ดราม่าไม่จบ กู้ภัยแจ้งความผู้ช่วยพยาบาล ตำรวจจ่อเรียกมาเปรียบเทียบปรับ

ดราม่าไม่จบ กู้ภัยแจ้งความผู้ช่วยพยาบาล ตำรวจจ่อเรียกมาเปรียบเทียบปรับ

ดราม่าไม่จบ กู้ภัยแจ้งความผู้ช่วยพยาบาล ตำรวจจ่อเรียกมาเปรียบเทียบปรับ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

กู้ภัยส่งตัวแทนเข้าแจ้งความสาวผู้ช่วยพยาบาลขับเก๋งไม่หลบทางให้รถฉุกเฉิน ปมโพสตหมิ่นประมาท ขณะที่ตำรวจจ่อเรียกมาเปรียบเทียบปรับตาม พรบ.จราจร 2535

จากกรณีเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้โพสต์คลิปวิดีโอนาทีชีวิต เผยพฤติกรรมของรถเก๋งรายหนึ่ง ไม่ยอมหลีกทางให้รถกู้ชีพของมูลนิธิสยามรวมใจปู่อินทร์ (ทุ่งสง) ที่กำลังไปช่วยเหลือผู้ป่วยอาการหนัก แต่ไปช่วยเหลือไม่ทัน จนสุดท้ายผู้ป่วยเสียชีวิต ซึ่งภายหลังทราบว่า คนขับรถเก๋งเป็นผู้ช่วยพยาบาลอยู่โรงพยาบาลอยู่ที่ รพ.แห่งหนึ่งในทุ่งสง 

ความคืบหน้าในเรื่องนี้ ล่าสุด วันนี้ (28 ก.ค.) คณะกรรมการบริหารมูลนิธิสยามร่วมใจปู่อินทร์ ได้มอบหมายให้ นายธนเดช ทองคำชุม เป็นตัวแทนของมูลนิธิ ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ ร้อยตำรวจเอก วินิจ อินทร์คง พนักงานสอบสวน สภ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช

โดยมีหลักฐานเป็นโพสต์ต้นเรื่องของผู้โพสต์ที่ถูกระบุภายหลังว่าเป็นผู้ช่วยพยาบาลของโรงพยาบาลในอำเภอทุ่งสง พร้อมทั้งข้อความที่เกี่ยวข้อง และได้นำหลักฐานในส่วนของมูลนิธิเป็นคลิปภาพจากกล้องหน้ารถ กล้องในพื้นที่ช่วยเหลือผู้ป่วย มอบให้พนักงานสอบสวนพิจารณา

โดยได้แจ้งความร้องทุกข์ในประเด็นการหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา และความผิดตาม พรบ.คอมพิวเตอร์ หลังจากพิจารณาแล้วเห็นว่าโพสต์ต้นเรื่องได้สร้างความเสื่อมเสีย ก่อให้เกิดความเสียหายต่อมูลนิธิ โดยพนักงานสอบสวนได้รับแจ้งและจะได้พิจารณาพยานหลักฐานเพื่อเรียกผู้ถูกกล่าวหามาทำการสอบปากคำตามขั้นตอน

ส่วนกรณีข้อพิจารณาเรื่องการกระทำความผิดตาม พรบ.จราจรหรือไม่ ต่อการขับขี่รถยนต์ของผู้ที่โพสต์และอ้างว่าเป็นผู้ขับขี่รถยนต์เก๋งในคลิปนั้น นายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ของ สภ.ทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช ได้สั่งการให้พนักงานสอบสวนเข้าตรวจสอบคลิปภาพ

พฤติการณ์มีลักษณะเข้าข่าย พรบ.จราจรทางบก 2534 มาตรา 34 ในการใช้ทางเดินรถที่ได้จัดแบ่งช่องเดินรถในทิศทางเดียวกันไว้ตั้งแต่สองช่องขึ้นไป หรือที่ได้จัดช่องเดินรถประจำทางไว้ในช่องเดินรถซ้ายสุด ผู้ขับขี่ต้องขับรถในช่องซ้ายสุดหรือใกล้กับช่องเดินรถประจำทาง

และมาตรา 35 รถที่มีความเร็วช้า หรือรถที่มีความเร็วต่ำกว่าความเร็วของรถคันอื่นที่ขับในทิศทางเดียวกัน ผู้ขับขี่ต้องขับรถให้ใกล้ขอบทางเดินรถด้านซ้ายเท่าที่จะกระทำได้ 

โดยขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบและจะเรียกผู้ขับขี่รถคันที่ปรากฎมาเปรียบเทียบปรับในอัตราโทษปรับที่กำหนดต่อไป

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook