ไฟไหม้ปริศนาสงบแล้ว หมอปลายันไม่มีพญานาค เจ้าของบ้านยังผวาอยากให้ติดกล้อง

ไฟไหม้ปริศนาสงบแล้ว หมอปลายันไม่มีพญานาค เจ้าของบ้านยังผวาอยากให้ติดกล้อง

ไฟไหม้ปริศนาสงบแล้ว หมอปลายันไม่มีพญานาค เจ้าของบ้านยังผวาอยากให้ติดกล้อง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ไฟไหม้ปริศนาสงบแล้ว หลังนักข่าวแห่ลงพื้นที่ หมอปลายันไม่มีผี ไม่มีพญานาคพ่นไฟ เจ้าของบ้านยังผวาอยากให้ติดกล้องวงจรปิด

วันนี้ (26 ก.ค.65) ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ บ้านท่าสองคอน หมู่ 12 ต.ท่าสองคอน อ.เมือง จ.มหาสารคาม อีกครั้ง ภายหลังจากที่วันนี้ หมอปลา จะเดินทางมาที่บ้านหลังดังกล่าว เพื่อพิสูจน์ว่าที่บ้านหลังนี้มีสิ่งลี้ลับ ตามที่เจ้าของบ้านเชื่อหรือไม่ เพื่อไขปมปริศนากรณีไฟประหลาดลุกไหม้ภายในบ้านหลายจุด ตั้งแต่วันที่ 17 กรกฎาคม จนถึงวันที่ 24 กรกฎาคม รวมแล้วกว่า 30 ครั้ง เฉพาะวันที่ 24 วันเดียวเกิดเหตุไฟไหม้ตามจุดต่างๆ ของบ้านรวม 11 ครั้ง

ซึ่งชาวบ้านที่ทราบข่าวว่าหมอปลาจะเดินทางมาเพื่อคลายปมไฟปริศนาที่บ้านหลังนี้ ต่างก็เดินทางมารอดูและสังเกตการณ์เป็นจำนวนมาก ทาง อบต.ท่าสองคอน ได้นำเต็นท์มาตั้งไว้จำนวน 2 หลัง พร้อมด้วยเก้าอี้ให้ชาวบ้านได้นั่งรอและสังเกตการณ์ โดยมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อบต.ท่าสองคอน และ อสม.เข้ามาอำนวยความสะดวกบริเวณบ้าน

กระทั่งเวลา 10.40 น. หมอปลาได้เดินทางมาถึง จึงได้เข้าไปในบ้านหลังดังกล่าว พร้อมกับเดินดูตามห้องและจุดที่เคยเกิดไฟไหม้ ก่อนที่จะเดินไปหลังบ้าน เพื่อที่ไปดูจุดที่เจ้าของบ้านไปดูหมอดูมาแล้วเชื่อว่าเป็นรูที่พญานาคใช้สัญจร และได้มีการต่อเติมหลังบ้าน ทำให้พญานาคไม่พอใจพ่นไฟออกมา จึงเกิดไฟไหม้เป็นจุดๆ ขึ้น ซึ่งเมื่อหมอปลาไปถึงจุดที่เชื่อว่าเป็นรูพญานาค ก็บอกกับนางสมจิตเจ้าของบ้านว่า ไม่ใช่รูพญานาคเป็นเพียงดินที่ทรุดลงไป ให้ลองคิดดูว่าถ้าเป็นพญานาค ก็คงจะไม่ลงไปอยู่ในรูที่สกปรกแบบนี้ พญานาคเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เป็นของสูง คงไม่ลงไปอยู่ใต้ดินให้คนข้ามไปข้ามมา หมอดูที่ไปดูมาเป็นหมอดูมโน ถ้าเรามีความเชื่อ เราก็ต้องไปเสียเงินเสียทอง ไปเช่าไปบูชาสิ่งต่างๆ มาไว้ในบ้าน เสียเงินเสียทองไปอีก ถ้าเป็นพญานาคพ่นไฟจริงๆ ป่านนี้พญานาคปากพองไปแล้ว

ซึ่งตลอดเวลาหมอปลาสำรวจบ้านก็ไม่มีท่าที ว่าบ้านหลังนี้มีสิ่งลี้ลับแต่อย่างใด จึงได้บอกกับนางสมจิต เจ้าของบ้านว่าไม่สามารถสัมผัสสิ่งลี้ลับได้ เพราะบ้านหลังนี้ไม่มีผี สิ่งที่เกิดขึ้นน่าจะเป็นคนมากกว่า ทั้งนี้มี 2 วิธีที่จะไม่เกิดไฟไหม้ คือ 1.ติดกล้องวงจรปิด 2.เอาคุณตาออกจากบ้านหลังนี้ ไฟจะไม่ไหม้ และสุดท้ายก็จะได้คำตอบว่าไฟลุกไหม้เป็นเพราะอะไร

ผู้สื่อข่าวถามว่า แสดงว่าหมอปลาเชื่อว่าฝีมือมนุษย์ใช่หรือไม่ หมอปลาตอบว่าไม่ได้เชื่อ แต่มันคือเรื่องจริง มันไม่ใช่ความเชื่อ มันคือเรื่องจริง ตนไม่ได้เจาะจงว่าใคร แต่หากทำตามที่ตนแนะนำคือติดกล้องวงจรปิด และนำตาออกไปอยู่ที่อื่น ก็จะไขปริศนาได้ทุกอย่าง พร้อมกับทิ้งท้ายว่า หากตราบใดเจ้าของบ้านยังเชื่อว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในบ้านเป็นฝีมือของพญานาค เป็นฝีมือของผี เป็นไสยศาสตร์สิ่งที่ตามมาคือหมดตัว อยากให้เอาเงินที่ไปหาหมอดูไปซื้อกล้องวงจรปิดมาติดดีกว่า ผีพวกนี้กลัวกล้องวงจรปิด เพราะมันคือฝีมือมนุษย์ ไม่มีสิ่งลี้ลับ ไม่มีสิ่งเหนือธรรมชาติ เข้าใจว่าทุกข์ แต่สิ่งพวกนี้จะทำให้เราหมดเงินหมดทอง เพราะถ้ามีผีจริง ผีเห็นผม พระเลว ๆ เห็นผมก็หนีแล้ว

นางสมจิต เจ้าของบ้าน กล่าวว่า ถึงแม้ว่าหมอปลาจะบอกไว้ไม่มีสิ่งลี้ลับใดๆ ในบ้าน แต่ตนเองก็ยังเชื่ออยู่ เพราะตั้งแต่เกิดมาก็ไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ จากนี้ก็ไม่รู้จะทำอย่างไรต่อไป ก็คงต้องทำบุญ และหากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะเอากล้องวงจรปิดมาติดก็เอามาติดไม่มีปัญหาอะไร ด้าน นางอรุณณี ชัยยะรุ่งโรจน์ รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบลท่าสองคอน กล่าวว่า เหตุการณ์ประหลาดนี้เกิดขึ้นไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในหมู่บ้านเท่าที่สำรวจความเสียหายพบว่าส่วนใหญ่ไฟไหม้เป็นจุดๆ ทั่วบริเวณบ้านและไม่ในตู้เสื้อผ้าทำให้เสียหายแล้ว 5 หลัง ต้องขนย้ายออกไปทิ้งไว้ข้างนอกและมีเสื้อผ้ารวมถึงสิ่งของต่างๆ ตรงส่วนนี้องค์การบริหารส่วนตำบลท่าสองคอนได้เข้ามาดูแลเบื้องต้น ด้วยการจัดเจ้าหน้าที่แวะเวียนมาดูแลสอบถามอยู่เป็นระยะๆ

นอกจากนี้ได้เปิดรับบริจาคสิ่งของเพื่อนำมามอบให้เจ้าของบ้านเพื่อบรรเทาทุกข์เบื้องต้น ทั้งนี้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือเป็นเรื่องประหลาดเพราะไฟสามารถจุดติดขึ้นได้เองทั้งๆ ที่ในบ้านตัดไฟไปแล้ว ไม่มีกระแสไฟฟ้าเข้าแต่ไฟก็ยังลุกอยู่ ในส่วนของการติดตั้งกล้องวงจรก็จะได้ทำเรื่องเสนอที่นายก อบต. ว่าจะช่วยได้อย่างไร หากนำมาติดก็คาดว่าจะติดได้ประมาณ 3-4 ตัว แต่ตรงนี้ก็ยังไม่มีงบประมาณ แต่จะหาทางออกโดยเร็วที่สุด

ด้าน นางทองมี อายุ 50 ปี เพื่อนบ้านใกล้เคียง เล่าว่า จากการสอบถามเจ้าของบ้านพบว่าไม่ได้เกิดเหตุไฟไหม้ในบ้านมาแล้วเป็นเวลา 2 วัน หลังจากที่ข่าวปรากฏออกไป ตั้งแต่วันที่ 24 ก.ค. ช่วงเวลาประมาณห้าโมงเย็น และหลังจากนั้นก็ไม่มีไฟลุกไหม้ในบ้านอีกเลย

นายประสิทธิ์ อายุ 84 ปี พ่อนางสมจิต เจ้าของบ้าน เปิดเผยว่า บ้านหลังนี้ตนอยู่กับลูกสาว 2 คน จะมีลูกหลานคนอื่นๆ แวะเวียนมาเยี่ยมปกติจะไม่ค่อยมีคนแปลกหน้าเข้ามาในบริเวณบ้าน ที่ผ่านมาเกิดเหตุไฟไหม้ในบ้านก็ยอมรับว่าตกใจมากเคยเห็นไฟไหม้กับตาต่อหน้า ลุกไหม้กองผ้าไฟท่วมสูง ซึ่งก็ได้เรียกลูกหลานและเพื่อนบ้านที่อยู่บริเวณใกล้เคียงมาช่วยดับไฟ ทั้งนี้ตนเองไม่เคยมีเรื่องเดือดร้อนใจกับใคร หรือมีปัญหากับเพื่อนบ้านข้างเคียงจึงไม่เชื่อว่าจะมีคนมาจุดไฟเผาบ้านเพราะความแค้น จากนี้คงต้องให้ทีมหมอปลาเจ้าหน้าที่หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ช่วยตรวจสอบและทำให้เหตุการณ์ประหลาดนี้ผ่านพ้นไปโดยเร็ว ตนจะได้อยู่กับครอบครัวได้อย่างสบายใจ 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook