ดาราสาว "แพม ปานพิมพ์" ร้องถูกอดีตโฆษกพรรคการเมืองปมค่ารถ เป็นหนี้กว่า 3 ล้าน
วานนี้ เวลา 12.00 น. ที่สำนักงานกฎหมาย ทนายรัชพล ศิริสาคร แพม-ปานพิมพ์ เตชะธนชัยพัฒน์ อดีตนางเอกหนังเรื่องเดอะกิ๊ก และ บ๊อบ-วรุตย์ บราวน์ พระเอกหนังเรื่องอินจัน เข้ามาปรึกษาทนายรัชพล ศิริสาคร กรณีที่อดีตโฆษกพรรคการเมืองดัง ให้ผ่อนรถ Benz และ BMW ให้ขณะที่ช่วงนั้นตนทำงานเป็นเลขาส่วนตัว แต่ปัจจุบันขาดส่งค่างวดหลายงวด
แพม ปานพิมพ์ เล่าว่าตนได้มีการออกรถให้กับอดีตรองโฆษกคนดังกล่าวจำนวน 2 คัน โดยตอนนี้มีการขาดส่งค่างวด 3-4 เดือน แต่ยังคงติดต่อได้ ซึ่งตนก็โดนไฟแนนซ์โทรทวงทุกวัน เพราะรถชื่อตนแต่ขณะนี้ตนก็ยังไม่ทราบว่ารถอยู่ที่ไหน ทางตนก็ได้ชี้แจงกับไฟแนนซ์ไปตามตรงว่าตนเป็นผู้ออกรถ แต่อดีตโฆษกพรรคการเมืองได้เอารถไปใช้ ซึ่งตอนนี้ไม่ทราบว่ารถอยู่ไหน โดยในตอนที่มีการมาขอให้ช่วยออกรถให้นั้นตนทำงานกับอดีตโฆษกพรรคการเมืองเหมือนพี่น้องกัน แต่ก็ใช้เวลาไตร่ตรอง ตัดสินใจ 3-4 เดือน ซึ่งทางอดีตโฆษกพรรคการเมืองให้เหตุผลว่าหากเขาผ่อนไม่ไหวก็จะเปลี่ยนสัญญาให้คนอื่น อ้างว่าตัวเขาเครดิตไม่ดี มีคดีความอยู่ที่ศาลจึงไม่สามารถกู้ได้ ตนจึงตัดสินใจใช้ชื่อออกรถให้ เมื่อผ่านไป 4-5 เดือนก็มีการเกลี้ยกล่อมให้ออกให้อีก 1 คัน โดยอ้างว่ารถของพ่อเสีย ตอนแรกตนไม่ยอมออกให้ แต่อดีตโฆษกพรรคการเมืองเกลี้ยกล่อมจนแฟนหนุ่มยอมทำให้ โดยมีตนเป็นผู้ค้ำ
ต่อมาช่วงเดือนพฤษภาคมมีการติดต่อเข้ามาหาตนทางไลน์ว่ามีการนำรถไปจำนำ ให้ตนรีบนำเงินไปจ่ายแล้วเอารถออกมา จำนวนเงิน 380,000 บาท ซึ่งก่อนหน้านี้ตนได้มีการสอบถามกับอดีตโฆษกพรรคการเมืองว่ารถอยู่ที่ไหน เพื่อที่ตนจะได้ไปนำรถกลับมาเข้าไฟแนนซ์ปิดยอดที่ค้าง แต่อดีตโฆษกพรรคการเมืองบอกว่ารถอยู่กับเขาและเขาจะจ่ายค่างวดที่ค้างอยู่ จนถึงขณะนี้ก็เงียบหายยังไม่มีการจ่ายใดๆ กระทั่งไฟแนนซ์ไลน์มาทวงที่ตนคั้งแต่เดือนมกราคมจนถึงปัจจุบัน
โดยในวันนี้มาพบกับ ทนายรัชพล เพื่อปรึกษาว่าจะทำอย่างไรให้อดีตโฆษกพรรคการเมืองเอารถมาคืนหรือเปลี่ยนสัญญารถทั้ง 2 คัน เพราะตอนนี้ตนเดือดร้อนที่ถูกทวงและต้องมารับภาระหนี้สินกว่า 3,000,000 บาท อีกทั้งด้านอดีตโฆษกพรรคการเมืองก็ไม่ยอมคืนรถและทางไฟแนนซ์ก็ไม่สามารถไปยึดรถกับบุคคลที่ 3 ได้ พร้อมฝากเป็นอุทาหรณ์ว่า "อย่าไว้ใจใคร ไม่ว่าใครก็ตาม เอ็นดูเขา เอ็นเราขาด"
ด้าน ทนายรัชพล กล่าวว่า ตอนนี้ก็เห็นใจกับผู้เสียหาย เพราะการที่บุคคลธรรมดาเป็นหนี้หลายล้านอาจถูกยึดทรัพย์หรือถูกฟ้องล้มละลายได้ จึงอยากให้คู่กรณีเข้ามาไกล่เกลี่ยกันว่าจะชำระเงินอย่างไร และผู้เสียหายสามารถไปแจ้งความก่อนได้กรณีที่มีการนำรถไปจำนำ เพราะรถนั้นเป็นชื่อผู้เสียหาย ซึ่งกรณีนี้เป็นในลักษณะ "ไม่มี ไม่หนี ไม่จ่าย"
อัลบั้มภาพ 4 ภาพ