หยุดหาทำ! หมอเตือนอีกครั้ง ใช้ "ผงพิเศษ" อุดฟัน อันตรายถึงชีวิต
แพทย์ขอเตือนอีกครั้ง อย่าหลงเชื่อโซเชียลฯ ใช้ผงพิเศษอุดฟันผุ ชี้เป็นยาใช้ภายนอก ไม่ควรใช้กับช่องปาก เสี่ยงอันตรายถึงชีวิต
วันนี้ (18 ก.ค.65) นายแพทย์สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า ปัจจุบันมีรายงานข่าวในสื่อออนไลน์ กรณีนำผงพิเศษไปอุดฟัน ซึ่งเป็นการใช้ยาผิดวิธี และอันตรายอย่างยิ่ง เพราะยาชนิดนี้เป็นยาสำหรับการฆ่าเชื้อบริเวณผิวภายนอกร่างกาย ไม่ควรนำมาใช้กับช่องปาก
ซึ่งผงพิเศษมีส่วนผสมของยาซัลฟานิลาไมด์ (Sulfanilamide) ซึ่งต้องระวังการใช้ในผู้ที่แพ้ยากลุ่มนี้ ผลข้างเคียงมีตั้งแต่ระดับที่ไม่รุนแรง ไปถึงระดับที่รุนแรง เกิดผื่นแพ้ยาหรือแพ้แบบ สตีเวนส์ จอห์นสัน ซินโดรม (Stevens-Johnson Syndrome หรือ SJS) อาจเกิดแผลพุพองที่ผิวหนัง ผิวลอก หรือมีของเหลวไหลออกมาจากผิวหนังชั้นนอก หรือเกิดอาการแพ้ร่วมกับอาการแทรกซ้อนในระบบอื่นๆ ที่เรียกว่า ท็อกซิก อีพิเดอร์มัล เนโครไลซิส (Toxic Epidermal Necrolysis หรือ TEN) ได้
ดังนั้น การอุดฟัน ควรได้รับการรักษาโดยทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญอย่างถูกวิธี วัสดุที่ใช้ภายในช่องปากต้องเหมาะสม และได้มาตรฐานสำหรับการรักษา เพื่อให้ฟันซี่นั้นๆ กลับมามีลักษณะใกล้เคียงกับของเดิมมากที่สุด นอกจากนี้ ควรหมั่นดูแลสุขภาพช่องปาก ควรลดอาหารและเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูง รวมถึงรับประทานเลือกอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย
ขณะที่ ทันตแพทย์หญิง ดร.สุมนา โพธิ์ศรีทอง ผู้อำนวยการสถาบันทันตกรรม กล่าวเพิ่มเติมว่า การอุดฟัน คือ การบูรณะฟัน เพื่อให้ฟันที่ผุหรือเสียหายกลับมาอยู่ในสภาพที่ใช้งานได้ มีรูปร่างลักษณะเหมือนเดิมหรือใกล้เคียงฟันเดิม และใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งการอุดฟันไม่ได้บูรณะฟันแค่กรณีฟันที่มีรอยผุหรือเป็นรู แต่รวมถึงฟันที่แตก ฟันบิ่น ฟันที่มีรอยสึก หรือมีอาการเสียวฟันขณะทานอาหาร ของหวาน หรือดื่มน้ำเย็น
สำหรับวัสดุที่ใช้ในการบูรณะฟัน แบ่งเป็น 2 ประเภทหลักๆ คือ วัสดุอมัลกัมที่นิยมใช้บูรณะฟันหลัง และวัสดุบูรณะสีเหมือนฟัน เช่น วัสดุเรซินคอมโพสิต ซึ่งภายหลังจากการบูรณะฟันแล้ว ควรหมั่นดูแลรักษาสุขภาพช่องปาก และปฏิบัติตามคำแนะนำของทันตแพทย์ แปรงฟันทุกวัน วันละ 2 ครั้ง หรือแปรงฟันหลังรับประทานอาหาร ใช้ยาสีฟันที่มีส่วนผสมของฟลูออไรด์ และใช้ไหมขัดฟันทำความสะอาดซอกฟัน ตลอดจนควรพบทันตแพทย์อย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง หรือทุก 6 เดือน