ผัวถึงกับทรุด แอบตรวจ DNA ลูก พบเป็นลูกชู้ ช็อกซ้ำ พ่อเด็กคือน้าแท้ๆ ของตัวเอง

ผัวถึงกับทรุด แอบตรวจ DNA ลูก พบเป็นลูกชู้ ช็อกซ้ำ พ่อเด็กคือน้าแท้ๆ ของตัวเอง

ผัวถึงกับทรุด แอบตรวจ DNA ลูก พบเป็นลูกชู้ ช็อกซ้ำ พ่อเด็กคือน้าแท้ๆ ของตัวเอง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ผลตรวจ DNA ของลูก เปิดเผยเรื่องราวดำมืดของครอบครัว เมื่อสามีรู้ความจริงว่าภรรยานอกใจ แถมชู้รักคือน้าแท้ๆ ของตัวเอง

เว็บไซต์ hk01.com รายงานว่า หวังเซิงตี้ (นามสมมุติ) ชายชาวจีน สงสัยว่าภรรยากำลังนอกใจ จึงตัดสินใจแอบตรวจ DNA ลูกชาย แต่ปรากฏว่าเด็กชายไม่ใช่ลูกของเขา และยังต้องช็อกซ้ำเมื่อรู้ว่าตัวจริงของพ่อเด็ก และเป็นชู้รักที่แทงข้างหลังก็คือน้าชายแท้ๆ ของเขา ทำเอาเขาถึงกับทรุดหนัก

หลิวลี่ปิน ทนายชาวจีน เป็นคนออกมาเปิดเผยเรื่องราวดังกล่าว โดยเป็นคดีที่เขาพบเมื่อปี 2554 ชี้ว่า หวังเซิงตี้ มีญาติสนิทคนหนึ่งคือ หวังเสว่จุน (นามสมมุติ) ที่เป็นน้องชายของแม่ แต่จริงๆ ทั้งคู่อายุเท่ากัน ทำให้พวกเขาสนิทสนมกันราวกับพี่น้อง ยิ่งหลังจากครอบครัวทำธุรกิจร่วมกัน ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองบ้านก็ยิ่งใกล้ชิดกันมากขึ้น

หลังจากที่ หวังเซิงตี้ แต่งงานกับภรรยา เขาก็มักจะพาเธอไปพบปะสังสรรค์กับญาติและเพื่อนฝูงบ่อยครั้ง ภรรยาของเขาจึงคุ้นเคยกับหวังเสว่จุนอย่างรวดเร็ว ไม่นานหลังจากนั้นภรรยาของหวังเซิงตี้ก็คลอดลูกชาย ซึ่งทำให้ชีวิตของเขายิ่งมีความสุขมากขึ้น

แต่แล้วจู่ๆ หวังเซิงตี้ก็รู้สึกว่าภรรยามีพฤติกรรมแปลกไป คล้ายกำลังมีความลับปิดบัง หวังเซิงตี้เริ่มสงสัยว่าภรรยามีชู้ และทั้งคู่ทะเลาะกันบ่อยๆ

นอกจากนี้ เขายังสงสัยว่าลูกชายอาจไม่ใช่ลูกของตัวเอง จึงอาศัยโอกาสตอนที่ภรรยาออกไปทำงาน แอบนำเส้นผมของลูกชายไปตรวจ DNA และผลก็ออกมาว่าเด็กชายไม่ใช่ลูกของตัวเอง

เมื่อจนต่อหลักฐาน ฝ่ายภรรยาก็ยอมรับว่าเธอนอกใจ และเปิดเผยความจริงที่ทำให้หวังเซิงตี้ถึงกับทรุด เมื่อปรากฏว่าชายชู้คือ หวังเสว่จุน น้าชายแท้ๆ ของเขาเอง ส่วนลูกชาย จู่ๆ ก็กลายมาเป็นลูกพี่ลูกน้องของเขา

เมื่อต้องเผชิญการทรยศหักหลังของสองคนสนิท หวังเซิงตี้ ก็นำเรื่องดังกล่าวไปเปิดเผยต่อหน้าทุกๆ คนในตระกูล แต่กลับถูกปู่ย่าต่อว่าว่าเขาสร้างปัญหาใหญ่ และทำให้สีหน้าของทุกคนในบ้านดูแย่

หวังเซิงตี้ ท้อแท้กับสิ่งที่เกิดขึ้น จึงตัดสินใจตัดขาดจากครอบครัว รวมถึงฟ้องหย่าภรรยา ซึ่งศาลตัดสินว่าภรรยาเป็นฝ่ายนอกใจ และเด็กไม่ใช่เลือดเนื้อเชื้อไขของสามี เด็กชายจึงควรอยู่ในความดูแลของแม่ โดยที่สามีไม่ต้องจ่ายค่าเลี้ยงดูใดๆ

นอกจากนี้ ยังกล่าวอีกว่า เนื่องจากภรรยาเป็นฝ่ายผิด เธอจึงต้องรับผิดชอบในการจ่ายเงินเยียวยาความเสียหายทางจิตใจแก่สามี

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook