นาทีที่รอคอย "ครูแดน" ร่ำไห้กราบเท้าแม่ ยอมรับไม่ได้โดนว้าแดงลักพาตัว แต่ไปเอง

นาทีที่รอคอย "ครูแดน" ร่ำไห้กราบเท้าแม่ ยอมรับไม่ได้โดนว้าแดงลักพาตัว แต่ไปเอง

นาทีที่รอคอย "ครูแดน" ร่ำไห้กราบเท้าแม่ ยอมรับไม่ได้โดนว้าแดงลักพาตัว แต่ไปเอง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

นาทีที่รอคอย "ครูแดน" ร่ำไห้กราบเท้าแม่ ยอมรับไม่ได้โดนว้าแดงลักพาตัว แต่ไปเอง ขอบคุณทางการไทย-เมียนมา ช่วยชีวิต

(9 ส.ค.65) ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงราย เจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.เชียงราย ได้ไปรับตั วนายระม้าย โมริพันธ์ หรือ "แดนนี่ "หรือ "ครูแดน" อายุ 40 ปี ชาว อ.ภูพาน จ.สกลนคร ผู้กำกับละครและครูสอนศิลปะการต่อสู้ให้กับดารานักแสดง มาดำเนินการต่อตามกระบวนการ ภายหลังทหารหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารม้าที่ 3 กองกำลังผาเมือง ไปรับตัวมาจากทางการเมียนมา จังหวัดท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา และได้นำตัวมาสอบสวนเกี่ยวกับความมั่นคง ที่หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารม้าที่ 3 กองกำลังผาเมือง ค่ายเม็งรายมหาราช

โดย พ.อ.สุทธิ์เขตต์ ศรีนิลทิน ผบ.ฉก.ม.3 กองกำลังผาเมือง ในฐานะประธานคณะกรรมการชายแดนไทย-เมียนมา ระดับท้องถิ่น (ทีบีซี) กล่าวว่าหลังได้รับการประสานจากทีบีซี ฝ่ายเมียนมาก็ได้มีการไปรับตัวครูแดนกลับในช่วงเช้า และได้นำตัวมาที่หน่วยฯ เพื่อที่ทางหน่วยข่าวกรองจะได้มีการซักถามถึงการเดินทางไปของครูแดน ว่าไปได้อย่างไร และฝั่งนั้นมีอะไรบ้าง เป็นการตรวจสอบข้อมูลด้านความมั่นคง ซึ่งเบื้องต้นทราบว่าตรูแดนสมัครใจเดินทางไปเอง โดยลักลอบข้ามออกทางช่องทางธรรมชาติ ไม่ได้ถูกจับตัวหรือถูกลักพาตัวไป ส่วนรายละเอียดที่ชัดเจนกำลังอยู่ระหว่างการสอบสวน

ซึ่งในส่วนของคดีว่าเกี่ยวข้องกับการค้ายาเสพติดหรือการค้ามนุษย์หรือไม่นั้น เป็นเรื่องของตำรวจและพัฒนาสังคมและความมั่นคงจองมนุษย์ ทหารจะดูด้านที่เกี่ยวกับความมั่นคงเท่านั้น โดยก่อนที่จะเข้ามากองบังคับการตำรวจภูธรเชียงราย มีรายงานว่าเจ้าหน้าที่ได้พาตัวครูแดน เดินทางไปยังที่ว่าการอำเภอเมืองเชียงรายเพื่อทำบัตรประจำตัวประชาชนใหม่ เนื่องจากเอกสารเดิมสูญหายทั้งหมด

จากนั้นเมื่อมาถึงเจ้าหน้าที่ได้พาตัวนายระม้ายหรือครูแดน เข้าไปพบกับ นางคำ โมริพันธ์ ผู้เป็นมารดาซึ่งได้มารออยู่ที่ห้องรับรอง ซึ่งถือเป็นการพบกันครั้งแรกในรอบปีนับตั้งแต่ครูแดนหายตัวไป โดยทันทีที่ครูแดนพบนางคำได้ก้มลงกราบแทบเท้าและโผเข้ากอดผู้เป็นแม่ด้วยความดีใจ ซึ่งต่างคนต่างร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจทีมีโอกาสได้พบกันอีกครั้ง จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้นำตัวครูแดนไปสอบสวนปากคำเพิ่มเติมตามขั้นตอนของกฎหมาย

นายระม้าย กล่าวว่า ต้องขอขอบคุณผู้ใหญ่ทั้งในประเทศไทยและประเทศเมียนมา ทุกๆ คน ที่ทำให้ตนมีชีวิตกลับมาประเทศอีกครั้ง รวมไปถึงทางกองกำลังว้าและทางการเมียนมาที่ได้ให้การคุ้มครองและดูแลตนเป็นอย่างดี ตนต้องกราบพระคุณเป็นอย่างสูง อย่างไรก็ตามเมื่อถามถึงเรื่องความเป็นอยู่ระหว่างถูกกักตัว ทางเจ้าหน้าที่ยังไม่อนุญาตให้เปิดเผยข้อมูลเพราะยังอยู่ระหว่างการดำเนินการของเจ้าหน้าที่อยู่

ด้านนางคำ กล่าวว่ารู้สึกดีใจที่บุตรชายมีชีวิตกลับมาได้ เหมือนตายแล้วเกิดใหม่ เพราะเขาต้องลำบากมานานถึงค่อนปีแล้ว ซึ่งตนต้องขอขอบคุณทาง ผบ.ตร. ทางท่านบิ๊กโจ๊ก และเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่ตนได้มีการร้องขอความช่วยเหลือ หากไม่ได้พวกท่านตนก็ไม่รู้จะทำอย่างไร เพราะเป็นเพียงคนรากหญ้า แต่ท่านก็ได้ช่วยเต็มที่ รวมถึงทุกหน่วยงานและสื่อมวลชนด้วย หลังจากเสร็จกระบวนการต่างๆ แล้ว ตนพร้อมบุตรชายก็จะเดินสายไปขอบคุณผู้ใหญ่การช่วยเหลือโดยเริ่มจากท่าน ผบ.ตร. ท่านบิ๊กโจ๊ก และหน่วยงานต่างๆ ที่จะสามารถเดินทางไปได้ รวมไปถึงสิ่งศักดิ์ที่ได้ไปกราบไหว้บนบานหลายที่โดยเฉพาะหลวงปู่โชค ที่ทำนายว่าบุตรชายยังมีชีวิตอยู่

ส่วนอนาคตของครูแดนนั้น ก็ต้องถามทางครูแดนก่อนเพราะแม่ไม่สามารถไปกำหนดได้ แต่ตอนนี้กับตอนนั้นไม่เหมือนกัน ตอนนี้เหมือนตายแล้วเกิดใหม่ สิ่งดีๆ ก็ให้คิดทำ เพราะเราเปลี่ยนชีวิตใหม่ประสบการณ์สอนให้เรารู้ว่ามันเป็นยังไง ตอนนี้ได้กลับมาก็อยากให้มีชีวิตคิดดีทำดี ซึ่งที่ผ่านมาก็ทำดีอยู่แล้ว อนาคตนั้นไม่รู้แต่ก็อยากให้ทำดีต่อไป

อย่างไรก็ตามขณะนี้ครูแดนยังอยู่ระหว่างการควบคุมเพื่อสอบปากคำเพิ่มเติม จากทั้งจากทางตำรวจและพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.เชียงราย ทั้งประเด็นการเดินทางข้ามไปเขตอิทธิพลว้า เส้นทางและเหตุผลที่เดินทางไป เพื่อวิเคราะห์ว่าเกี่ยวข้อกับกฎหมายด้านไหนบ้าง โดยหากสอบสวนแล้วเสร็จหากไม่พบติดขัดกฎหมายด้านใดก็คงจะอนุญาตให้ครูแดนกลับไปหาครอบครัวได้ แต่มีรายงานว่าอาจจะมีการนำตัวครูแดนเดินทางไปพบกับงบิ๊กโจ๊กเพื่อให้ข้อมูลเพิ่มเติม และอาจมีการแถลงข่าวความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ทั้งหมดนี้อีกครั้งหนึ่งที่กรุงเทพหานคร 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook