบ้านกลับมาแล้วเพราะเห็นไฟในบ้านเปิดอยู่ ประกอบลูกชายของตนได้ยินเสียงคนเปิดคาราโอเกะร้องเพลงอยู่ภายในบ้าน ยิ่งทำให้ตนไม่ได้สงสัยอะไร จนอยู่มาวันหนึ่ง เริ่มสงสัยเพราะผิดสังเกตตรงที่ถ้าเจ้าของบ้านกลับมา ก็ต้องเห็นรถเจ้าของบ้านจอดอยู่หน้าบ้าน
จนมาทราบภายหลังว่า มีโจรขึ้นบ้านหลังดังกล่าว และตอนที่เดินเข้ามาดูพร้อมกับเจ้าของบ้าน ก็พบว่า หัวขโมยรายนี้นอกจากจะรื้อค้นข้าวของภายในบ้านกระจัดกระจายแล้ว ยังพบร่องรอยการทำอาหารกินภายในบ้าน เพราะพบหม้อหุงข้าวไฟฟ้ามีข้าวที่หุงเอาไว้ มีร่องรอยของการใช้เครื่องชงกาแฟ ใช้คอมพิวเตอร์ WiFi และยังมีการเปิดทีวีร้องคาราโอเกะด้วย
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่าความคืบหน้าคดียังอยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวน และเรียกผู้เสียหายมาให้ปากคำเพิ่มเติม
อัลบั้มภาพ 43 ภาพ