รวบคาวัด! อดีตสาวแบงก์โกนหัวบวชชี หนีคดีฉ้อโกงเงินฝากลูกค้า 3 ล้านบาท

ไม่รอด! อดีตสาวแบงก์โกนหัวบวชชี หนีคดีฉ้อโกงเงินฝากลูกค้าธนาคาร 3 ล้านบาท ตำรวจตามรวบคาวัดในจังหวัดสกลนคร

ตำรวจกองกำกับการ 5 กองบังคับการปราบปราม การกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ หรือ ปอศ. จับกุม น.ส.ฐิติกัญญ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 42 ปี ชาว จ.ระยอง ผู้ต้องหาตามหมายศาลจังหวัดระยอง ในปี 2558 จำนวน 3 หมายจับ ในความผิดฐาน ลักทรัพย์นายจ้าง, ปลอมและใช้เอกสารสิทธิปลอม และ ฉ้อโกงทรัพย์ของผู้อื่น

ซึ่งทั้ง 3 หมายจับผู้ต้องหาได้กระทำความผิดต่างกรรมต่างวาระ ครั้งแรกเดือน ก.พ. ต่อมาเดือน มิ.ย. และครั้งที่ 3 เดือน ธ ค. ก่อนจะมาถูกจับกุมได้ที่วัดป่าแห่งหนึ่งใน ต.ดงมะไฟ อ.เมืองสกลนคร จ.สกลนคร

สืบเนื่องจากช่วงปี 2557 ผู้ต้องหาในขณะนั้นทำงานเป็นพนักงานของธนาคารแห่งหนึ่ง ตำแหน่งงานบริการลูกค้าและดูแลลูกค้าเงินฝาก ซึ่งลูกค้าของธนาคารบางคนนำเงินมาฝากเข้าบัญชีธนาคารหลายครั้ง บางครั้งผู้ต้องหานี้ก็ไปบริการลูกค้าถึงบ้านทำให้ผู้ต้องหานี้มีความคุ้นเคยกับลูกค้าจนไว้เนื้อเชื่อใจ

ซึ่งมีลูกค้าหลายรายได้ฝากเงินพร้อมสมุดบัญชีธนาคารไปกับผู้ต้องหา เพื่อให้นำเงินเข้าบัญชีของลูกค้าธนาคาร โดยไม่ได้ไปทำธุรกรรมที่ธนาคารด้วยตัวเอง แต่ลงชื่อในใบฝากถอนให้ไป

บางครั้งผู้ต้องหาก็ฝากเงินเข้าบัญชีธนาคารของลูกค้าไม่ตรงตามจำนวนที่ลูกค้าฝากเงินมา แต่กลับเอาเงินไปใช้เอง โดยปลอมรายการในสมุดบัญชีธนาคารของลูกค้าว่ายอดเงินฝากครบตามจำนวนแล้วมอบสมุดบัญชีธนาคารให้ลูกค้าไป บางครั้งปลอมลายมือชื่อของลูกค้าถอนเงินจากบัญชีธนาคารของลูกค้า

ต่อมาเมื่อลูกค้าไปติดต่อธนาคารเพื่อทำธุรกรรม จึงทราบว่าเงินในบัญชีธนาคารหายไป ทางธนาคารจึงได้มีการตรวจสอบพบความผิดปกติดังกล่าว จึงได้เรียกผู้ต้องหามาสอบถามถึงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น

แต่ผู้ต้องหาเกิดไหวตัวทันได้หลบหนีไปเสียก่อน ทางธนาคารจึงแจ้งความร้องทุกข์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ปอศ. ให้ดำเนินคดีตามกฎหมาย ซึ่งมูลค่าความเสียหายที่ธนาคารได้รับ จำนวน 3 ล้านบาท

ต่อมา ปอศ. สืบสวนทราบว่าผู้ต้องหา ได้หลบหนีไปกบดานในพื้นที่จังหวัดสกลนคร โดยบวชเป็นแม่ชี นุ่งขาวห่มขาว ปิดบังอำพรางตัวเอง พ.ต.อ.ภาดล จันทร์ดอน ผกก.5 จึง เข้าทำการจับกุม น.ส.ฐิติกัญญ์ ในขณะนุ่งขาวห่มข่าวอยู่ภายในบริเวณวัด

เบื้องต้น ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา จึงได้นำตัวผู้ต้องหารายนี้ ส่งพนักงานสอบสวน กก.5 บก.ปอศ. เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป