โฆษก บช.น.ยันไม่มีเด้ง 5 เสือ สน.สายไหม เพราะร่วมจับกุมด้วย ไม่ได้ปล่อยปละละเลย
โฆษก บช.น.ยัน สน.สายไหม ร่วม ดส.จับสถานบันเทิง ไม่มีเด้ง 5 เสือ ส่วนเยาวชนส่งตัวทำประวัติ หากพบผิดซ้ำต้องถูกดำเนินคดี
พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก โฆษกกองบัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผย กรณีเมื่อคืนที่ผ่านมา ตำรวจกองกำกับการสวัสดิภาพเด็กและสตรี หรือ ดส.และตำรวจหลายหน่วย เข้าตรวจสถานบันเทิง ย่านสายไหม สามารถจับกุมเยาวชนและพบยาเสพติดภายในร้านจำนวนหนึ่งนั้น
จากการตรวจสอบพบว่าเป็นการจับกุมร่วมกันของ กก.ดส. ตำรวจ 191 และสน.สายไหม โดยพบว่าเป็นการแจ้งเบาะแสจากพลเมืองดีและข้อมูลในพื้นที่จึงได้มีการสนธิกำลังการจากทุกหน่วยเข้ามาตรวจสอบที่ร้านดังกล่าวจนกระทั่งพบการกระทำความผิดดังกล่าว
ทั้งนี้ กองบัญชาการตำรวจนครบาลไม่ได้มีคำสั่งเด้ง 5 เสือของ สน.สายไหม หรือตำรวจที่เกี่ยวข้องไปช่วยราชการจากกรณีดังกล่าวแต่อย่างใด เนื่องจากเป็นการจับกุมร่วมกัน และเป็นการแจ้งเบาะแสจากทางตำรวจพื้นที่ จึงถือว่าไม่ได้เป็นการปล่อยปละละเลยให้เกิดการกระทำความผิดดังกล่าว
ทั้งนี้ หากในอนาคตมีข้อมูลพยานหลักฐานว่าตำรวจสนพื้นที่มีการปล่อยปละละเลยก็จะดำเนินการทางวินัยในภายหลังได้ สำหรับ เจ้าของร้านเบื้องต้น ตำรวจแจ้งข้อกล่าวหาเปิดสถานบริการโดยไม่ได้รับอนุญาต , ยินยอมหรือปล่อยปละให้มีการกระทำผิดเกี่ยวกับยาเสพติดภายในร้านสถานบริการ,ยินยอมหรือปล่อยปละละเลยให้ผู้มีอายุต่ำกว่า 20 ปี
ซึ่งไม่ได้ทำงานในสถานบริการ เข้าไปในสถานบริการ ,ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แก่ผู้มีอายุต่ำกว่า 20 ปี บริบูรณ์ ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.สายไหม พร้อมของกลางดำเนินคดีตามกฎหมาย
ส่วนเยาวชนที่ตรวจพบว่าเข้าไปเที่ยวสถานบันเทิงที่ดังกล่าว เบื้องต้น ตำรวจควบคุมตัวมาทำบันทึกประวัติ ไว้พร้อมประสานผู้ปกครองให้มารับตัว และเตือนว่าหากพบกระทำความผิดอีกจะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย โฆษกกองบัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวว่า
หลังเกิดเหตุได้สั่งการให้ทุกพื้นที่เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบร้านอาหารร้านจำหน่ายสุราและสถานบันเทิงต่างๆ ให้ปฏิบัติตามกฎหมายทั้งเรื่องการเปิดปิดให้ตรงเวลาที่กฎหมายกำหนด และประชาสัมพันธ์ให้ร้านอาหารร้านจำหน่ายสุราต่างๆไปดำเนินการขอใบอนุญาตให้ถูกต้องตามกฎหมายแล้ว