สาวขาดส่งดอก 1 วัน แก๊งเงินกู้หยอดกาวประตู ขังในบ้านพร้อมลูก 4 ขวบ นาน 4 วัน
แก๊งเงินกู้สุดเหิม หยอดกาวรูกุญแจประตูบ้าน ขังสาวพร้อมลูก 4 ขวบ นาน 4 วัน ซ้ำพ่นสีด่า ยกของหน้าบ้านขึ้นรถหนี
(1 ส.ค.65) ภาพจากกล้องวงจรปิดริมถนนสายบางจัก-วัดนางชำ ต.บางจัก อ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง จับภาพขณะรถปิคอัพอีซูซุสีดำ ซึ่งมีชายฉกรรจ์ในรถหลายคนขับมาจอดบริเวณหน้าบ้านหลังหนึ่งที่เปิดเป็นร้านค้าริมถนนห่างจากป้อมสายตรวจประมาณ 300 เมตร ก่อนที่หนึ่งในชายฉกรรจ์ที่นั่งอยู่ในรถจะลงมาพร้อมเข้าไปบริเวณด้านหน้าบ้านและใช้กาวช้างหยอดที่กุญแจประตูเหล็กทำให้ไม่สามารถไขประตูได้
หลังจากผ่านอีก 1 วันมีกลุ่มชายฉกรรจ์ซึ่งน่าจะเป็นแก๊งเดียวกัน ขับรถเก๋งฮอนด้า สีขาว เข้ามาและชายฉกรรจ์อีก 3 คน ลงมาที่บริเวณด้านหน้าร้านก่อนที่จะยกลังโซดาและเครื่องดื่มที่อยู่หน้าบ้านขึ้นรถไปอย่างหน้าตาเฉย พร้อมทั้งใช้สีสเปรย์สีดำพ่นที่บริเวณประตูและพื้นปูนด้านหน้า มีข้อความว่า “หลบได้หลบไป อีขี้โกง” ก่อนที่จะขับรถออกไป
โดยหลังจากทราบเรื่องผู้สื่อข่าวได้ลงไปพื้นที่พร้อมทั้งขอให้ชาวบ้านที่อยู่บริเวณดังกล่าวช่วยเหลือโดยการนำเครื่องมือมาช่วยกันงัดประตูออกซึ่งต้องใช้เวลานานกว่า 1 ชั่วโมงจึงสามารถช่วยเหลือทั้งสองออกมาได้ท่ามกลางความดีใจของทั้งสองหลังถูกขังอยู่ภายในบ้านมานานกว่า 4 วัน
นางอร (นามสมมติ) อายุ 39 ปี เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่าตนเองเป็นหนี้แก๊งเงินกู้นอกระบบอยู่ 2-3 ราย ซึ่งเป็นจำนวนเงินไม่มากและก็ส่งเงินมาโดยตลอด หลังจากเริ่มขายของไม่ดีเพิ่งจะขาดส่งเพียง 1 วัน เมื่อวันที่ 27กรกฏาคม 2565 ที่ผ่านมาก็ถูกโทรด่าและข่มขู่จากแก๊งเงินกู้ดังกล่าว ด้วยความกลัวตนจึงพาลูกสาววัย 4 ขวบและสุนัขอีก 3 ตัวหลบอยู่ในบ้าน จนกระทั่งเช้าวันที่ 29 กรกฏาคม ก็มีชายฉกรรจ์มาที่ร้านทั้งสองวัน ทำให้ตนยิ่งกลัวโดยเฉพาะแก๊งเงินกู้ข่มขู่ว่าให้แจ้งตำรวจเลยเพราะเป็นพวกเดียวกัน ไม่มีใครกล้าทำอะไร ตนจึงไม่กล้าแจ้งโดยให้เพื่อนบ้านช่วยซื้อข้าวส่งให้ทางด้านหลังบ้านแทน แต่สุดท้ายก็ทนไม่ไหวเพราะสงสารลูกที่ไม่สามารถออกไปไหนได้จึงหาเบอร์โทรศัพท์จากในอินเตอร์เน็ตและโทรขอความช่วยเหลือจากพี่นักข่าว
ที่ผ่านมาตนเองไม่เคยผิดนัดไม่คิดโกงเงินกู้แต่อย่างใดแต่ขาดส่งไปเพียงวันเดียวก็มาทำกันอย่างนี้ พร้อมทั้งยังส่งข้อความด่าด้วยคำที่หยาบคายต่างๆ นานาและท้าให้แจ้งความตำรวจโดยบอกว่ามีใครทำอะไรได้ ตนเองหมดที่พึ่งรวมถึงกลัวจะอันตรายทั้งตัวเองและลูก จึงขอให้พี่นักข่าวช่วยเหลือ หลังช่วยทั้งสองออกมาจากร้านได้ทางน้องอรประสานทางญาติเพื่อเตรียมรวบรวมหลักฐานและข้อความในแชตและโซเชียลเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางจัก เพื่อให้ดำเนินคดีกับแก๊งเงินกู้ดังกล่าวในข้อหากักขังหน่วงเหนี่ยว ลักทรัพย์ และหมิ่นประมาท รวมถึง พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ โดยยืนยันที่จะดำเนินคดีกับแก๊งเงินกู้ทั้งหมดที่ก่อเหตุเช่นนี้