“ก้อย รัชวิน” เล่าชีวิตครอบครัวในต่างจังหวัด ตัดสินใจถูกแล้วจริงๆ ที่ย้ายมา
มีเรื่องราวชีวิตให้อัปเดตเยอะเลยทีเดียว สำหรับนางเอกสาวชื่อดัง ก้อย รัชวิน ที่ตอนนี้ได้เปลี่ยนสถานะเป็นคุณแม่คนเก่ง ของ น้องทะเล ลูกชายวัย 9 เดือน ที่กำลังฉายแววความน่าเอ็นดูให้บรรดาคนรักเด็กทั้งรักทั้งหลงกันหนักมาก
โดยล่าสุดขณะที่ ก้อย รัชวิน เดินทางมาร่วมงาน Esther Bunny Women's Run 2022 เจ้าตัวก็ได้ออกมาให้สัมภาษณ์แบบเปิดหมดใจกับสื่อมวลชน ถึงเรื่องราวการเริ่มต้นใช้ชีวิตครอบครัวแบบนับหนึ่งใหม่ในจังหวัดภูเก็ต รวมถึงการดูแลลูกชาย การทำหน้าที่คุณแม่ และความน่ารักของคุณสามี ตูน-อาทิวราห์ คงมาลัย หรือ ตูน บอดี้สแลม ที่นอกจากจะเอาใจใส่ช่วยแบ่งเบาภาระหน้าที่อย่างสุดความสามารถแล้ว ณ เวลานี้ยังได้กลายเป็นคุณพ่อที่ติดลูกชายแบบสุดๆ เลยด้วย
“ชีวิตตอนนี้ก็แฮปปี้มากค่ะ คิดว่าเป็นการตัดสินใจที่ถูกนะคะที่ย้ายไป และพอได้ไปอยู่ตรงนั้นก็คือยาวเลย (ยิ้ม) ถามว่าปรับตัวยากไหม เอ่อ…เอาจริงๆ นะคะไม่ยากเลย คือถึงแม้ว่าเราจะไม่ได้อยู่ในตัวเมือง แต่เราได้อยู่ใกล้กับธรรมชาติ เราสามารถพาลูกไปเที่ยวทะเลได้เท่าที่เราต้องการ เดินทางไปไหนมาไหนรถก็ไม่ติด ส่วนเรื่องข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ที่นั่นก็มีเหมือนกันกับที่กรุงเทพแทบจะทั้งหมด และเราเองก็ใช้ชีวิตของเราไปตามธรรมชาติ ซึ่งเราโอเคมากๆ มันดีสำหรับการเลี้ยงลูก ดีทั้งในแง่ของการที่เขาได้เติบโตมากับธรรมชาติ ได้เติบโตมากับสภาพแวดล้อมที่มันเอื้ออำนวยกับพัฒนาการของเขา ก้อยคิดว่านี่คือเรื่องที่สำคัญที่สุดค่ะ”
พัฒนาการของลูกและความชำนาญของคุณแม่ตอนนี้เป็นยังไงบ้าง ?
“สนุกมาก มีเรื่องให้ตื่นเต้นท้าทายทุกวัน แต่จริงๆ ก็มีพี่เลี้ยงเด็กคอยช่วยเล็กๆ น้อยๆ นะคะ ซึ่งตัวก้อยเองรู้สึกว่าโชคดีตรงที่ทะเลเขาเป็นเด็กเลี้ยงง่าย ร่าเริง อารมณ์ดี ไม่ทำให้ก้อยเครียดเลย”
ภาพการเป็นคุณแม่ของเราตอนนี้ เหมือนภาพที่เราเคยคิดไว้ไหม ?
“เอาจริงๆ นะไม่เคยคิดภาพอะไรไว้เลยค่ะ ทุกอย่างมันใหม่หมด มันเหมือนกับว่าเป็นเรื่องที่ก้อยต้องเรียนรู้เอง เป็นอีกโลกหนึ่ง ถ้าใครไม่ได้มาเป็นแม่ก็อาจจะไม่รู้ว่ามันมีโลกใบนี้อยู่ในการเลี้ยงลูก แต่ละวันไม่เหมือนกันเลยสักวัน เพราะมันจะมีเรื่องให้เราได้ลุ้นได้ตื่นเต้นอยู่ตลอด แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่ได้คาดคิดที่สุดเลยก็คือ ก้อยอ่ะนอนวันละ 4 ชั่วโมง ติดๆ กันมาได้จะ 1 ปีแล้ว แต่ก็ยังใช้ชีวิตอยู่ต่อไปได้ เพราะฉะนั้นบอกเลยว่า คนที่เป็นแม่ทุกคนนี่คือเก่งมากๆ”
สามีก็ช่วยดูแลลูกด้วยเช่นกัน ?
“ช่วยด้วยค่ะ (ยิ้ม) คือพี่ตูนเขาน่ารักมากที่เขาอยากจะมาช่วยทำในสิ่งที่คุณแม่ทำได้ อย่างในช่วงที่เราไม่สามารถออกไปไหนมาไหนได้ พี่ตูนเขาก็จะได้เห็นเราในบทบาทคุณแม่และก็ได้ลองฝึกทำตาม ยกตัวอย่างเช่นตอนที่ออกจากโรงพยาบาลช่วงแรกๆ เราขอเขาว่า อยากให้เขาอาบน้ำให้ลูก เพราะเขามีมือที่ใหญ่และแข็งแรงกว่าเรา ซึ่งเขาก็ไปฝึกนะ ไปฝึกกับคุณพยาบาล รวมถึงอีกหลายๆ เรื่องเลยค่ะที่เขาสามารถทำได้เหมือนกับแม่ทุกอย่าง ยกเว้นแค่เรื่องให้นม”
ตอนนี้เขาอาบน้ำให้ลูกได้แล้วหรือยัง ?
“ทำได้แล้วค่ะ ทำได้ดีเลย แต่ช่วงแรกๆ ด้วยความที่เราเป็นคุณพ่อคุณแม่มือใหม่มันก็ต้องมีเนอะที่แบบไม่คล่องกันทั้งคู่และก็ต้องค่อยๆ ฝึก แต่ตอนนี้ผ่านมา 9 เดือนแล้ว ก็โอเคแล้วค่ะ”
น้องมีแววจะมาทางสายดนตรีบ้างไหม ?
“เอ่อ…เขาชอบเพลงนะ เวลาที่เขาได้ยินเสียงดนตรีเขาจะโยก ซึ่งก็น่าจะชอบดนตรีค่ะ”
คุณพ่อติดลูกขนาดไหน ?
“ที่สุดค่ะ ที่สุด ติดขนาดลืมแม่ไปเลย (หัวเราะ) ขนาดเขาไปทำงานเขายังขอให้ส่งรูปลูกให้เขาดู หรือไม่ก็วิดีโอคอลขอคุยกับลูก ซึ่งเราก็ถามนะว่าคุยกับแม่ไหม ไม่คิดถึงแม่บ้างเหรอ ไม่ถามหาแม่เลย (หัวเราะ)”
มีแพลนเรื่องคนที่สองหรือยัง ?
“เริ่มคุยกันแล้วค่ะว่าแบบจะเมื่อไหร่ แต่ก็อยากให้น้องทะเลผ่าน 1 ขวบไปก่อน”
เราไหวไหมเพราะเหมือนสามีอยากได้ลูก 3 คน ?
“เอ่อ…ลองไปตามธรรมชาติก่อนนะ พูดยากมากเลยอ่ะ รอเป็นตามสเต็ปก่อนดีกว่า ให้มีคนที่สองก่อนแล้วค่อยมาคุยกันว่าอีกสักคนไหวไหม (หัวเราะ) แต่จริงๆ ก้อยก็อยากให้ลูกมีพี่น้องนะคะ เพราะก้อยเองก็โตมากับครอบครัวที่มีพี่น้อง ฉะนั้นจะมาเดี่ยว มาแฝด หรือมาเพศไหนก็ได้หมด”
แบบนี้เราจะต้องหันหลังให้งานในวงการเลยหรือเปล่า ?
“อาจจะขออนุญาตเบรกไว้สักแป๊บหนึ่ง เหมือนกับพี่ๆ คุณแม่หลายๆ ท่านในวงการที่พอมีลูกก็อยากจะทุ่มเทเวลาในการเลี้ยงลูกให้ดีที่สุด ฉะนั้นช่วง 2-3 ปีแรก ก็อาจจะไม่ได้เห็นก้อยในบทบาทใหม่บนหน้าจอ แต่เราก็จะได้เจอกันแว้บๆ ตามงานอีเวนต์ต่างๆ ซึ่งก้อยก็ยังรับอยู่ค่ะ”
อัลบั้มภาพ 13 ภาพ