"ชัยวุฒิ" เร่งปราบพนันออนไลน์ โวปีที่ผ่านมาปิดไปแล้วเกือบ 2,000 เว็บ
ชัยวุฒิ รับลูก ประวิตร สั่งปราบเว็บพนันออนไลน์ หวั่นกระทบเยาวชน โวปีที่ผ่านมาปิดไปแล้วเกือบ 2000เว็บ แนะแก๊งคอลเซนเตอร์กลับใจ ระบุ ตร.ไทย-กัมพูชา ปราบจริงไม่มีรอด
นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวภายหลังที่พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี มีข้อสังการให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เร่งปราบปรามและปิดกั้นเว็บไซต์พนันออนไลน์ ที่กำลังแพร่ระบาด เพื่อป้องกันผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับเยาวชนและประชาชนในสังคม ว่า ได้รับทราบข้อสั่งการและข้อห่วงใยของรองนายกรัฐมนตรีแล้ว หลังจากนี้จะมีการยกระดับการดำเนินงานร่วมกับหน่วยต่างๆให้มากยิ่งขึ้น จากเดิมที่ผ่านมากระทรวงดีอีเอส ได้มีการตั้งคณะทำงานร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติในการรวบรวมพยานหลักฐาน เว็บไซต์พนันออนไลน์ ต่างๆ มีการปิดกั้น และดำเนินคดี ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ โดยปีที่ผ่านมาได้ปิดกั้นไปได้มากถึงเกือบ 2000 URL. และในปีนี้จะเร่งปิดกั้นให้ได้มากกว่าเดิม
ซึ่งเบื้องต้นได้มอบนโยบายให้มีการเจาะลึกข้อมูลว่าเว็บพนันออนไลน์อันไหนที่กำลังมีคนให้ความสนใจเข้าไปใช้บริการจำนวนมาก ให้เร่งปิดกั้นโดยเร็วที่สุดเป็นลำดับแรก เพราะหากปล่อยไว้จะสร้างความเสียหายให้กับพี่น้องประชาชนได้มาก
นอกจากนี้ กระทรวงดีอีเอส และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ยังคงเดินหน้าปราบปรามแก๊งคอลเซนเตอร์ ตามนโยบายของรองนายกรัฐมนตรีอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดทางตำรวจไซเบอร์ของไทย นำโดย พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รอง ผบ.ตร. และ ผอ.ศปอส.ตร. หรือ PCT ได้เข้าไปสืบสวนสอบสวน ร่วมกับทางการกัมพูชา และจับกุมคนร้ายที่ประเทศกัมพูชาได้จำนวนมาก พร้อมกับมีการส่งตัวคนไทยที่เกี่ยวข้องร่วม 94 คน กลับมาดำเนินคดีในประเทศไทยด้วย ต้องขอบคุณรัฐบาลกัมพูชา ที่ได้มีความร่วมมือกับรัฐบาลไทย ในการประสานข้อมูลทำงานร่วมกันในการทลายแก๊งคอลเซนเตอร์อย่างต่อเนื่อง เชื่อว่าหลังจากนี้แก๊งคอลเซนเตอร์จะลดลงอย่างแน่นอน” นายชัยวุฒิ กล่าว
นายชัยวุฒิ ยังเตือนไปยังคนไทยทุกคนที่พยายามลักลอบข้ามไปทำงานกับแก๊งคอลเซนเตอร์ที่กัมพูชา ว่าขอให้กลับใจ เพราะตอนนี้ไทยและกัมพูชามีความร่วมมือกันปราบปราม หากยังฝ่าฝืนที่จะไปทำงานลักษณะนี้ก็จะถูกจับกุมดำเนินคดี และต้องกลับมารับโทษที่ประเทศไทย เช่นเดียวกับคนไทยที่ยังรับจ้างเปิดบัญชีม้า ที่ไม่มีทางหนีรอดแน่นอน พร้อมเตือนไปยังพี่น้องประชาชน กรณีแก๊งคอลเซนเตอร์ยังคงอ้างไปรษณีย์ไทยและบริษัทส่งสินค้าต่างๆเพื่อ หลอกลวงประชาชนให้โอนเงินต่างๆ ย้ำว่าไปรษณีย์ ไม่มีการโทรหาประชาชนหากมีการติดต่อจริงก็จะติดต่อโดยเอกสาร ดังนั้นอย่าไปหลงเชื่อเด็ดขาด