ชูวิทย์แฉเครือข่าย "เดวิด" ทำธุรกิจผิดกฎหมาย ผับบาร์-บ่อน-ยาเสพติด มีคนดังเอี่ยว

ชูวิทย์แฉเครือข่าย "เดวิด" ทำธุรกิจผิดกฎหมาย ผับบาร์-บ่อน-ยาเสพติด มีคนดังเอี่ยว

ชูวิทย์แฉเครือข่าย "เดวิด" ทำธุรกิจผิดกฎหมาย ผับบาร์-บ่อน-ยาเสพติด มีคนดังเอี่ยว
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ชูวิทย์แฉเครือข่ายนายเดวิด เปิดสถานบันเทิงผิดกฎหมายเกินเวลา จำหน่ายยาเสพติดและสิ่งผิดกฎหมาย พบเจ้าหน้าที่รัฐและนักการเมืองดังมีเอี่ยว รายได้เดือนละกว่า 1,000 ล้านบาท

นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ เปิดเผยว่า ผับสถานบันเทิงที่ตนกล่าวถึงในเพจ เป็นของเครือข่ายนายเดวิด นายทุนจีนคนกลางตัวสำคัญ ที่เข้ามาลงทุนกิจการธุรกิจผิดกฎหมาย กึ่งถูกกฎหมาย ในย่านเอกมัย อาร์ซีเอ รัชดาภิเษก และห้วยขวาง ทั้งผับ บาร์ บ่อนการพนัน บ่อนออนไลน์ ยาเสพติด และสิ่งผิดกฎหมาย โดยมีขบวนการฟอกเงินซึ่งมีมูลค่าเดือนละมากกว่า 1,000 ล้านบาท โดยนักธุรกิจหรือนายทุนที่ต้องการลงทุนในธุรกิจลักษณะนี้จะต้องติดต่อผ่านทางนายเดวิด โดยจะหักรายได้ไว้ 20 เปอร์เซ็นต์ และมีการนำผลประโยชน์ต่างๆ ส่งต่อให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และนักการเมืองชื่อดัง ซึ่งนายชูวิทย์ระบุว่าเป็นบุคคลที่ยังเลือกฝั่งไม่ได้ว่าจะอยู่ฝ่ายค้านหรือรัฐบาล

นอกจากนี้ยังมีการกล่าวถึงกรณีของการจับกุมบอลพนันที่อาคารแห่งหนึ่งในซอยรัชดาภิเษก 18 ซึ่งมีเจ้าของคือนายตี๋ห่าว นายชูวิทย์มีข้อมูลว่าบ่อนดังกล่าวคือหนึ่งในเครือข่ายของนายเดวิดที่นักธุรกิจมาติดต่อลงทุนผ่านตัวกลาง ทั้งนี้ยังตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับบ่อนดังกล่าวว่าหากเป็นการจับกุมที่กวาดล้างจริง เหตุใดจึงยังไม่เก็บโต๊ะพนันที่อยู่ภายใน มองว่าเป็นการเตรียมการกลับมาเปิดอีกครั้งหรือเป็นการปิดชั่วคราวเท่านั้น

ส่วนสาเหตุที่ตนเองต้องออกมาเปิดเผยเรื่องดังกล่าวเพราะมองว่าการลงทุนของนายเดวิด และเครือข่ายเป็นลักษณะการลงทุนที่ผูกขาด มอมเมาประชาชนเพราะมีการจำหน่ายยาเสพติดในสถานบันเทิงและบ่อนการพนันต่างๆ อีกหนึ่งสาเหตุที่ตนเองต้องออกมาเปิดโปงเรื่องดังกล่าว เพราะคนที่เป็นเจ้าของชื่อ เดวิด ซึ่งคล้ายกับตนเอง จึงต้องออกมาชี้แจง

ส่วนกรณีของเจ้าหน้าที่รัฐยืนยันว่าผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนปัจจุบันไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าวแต่นายตำรวจที่อยู่ในระดับรองลงมาบางนายมีส่วนเกี่ยวข้อง

นอกจากนี้นายชูวิทย์ยังบอกอีกว่า ยังมีข้อมูลที่จะออกมาเปิดโปงอีกเป็นจำนวนมาก และเตรียมที่จะเปิดเผยข้อมูลออกมาอีก แต่ยังให้เวลานายกรัฐมนตรีรัฐบาลนักการเมืองและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องไปดำเนินการแก้ไขให้เรียบร้อยก่อนที่ตนเองจะออกมาเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวอีก ซึ่งอาจเป็นช่วงเวลาก่อนหรือหลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจ หรืออาจเป็นการอภิปรายนอกสภาไปเลยทีเดียว

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook