#ไฟไหม้ผับชลบุรี ยายร่ำไห้กอดศพหลานวัย 17 ถามเจ้าของผับปล่อยให้เด็กเข้าไปได้ยังไง
จากกรณีเหตุการณ์ไฟไหม้ผับดังเมืองสัตหีบ Mountain B ริมถนนสาย สุขุมวิท ม.7 ต.พลูตาหลวง อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ขณะที่มีนักท่องราตรีกำลังใช้บริการกว่าร้อยชีวิต ต้นเพลิงเริ่มไหม้บริเวณหลังคา ก่อนจะลุกลามอย่างรวดเร็วไปทั่วบริเวณ เนื่องจากตัวหลังคามีการบุโฟม สำหรับซับเสียง ซึ่งเป็นวัตถุติดไฟได้ง่าย ประกอบกับช่องระบายลมมีเพียงประตูด้านหน้า ยิ่งทำให้ไฟโหมกระหน่ำรุนแรง ย่างสดนักเที่ยวตายรวม 13 ชีวิต ถูกไฟคลอกนอนรักษาตัวทั้งหมด 36 คน
ล่าสุด 07.00 น. นายภัครธรณ์ เทียนไชย ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ได้มอบหมายให้ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดชลบุรี ( ปภ.) ตั้งศูนย์บัญชาการที่เกิดเหตุ เพื่อช่วยเหลือและเยียวยาวผู้ประสบเหตุ เนื่องจากเหตุการณ์ดังกล่าว มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก จึงถือว่าเป็นอุบัติภัย โดยตามกฎของกระทรวงจะมีงบช่วยเหลือเบื้องต้น ผู้บาดเจ็บรายละ 4,000 บาท บาดเจ็บจนพิการรายละ 13,300 บาท และ ผู้เสียชีวิตจะได้รายละ 29,700 บาท หากเป็นผู้เสียชีวิตเป็นผู้นำครอบครัว จะได้คูณ 2 จากตัวเลข 29,700 บาท
นอกจากยังมีงบของอำเภอ และ เทศบาลในพื้นที่ ในการเยียวยาในครั้งนี้ด้วย ขณะเดียวมีการลำเลียงผู้เสียชีวิต ออกจาก รพ.พลูตาหลวง กม.10 ไปยัง มูลนิธิสว่างโรจนฯสัตหีบ เพื่อทำการแพ็กร่างผู้เสียชีวิต เพื่อส่งไปยัง สถาบันนิติเวชวิทยา สนง.ตำรวจแห่งชาติ
เบื้องต้นขณะนี้ มีการยืนยันรายชื่อผู้เสียชีวิตทั้งหมดแล้ว
ด้าน นายฤทธิชัย อายุ 31 ปี เป็น 1 ในผู้สูญเสียครั้งใหญ่ โดยได้สูญเสียแฟนสาว ซึ่งเป็นแคชเชียร์ประจำผับดังกล่าว คือนางสาวสวิตตา อายุ 39 ปี เล่าว่า ช่วงเวลาประมาณตี 2 หลังจากดูหนังจบ ได้พยายามติดต่อแฟน ทั้งโทรและส่งข้อความทางไลน์ แต่ไม่สัญญาณตอบกลับ จึงรู้สึกเอะใจ
จากนั้นเพื่อนโทรศัพท์มาบอกว่า ผับที่แฟนทำงานไฟไหม้ จึงรีบออกจากบ้านมาดูแฟน ก็พบว่าแฟนเสียชีวิตจากเหตุการณ์ไฟไหม้ในครั้งนี้แล้ว ซึ่งรู้สึกสะเทือนใจเป็นอย่างมาก ซึ่งผับดังกล่าวควรมีมาตรการป้องกันที่ดีกว่านี้ คิดว่ายังไม่มีประสบการณ์ เพราะเป็นผับเปิดใหม่
ต่อมามีคุณยาย อายุ 67 ปี ได้เดินมาดูศพ หลานชายอายุ 17 ปี หนึ่งในผู้เสียชีวิตจากเหตุผับไฟไหม้ เมื่อพอเห็นร่างศพหลานถึงกับร่ำไห้เป็นลมล้มพับ กอดร่างหลาน พร้อมทั้งต่อว่า จนท.ของผับ ทำไมถึงปล่อยให้หลานเข้าไปใช้บริการ เพราะหลานอายุเพียง 17 ปี เท่านั้น
ผู้สื่อข่าวได้พูดคุย กับนางหนิง อายุ 50 ปี ซึ่งเป็นชาวบ้านข้างผับที่เกิดเหตุ เล่าว่า ผับนี้เป็นสถานที่เที่ยวประจำของหลานชาย ทุกวันศุกร์-เสาร์ หลายชายจะเที่ยวเป็นประจำ จนกระทั่งก่อนเกิด ขณะที่ตนกำลังหลับนอนได้ยินเสียงระเบิดดังลั่นสนั่น จนตกใจตื่นวิ่งออกจากบ้านมาดู สักพักไม่ถึง 1 นาที ก็มีเสียงระเบิดดังขึ้นอีก 2 ครั้ง และช่วงพริบตาเดียว ก็มีเปลวเพลิงพุ่งออกมาจากบนหลังคา และ กลายเป็นทะเลเพลิงอย่างรวดเร็ว ผู้คนหนีตายกันอลหม่าน จนเกิดมีคนตายและบาดเจ็บดังกล่าว
ด้านที่เกิดเหตุ มีประชาชนที่ทราบข่าว เดินทางมาดูที่เกิดเหตอย่างไม่ขาดสาย และมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆนาๆ โดยเฉพาะเรื่องเปิดผับ แต่ไม่ยอมทำบุญให้กับเจ้าที่เจ้าทาง จนเกิดเภทภัยดังกล่าวขึ้น
อัลบั้มภาพ 22 ภาพ