โพล ชี้จุดอ่อน "ลุงตู่" ขี้โมโห คุมอารมณ์ไม่ได้ "อุ๊งอิ๊งค์" ขาดประสบการณ์การเมือง

โพล ชี้จุดอ่อน "ลุงตู่" ขี้โมโห คุมอารมณ์ไม่ได้ "อุ๊งอิ๊งค์" ขาดประสบการณ์การเมือง

โพล ชี้จุดอ่อน "ลุงตู่" ขี้โมโห คุมอารมณ์ไม่ได้  "อุ๊งอิ๊งค์" ขาดประสบการณ์การเมือง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

SUPERโพล ชี้จุดอ่อน”ลุงตู่” ขี้โมโห ขณะที่ “อุ๊งอิ๊ง” ยังอ่อนหัด ส่วนคะแนนนิยมพรรคการเมือง ภท.พุ่งยี้พปชร.

สำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL) เปิดเผยผลสำรวจความเห็นประชาชน จำนวน 2,025 ตัวอย่าง เรื่อง จุดแข็ง จุดอ่อน คนจะเป็นนายกรัฐมนตรี โดยทำการสำรวจระหว่างวันที่ 9 – 13 สิงหาคม พ.ศ. 2565 ที่ผ่านมาเกี่ยวกับ 3 อันดับ จุดแข็ง – จุดอ่อน คนจะเป็นนายกรัฐมนตรีในการเลือกตั้งครั้งต่อไป พบว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีจุดแข็ง จงรักภักดี ร้อยละ 45.1% อดทนแบกภาระวิกฤตประเทศ ร้อยละ 34.8 มีผลงานเปิดประเทศ ฟื้นสัมพันธ์ไทยซาอุดิอาระเบีย ร้อยละ 34.0

ในขณะที่จุดอ่อน ไม่คุมอารมณ์ โมโหง่าย ร้อยละ 55.0 อยู่นานมา 8 ปี ร้อยละ 51.5%) และไม่เก่งเรื่องแก้ปัญหาปากท้อง ร้อยละ 48.4

เมื่อเทียบกับ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร แกนนำพรรคเพื่อไทย มีจุดแข็ง คือ จงรักภักดี ร้อยละ 20.1 คนรุ่นใหม่ ร้อยละ 43.7 บุตรสาวอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร ร้อยละ 46.3 ขณะที่จุดอ่อน ขาดประสบการณ์การเมือง ร้อยละ 42.8 ยังไม่มีผลงาน ร้อยละ 40.0 และน่าห่วงเรื่องการตัดสินใจในภาวะกดดันทางการเมือง ร้อยละ 32.0

ส่วนพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรค พลังประชารัฐ มีจุดแข็ง จงรักภักดี ร้อยละ 29.3 มีเครือข่ายกว้างขวางทุกวงการจัดการอิทธิพลได้ ร้อยละ 39.2 มีผลงานแก้ค้ามนุษย์ แจกที่ทำกิน จัดการน้ำ แก้ภัยแล้ง ร้อยละ 30.9 ขณะที่จุดอ่อน อายุมาก ร้อยละ 62.7 ไม่มีเวลาลงพื้นที่ ร้อยละ 36.0 และการสื่อสารประชาสัมพันธ์ ร้อยละ 34.9

ขณะที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล มีจุดแข็ง จงรักภักดี เพียงร้อยละ 16.1 คนรุ่นใหม่ ร้อยละ 41.4 พูดจาเก่ง ร้อยละ 36.1 ส่วนจุดอ่อน คือ ยังไม่มีผลงาน ร้อยละ 35.9 ขาดบารมีทางการเมือง ร้อยละ 36.4 และยังมีช่องว่างเข้าไม่ถึงชาวบ้าน ร้อยละ 35.8

ด้านนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขและหัวหน้าพรรค ภูมิใจไทย มีจุดแข็ง จงรักภักดี ร้อยละ 41.3 แก้วิกฤตโควิดต่างชาติยกย่อง ดูแลผู้ป่วยดีขึ้น ร้อยละ 45.9 และมีความสามารถทำธุรกิจสำเร็จมั่นคง ร้อยละ 40.7 ในขณะที่จุดอ่อน คือ ยังขาดคนช่วยงานที่เข้าถึงพื้นที่ ร้อยละ 49.8 ไม่โปรโมตตัวเอง ร้อยละ 37.2 และพูดไม่เก่ง ร้อยละ 30.8

เมื่อถามถึงจุดแข็งของนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พบว่า จงรักภักดี ร้อยละ 34.7 มีประสบการณ์การเมือง ร้อยละ 43.9 และนายชวน หลีกภัย สนับสนุน ร้อยละ 41.4 ในขณะที่จุดอ่อน แก้ขัดแย้งในพรรคไม่ได้ คนเก่งลาออก ร้อยละ 56.8 ไม่โดดเด่น ร้อยละ 35.4 และไม่เห็นผลงาน ร้อยละ 30.9

อย่างไรก็ตาม ที่น่าพิจารณา คือ เมื่อเปรียบเทียบผลสำรวจครั้งที่ 1 กับ ครั้งที่ 2 เรื่องพรรคการเมืองที่ประชาชนตั้งใจจะเลือกถ้าวันนี้เป็นวันเลือกตั้ง พบการเปลี่ยนแปลง 5 อันดับแรกของพรรคการเมืองในใจประชาชน คือ อันดับ 1 พรรคเพื่อไทย ครั้งแรกได้ร้อยละ 26.9 แต่ครั้งที่สองลดลงเล็กน้อยมาอยู่ที่ร้อยละ 25.1

อันดับ 2 พรรคภูมิใจไทย เพิ่มขึ้นจากร้อยละ14.2 ในครั้งแรก มาอยู่ที่ร้อยละ 20.0 ในครั้งที่สอง อันดับ 3 ได้แก่ พรรคพลังประชารัฐ ได้ร้อยละ 22.3 ในครั้งแรก แต่ตกลงมาอยู่ที่ร้อยละ 15.0 ในครั้งที่สอง อันดับ 4 พรรคประชาธิปัตย์ ได้ร้อยละ 6.8 ในครั้งแรกมาอยู่ที่ร้อยละ 10.8 ในครั้งที่สอง และอันดับ 5 พรรคก้าวไกล ได้ร้อยละ 6.9 ในครั้งแรก และเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 8.8 ในครั้งที่สอง

 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook