ชัดเจน “หนุ่ม ศรราม” ไม่มีทางกลับไปเป็นครอบครัว ผมทำดีที่สุดทุกอย่างแล้ว!
เพราะเป็นเรื่องของลูกสาว คุณพ่อซุปตาร์ อย่าง หนุ่ม-ศรราม เทพพิทักษ์ จึงต้องให้ความใส่ใจมากเป็นพิเศษ เมื่อล่าสุดในงานบวงสรวงละครฟอร์มยักษ์ พนมนาคา เจ้าตัวได้มีโอกาสออกมาให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้ากรณีชาวเน็ตอ้างตัวเป็นญาติ น้องวีจิ เขียนข้อความคอมเมนต์หยาบคายผ่านช่องคอมเมนต์ จนกลายเป็นดราม่าร้อนบนโลกโซเชียลฯ
นอกจากนั้น ศรราม เทพพิทักษ์ ยังถือโอกาสนี้ย้ำชัดเจนเรื่องสถานะความสัมพันธ์กับอดีตภรรยา กุ้งพลอย-กนิษฐรินทร์ พัชรภักดีโชติ หรือที่หลายคนรู้จักกันในชื่อ ติ๊ก บิ๊กบราเธอร์ ว่าถึงอย่างไรก็ไม่สามารถกลับไปเป็นครอบครัวได้อีก พร้อมกับชี้แจงอีกครั้งให้เข้าใจตรงกันด้วยว่าเพราะอะไรถึงให้อีกฝ่ายได้สิทธิ์เจอลูกสาวแค่เดือนละ 2 ครั้ง
ล่าสุดกรณีคอมเมนต์ที่มีคนแอบอ้างว่าเป็นญาติน้องวีจิ ?
“อ๋อ ถ้าคอมเมนต์เรื่องนั้นเป็นอีกส่วนหนึ่งครับ คือผมลงติ๊กต๊อกกับลูก ลงรูปลูก ลงรูปวีจิ แต่ก็มีคนเข้ามาคอมเมนต์ด้วยคำหยาบคายต่างๆ นานา เรียกผมว่ากูมึง ซึ่งผมก็ได้ทำการสวนกลับไปและก็แคปเจอร์ยูสเซอร์เก็บไว้ จากนั้นผมก็ให้ที่ปรึกษาทางกฎหมายดูว่าจะทำอะไรได้บ้างกับคนที่ประพฤติตัวแบบนี้บนโลกโซเชียล ก็ปรากฎว่าพอผมโพสต์ว่าผมได้ให้ที่ปรึกษาทางกฎหมายช่วยเก็บหลักฐานต่างๆ เขาก็มาคอมเมนต์ขอโทษ ขอโทษผมในวันเดียวกันเลย ด่าผมตอนเช้า ขอโทษเย็น จากนั้นทัวร์ก็ลงเขาครับ”
“ถามว่าผมให้อภัยเขาไหม เอ่อ…คือผมก็ให้ที่ปรึกษากฎหมายเป็นคนดำเนินการ เพราะว่ามันก็มีขั้นมีตอนของมันอยู่ คือเวลาที่เกิดอะไรขึ้นครั้งแรกมันก็อาจจะต้องมีการหายูสเซอร์เนม ที่อยู่ ชื่อ นามสกุล เพื่อส่งจดหมายไปตักเตือนว่าอย่าทำแบบนี้อีก และจริงๆ ก็ไม่ใช่แค่คนนี้คนเดียวนะครับ แต่ทุกคน คือมันไม่เยอะ แต่ที่ผมตอบกลับอ่ะน้อย ผมจะตอบกลับก็ต่อเมื่อผมทนไม่ไหว”
“คือหลังๆ มานี้ผมคิดว่าเวลาที่ใครเข้ามายุ่งในพื้นที่ส่วนตัวของผม ผมก็มีสิทธิ์ที่จะตอบโต้ มีสิทธิ์ที่จะชี้แจงเช่นกันว่ามันคืออะไร ผมไม่ได้ทำอะไรให้ใครเสียหาย และที่ผมโพสต์ก็คือรูปลูก เป็นโมเมนต์ควาทรงจำดีๆ ของลูก ดังนั้นถ้าคุณเข้ามาทำแบบนี้และคนอื่นๆ ก็เข้ามาแสดงความเห็นต่ออีกเป็นพรืด แทนที่ผมจะได้เก็บโมเมนต์น่ารักๆ เอาไว้ กลับกลายเป็นว่าคนก็เข้ามาสนใจแต่เรื่องพวกนี้ทั้งยวง ซึ่งมันไม่คุ้มกันเลย ดังนั้นผมก็คงจะต้องทำอะไรให้มันถูกต้องครับ”
ที่ผ่านมาเราได้ตักเตือนไปเยอะไหม ?
“ผมไม่ได้มีหน้าที่ไปตักเตือนใครหรอกครับ ผมมีหน้าที่แค่ดำเนินคดีเท่านั้นเอง”
ถามถึงกรณีล่าสุดที่น้องวีจิได้เจอกับคุณแม่ และเกิดเหตุการณ์เครื่องทำขนมระเบิด เรื่องนี้เราทราบไหม ?
“อันนี้ล่าสุดเลยครับ แต่ผมไม่ได้เห็นเองนะ คือวันนั้นผมไปทำงานแล้วกลับมาเจอลูก และผมก็ถามว่า ‘ทำไมเขาหงอยๆ’ พี่เลี้ยงก็บอกว่า ‘มันเป็นแบบนี้นะ เครื่องทำขนมมันช็อต และมันช็อตในขณะที่คุณติ๊กเขากำลังไลฟ์’ ผมก็เลยถามว่า ‘วีจิโดนอะไรบ้างหรือเปล่า’ ซึ่งเขาก็บอกว่า ‘ไม่โดน’ แต่ผมก็รู้สึกเป็นห่วง คือจริงๆ แล้วผมคิดว่าในวัยของวีจิ สิ่งที่เขาควรจะต้องเสริมนอกจากการเรียนรู้ตอนนี้ ณ ปัจจุบันตามหลักสูตร น่าจะเป็นเรื่องว่ายน้ำ เพราะตั้งแต่มีโควิดเขาไม่ได้ว่ายน้ำเลย และอีกสิ่งหนึ่งก็คือภาษาอังกฤษ ส่วนอะไรที่มันพาดโผนหรือว่าไม่ปลอดภัยผมค่อนข้างเป็นห่วงครับ”
ตัวเราได้คุยกับติ๊กไหมครับว่ากิจกรรมไหนเหมาะหรือกิจกรรมไหนโอเคกับวัยของลูก ?
“ยังไม่มีการพูดคุยครับ คือมันเหมือนกับว่าไลฟ์มันถูกลบไปแล้วมั้งครับ และตัวเขาเองก็ไม่ได้แจ้งอะไรผมมา”
แต่ก็อาจจะต้องมีการคุยมากขึ้นเรื่องการทำกิจกรรมของลูก ?
“คงไม่ต้องคุยมากขึ้นครับ เพราะว่าผมเป็นผู้ปกครองวีจิแต่เพียงผู้เดียวอยู่แล้ว ทุกอย่างอยู่ที่การตัดสินใจของผม”
ในส่วนของเรื่องระยะความถี่ในการที่จะให้ติ๊กเขาได้เจอกับลูกตอนนี้เป็นยังไงบ้าง ?
“คือสิ่งต่างๆ ที่ผมให้เจอเดือนละ 2 ครั้ง บางครั้งทุกคนอาจจะไม่เข้าใจนะครับ ผมก็ต้องขออนุญาตอธิบายอีกสักครั้งละกัน อย่าเพิ่งเบื่อ ผมต้องบอกก่อนเลยว่าผมกับลูกเราใช้ชีวิตแบบปกติธรรมดาแบบพ่อลูกทั่วไปไม่ได้อยากจะเป็นข่าวเป็นดราม่าอะไรเลย แต่เรื่องที่ให้เจอเดือน 2 ครั้งหรืออะไรนั้น อันนี้ก็ต้องทำความเข้าใจเด้วยว่า บางครั้งวีจิเขาไปโรงเรียน ส่วนผมถ่ายละครกว่าผมจะว่างเสาร์อาทิตย์ และไหนวีจิจะต้องมีเรียนว่ายน้ำ ไหนจะต้องมีเรียนภาษาอังกฤษ ผมก็เลยต้องแบ่ง 2 วัน ผม 2 วัน ติ๊ก 2 วัน ซึ่งมันก็โอเคแล้ว มันก็ไม่ได้มีอะไรที่จะดูไม่เหมาะสมตรงไหนเลยครับ”
อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นไม่ได้มีผลต่อช่วงเวลาในการเจอลูก ?
“ให้เจอครับ แต่อาจจะต้องมีการฝากที่ปรึกษาทางกฎหมายหรือไม่ก็พี่เลี้ยง ให้ช่วยสื่อสารกับเขาว่าแบบ ผมไม่อยากให้น้องเล่นอะไรที่มันผาดโผน หรืออะไรที่มันไม่ปลอดภัย ทั้งๆ ที่มันยังไม่ถึงวัยของเขา คืออะไรที่มันเป็นตัวเขาเดี๋ยวถึงเวลาวันหนึ่งเราค่อยให้เขาเลือก ปล่อยให้เขาเป็นตัวเขาก่อน อย่าเพิ่งให้เขาทำอะไรที่มันยังไม่ใช่วัยของเขาอ่ะครับ”
สุดท้ายแล้วเราคิดว่าจะสามารถกลับมาเป็นครอบครัวกันอีกครั้งได้ไหม ?
“ไม่ได้ครับ ไม่ได้ เพราะว่าผมทำดีที่สุดทุกอย่างแล้วครับ”
- "หนุ่ม ศรราม" เลิกปาร์ตี้ ตื่นเช้าส่ง "วีจิ" ไปเรียน ให้ "กุ้งพลอย" เจอลูกเดือนละ 2ครั้ง
- "หนุ่ม ศรราม" แต่งตัวให้ "น้องวีจิ" ไปโรงเรียนวันแรก โมเมนต์พ่อลูกอ้อนกันสุดๆ (คลิป)
อัลบั้มภาพ 14 ภาพ