สาวผู้ช่วยพยาบาล แจงอีกมุม ซัดกู้ภัยขับรถจี้ ทำสติในการขับรถน้อยลง

สาวผู้ช่วยพยาบาล แจงอีกมุม ซัดกู้ภัยขับรถจี้ ทำสติในการขับรถน้อยลง

สาวผู้ช่วยพยาบาล แจงอีกมุม ซัดกู้ภัยขับรถจี้ ทำสติในการขับรถน้อยลง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

คนไม่อยู่ในเหตุการณ์ไม่เข้าใจ? สาวผู้ช่วยพยาบาล ซัดกู้ภัยขับรถจี้ท้าย ทำให้สติในการขับรถลดลง พยายามหลีกแล้วแต่ทำไม่ได้

ล่าสุด วันนี้ (28 ก.ค. 65) จากที่สาวผู้ช่วยพยาบาล ได้โพสต์ข้อความ ลงกลุ่มว่า “ฝากถึงรถมูลนิธิสยามรวมใจ นะคะ เวลาขอทาง ให้เวลารถคันหน้าดูรถ ทางซ้ายมือบ้างนะคะ ไม่ใช่คิดแต่จะจ่อตูดอย่างเดียว คิดถึงความปลอดภัยของคนอื่นเค้าบ้าง ไม่ใช่เอาแต่ความสะดวกของตัวเอง ถึงน้องจะรีบแค่ไหน ด่วนแค่ไหน คิดถึงความปลอดภัยคนอื่นด้วยนะคะ”

หลังจากโพสต์ออกไปชาวเน็ตหลายคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก และไปในทางเข้าใจเจ้าหน้าที่กู้ภัย ที่กำลังปฎิบัติหน้าที่ส่งผู้ป่วย และผู้บาดเจ็บไปโรงพยาบาล ส่วนสาวคนดังกล่าวถูกชาวเน็ตต่อว่าเป็นจำนวนมาก

ล่าสุด นางสาวบี (นามสมมุติ) เปิดเผยว่า ระหว่างนั้นก็ได้ยินเสียงรถกู้ภัยเปิดไซเรนขับตามมาด้านหลัง ตอนแรกก็พยายามเบี่ยงเลนจะหลบให้รถกู้ภัยแล้ว แต่เลนซ้ายมีรถจอดซ้อนคันอยู่

“ยอมรับว่าที่รถกู้ภัยขับจ่อท้ายอย่างกระชั้นชิด ทำให้ความสามารถ สติในการขับรถของตนลดน้อยลง ประกอบกับความกลัวว่าจะถูกรถกู้ภัยชนท้าย เนื่องจากรถกู้ภัยขับรถในลักษณะจ่อท้ายแบบเร่งเครื่องสลับกับหยุด จึงไม่กล้าขับเบี่ยงออกซ้าย

ส่วนคลิปหน้ารถที่รถกู้ภัยนำมาโพสต์ เป็นเพียงแค่ช่วงท้าย ซึ่งเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ที่รถกู้ภัยขับจ่อท้ายนั้น บริเวณช่องเลนซ้ายมีรถจอดซ้อนคันตลอดทาง ตนจึงไม่สามารถขับรถเบี่ยงซ้ายหลบให้กู้ภัยได้ จึงวอนสังคมให้ฟังความทั้งสองข้าง หากไม่อยู่ในเหตุการณ์ก็ไม่ควรจะวิพากษ์วิจารณ์ให้ผู้อื่นเสียหาย”

นางสาวบี ยังพูดอีกว่า หลังจากเกิดเหตุการณ์ตนก็พยายามทักไปหาทางมูลนิธิแล้ว แต่ไม่มีการตอบรับ จึงได้ตัดสินใจโพสต์จนเกิดกระแสดราม่าดังกล่าวขึ้นมา และยังมีชาวเน็ต และกู้ภัยบางคนทักมาหาแบบส่วนตัว พร้อมทั้งขู่อีกสารพัด แต่ตนไม่สนใจเพราะเขาไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์เดียวกับเรา

ตนอยากถามทุกคนว่า หากเจอกรณีที่มีรถขับจ่อท้ายในลักษณะเร่งเครื่องสลับหยุด โยกซ้ายขวา ที่สำคัญมีรถจอดซ้อนคันช่องเลนซ้าย แล้วจะให้ทำอย่างไร

ยอมรับว่าปรึกษาทนายแล้ว เรื่องที่จะดำเนินการกับคนที่แชทมาในลักษณะข่มขู่ ว่าจะดำเนินการตามกฎหมายยังไงได้บ้าง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนก็ไม่อยากให้เกิดขึ้น แต่ขอให้ฟังความทั้งสองข้างว่าเรื่องราวเป็นอย่างไร หากคนใดคิดว่าเหตุการณ์ตามคลิปตนผิด ตนต้องก็ขอโทษด้วย

ส่วนทาง นพ.ปณิธาน ผอ.รพ.ทุ่งสง เปิดเผยว่า เพิ่งทราบเรื่องดังกล่าว และได้สอบถามไปยังหัวหน้าของตึกที่พนักงานคนดังกล่าวปฎิบัติงานอยู่แล้ว และจะมีการเรียกเจ้าหน้าที่คนนี้เข้ามาสอบถามถึงความจริงอีกครั้ง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมองว่าเป็นเรื่องของแต่ละบุคคล ไม่ได้เกิดขึ้นในโรงพยาบาล ไม่ได้เกิดขึ้นในเวลาปฏิบัติงาน

อย่างไรก็ตาม ทางโรงพยาบาลขอแสดงความเสียใจกับญาติผู้เสียชีวิตด้วย

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook