วิศวกรหนุ่มยิงตัวเองในห้องน้ำ ใช้เลือดเขียนผนัง พ่อเผยเคยโดนผู้หญิงหลอกเงิน 3 แสน

วิศวกรหนุ่มยิงตัวเองในห้องน้ำ ใช้เลือดเขียนผนังเป็นชื่อนามสกุลผู้หญิง-ขอโทษพ่อแม่ พ่อเผยเคยโดนผู้หญิงหลอกเงิน 3 แสน

(16 ก.ค.65) ร.ต.อ. สมเจตน์ นุชนารถ รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมืองสุพรรณบุรี รับแจ้งมีคนพยายามฆ่าตัวตัวเอง โดยใช้อาวุธปืนที่บ้าน หมู่ 2 ตำบลดอนมะสังข์ อำเภอเมืองสุพรรณบุรี จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบไปตรวจสอบพร้อมกำลังสายตรวจ กำลังฝ่ายสืบสวน และเจ้าหน้าที่กู้ชีพ โรงพยาบาลศูนย์เจ้าพระยายมราช

ที่เกิดเหตุอยู่ในห้องน้ำด้านหลังบ้านพบร่างผู้บาดเจ็บ ทราบชื่อ นายสุทัศน์ อายุ 41ปี มีบาดแผลถูกยิงด้วยอาวุธขนาด .38 ที่บริเวณเหนือหน้าผากขวา เล็กน้อยกระสุนฝังในนอนจมกองเลือด เจ้าหน้าที่กู้ชีพจังรีบปฐมพยาบาลเบื้องต้นก่อนรีบนำส่งโรงพยาบาลศูนย์เจ้าพระยายมราช ให้แพทย์ช่วยชีวิตที่เกิดเหตุมีอาวุธปืนขนาด .38 เปื้อนเลือด ในลูกโม่มีกระสุนเหลืออยู่ 5 นัด และปลอกอีก 1 ปลอกตกอยู่เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ภายในห้องน้ำพบรอยเปื้อนอยู่เต็มพื้นและที่ฝาผนังมีข้อความใช้เลือดเขียนด้วยมือ เป็นชื่อนามสกุลผู้หญิง เขียนขอโทษพ่อแม่ นอกจากนี้ยังตัวเลขและภาษาอังกฤษติดอยู่ ซึ่งคาดว่าจะเป็นพาสเวิร์ดเปิดล็อกโทรศัพท์ และหมายเลขบัญชีธนาคาร เจ้าหน้าที่จึงถ่ายภาพเก็บไว้เป็นหลักฐาน

จากการสอบถามนายโกวิทย์ อายุ 72 ปี พ่อคนเจ็บซึ่งอยู่ในอาการช็อกและเสียใจ เล่าให้เจ้าหน้าที่ตำรวจฟังด้วยน้ำเสียงสั่นเครือน้ำตาคลอ ว่า ลูกชายทำงานเป็นวิศวกรออกแบบอยู่ที่บริษัทแห่งหนึ่ง หลังจากเกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทางบริษัท ได้ให้กลับมาทำงานอยู่ที่บ้าน แต่ก็จะเข้าบริษัทสัปดาห์ละ 1 ครั้ง และเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาลูกชายก็เพิ่งจะไปที่บริษัทมา และวันนี้ช่วงสายตนไปตัดหญ้ารอบบริเวณบ้านเสร็จแล้วจึงเดินเข้าบ้านโดยเดินผ่านหน้าห้องน้ำหลังบ้าน เมื่อเดินมาถึงห้องน้ำก็ได้ยินเสียงคล้ายคนหายใจดังครืดคราด และคิดว่าคงเป็นลูกชายจึงร้องถามว่าท้องเสียเหรอ แต่ไม่มีเสียตอบจึงเรียกญาติพี่น้องให้มาช่วยเปิดประตูเนื่องจากประตูล็อก เมื่อเปิดประตูเข้าไปดูก็ตกใจแทบช็อกเพราะภาพที่เห็นคือลูกชายนอนจมกองเลือดหายใจรวยริน ลูกสาวจึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่และหน่วยกู้ภัยให้มาช่วยนำส่งโรงพยาบาล

ส่วนสาเหตุที่ลูกชายทำร้ายตัวเองน่าจะมาจากเรื่องถูกผู้หญิงหลอกเอาเงิน เพราะก่อนหน้านี้ลูกชายก็เคยถูกผู้หญิงหลอกเอาเงินไปถึง 300,000 กว่าบาท และครั้งนี้ก็คงไม่พ้นเรื่องเดิม เพราะไม่น่าจะมีปัญหาเรื่องอื่น ครอบครัวก็ไม่มีปัญหาอะไร

สำหรับลูกชายคนนี้เวลามีปัญหาอะไรไม่เคยเล่าให้พ่อแม่พี่น้องฟังไม่เคยบ่นอยากตาย มักจะเก็บปัญหาไว้คนเดียว ตนก็เคยถามว่ามีปัญหาอะไรหรือเปล่าลูกชายก็บอกไม่มี และไม่คิดว่าลูกชายจะมาก่อเหตุขึ้น ตนไม่ติดใจสาเหตุเชื่อว่าลูกชายทำตัวเอง และปืนที่ใช้ก่อเหตุก็เป็นปืนของตน มีทะเบียนถูกต้อง คนที่น่าจะตายคือตนเอง เพราะตนเป็นโรคมะเร็งลำไส้ ตนไปผ่าตัดมา ทำงานหนักไม่ได้ กลัวจะเป็นภาระลูกเมีย ส่วนคนเจ็บขณะนี้อาการยังน่าเป็นห่วงต้องอยู่ในความดูแลของทีมแพทย์พยาบาลอย่างใกล้ชิด