สาวสุดงง เอารถเข้าศูนย์ไปเคลมสี สุดท้ายพังยับทั้งคัน ทั้งที่เพิ่งผ่อนได้ 16 งวด
สาวร้องสื่อ เอารถเข้าศูนย์ไปเช็กสภาพ พนง.ถอยชนรถอีกคัน ส่งเคลมสีใหม่ สุดท้ายรถถูกชนพังยับทั้งคัน ทั้งที่เพิ่งจะส่งงวดรถไปเพียง 16 งวด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (15 ส.ค.) ได้รับเรื่องร้องเรียนจากทาง นางสาวพร้อมสิริ อายุ 31 ปี พนักงานบริษัทแห่งหนึ่ง ว่าไม่ได้รับความยุติธรรมจากทางศูนย์บริการรถยนต์แห่งหนึ่ง
โดย น.ส.พร้อมสิริ ได้เล่าเหตุการณ์ให้กับผู้สื่อข่าวฟังว่า เมื่อวันที่ 2 มิ.ย.65 ที่ผ่านมา ได้นำรถของตัวเองไปเข้าศูนย์บริการเพื่อเช็กสภาพรถเพราะตนต้องเดินทางไกล พอตนไปถึงที่ศูนย์บริการก็นำกุญแจรถยนต์ไปให้กับพนักงานที่รับรถ
โดยในระหว่างที่พนักงานรับรถขับรถของตนไปนั้นก็ได้ถอยรถของตนไปชนกับอีกคันหนึ่งที่จอดอยู่ภายในศูนย์ จนทำให้เกิดรอยขึ้นบริเวณกันชนหลังแต่ไม่ได้เป็นรอยที่ใหญ่ โดยตนได้มีการตกลงกับทางศูนย์ฯ แล้วว่าทางศูนย์ฯ จะรับผิดชอบด้วยการทำสีใหม่ให้
แต่เนื่องจากตนต้องการที่ใช้รถเดินทางไปต่างจังหวัด จึงยังไม่ได้แจ้งเคลมเอาไว้ และได้มีการนัดหมายกันภายหลัง โดยในวันที่ 29 ก.ค. 65 ตนจึงได้นำรถเข้าไปที่ศูนย์บริการเพื่อที่จะทำสีบริเวณที่เสียหายตามที่ตกลงกันไว้กับทางศูนย์ฯ ซึ่งหลังจากส่งมอบรถแล้วก็ได้มีการนัดหมายว่าจะสามารถรับรถคืนได้ภายในวันที่ 1 ส.ค. 65
ต่อมาในวันที่ 30 ก.ค. 65 ทางศูนย์บริการได้โทรศัพท์เข้ามาแจ้งกับตนว่า รถของตนนั้นเกิดอุบัติเหตุถูกชนท้ายระหว่างที่จะนำรถไปเข้าอู่อีกที่หนึ่ง ซึ่งตนเห็นสภาพรถของตัวเองแล้วรับไม่ได้เพราะว่าสภาพรถของตนนั้นพังยับเยินทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ทางตนจึงได้มีการนัดเจรจากับทางศูนย์ฯ ในวันที่ 1 ส.ค.65 โดยมีตัวของผู้จัดการใหญ่และผู้จัดการทั่วไป
ในระหว่างเจรจาตนได้มีการยื่นข้อเสนอขอเปลี่ยนรถคันใหม่ โดยให้เหตุผลไปว่ารถของตนนั้นยังใหม่อยู่ เพิ่งจะส่งงวดรถไปเพียง 16 งวด เป็นระยะเวลาปีกว่าเอง และความเสียหายที่เกิดขึ้นนั้นตนยอมรับไม่ได้ เพราะรถเสียหายหนักมาก ซึ่งข้อเสนอนี้ก็โดนปฏิเสธจากทางศูนย์ในทันที
ตนจึงได้มีการยืนข้อเสนอข้อที่ 2 ไปว่า ให้ทางศูนย์บริการไปจัดการกับรถคันนี้อย่างไรก็ได้ ตนขอเพียงทางศูนย์ฯ คืนเงินดาวน์กับค่างวดรถที่ตนส่งไปทั้งหมดกลับคืน เพื่อที่ตนจะได้ซื้อรถคันใหม่ ซึ่งถ้าทางศูนย์มีความต้องการจะให้ตนซื้อรถที่ศูนย์บริการเดิมตนก็ยินดี ซึ่งทางศูนย์ก็ยินดีรับข้อเสนอนี้ไปประชุมกับคณะกรรมการ โดยได้มีการนัดหมายในการแจ้งผลการประชุมในวันที่ 9 ส.ค.65
ซึ่งในการเจรจาในครั้งนี้ทางศูนย์บริการปฏิเสธข้อเสนอข้อที่ 2 ของทางตนไป และยื่นข้อเสนอใหม่กลับมาว่าทางศูนย์บริการยินดีที่จะซ่อมรถให้กลับมาเหมือนเดิม พร้อมกับมอบเงินอีกจำนวน 30,000 บาท และเพิ่มระยะเวลาของประกันรถออกไปอีก 2 ปี ซึ่งตนก็ยังยอมรับไม่ได้
จึงได้มีการยืนข้อเสนอที่ 3 ว่า หากยืนยันที่จะให้ตนซ่อมรถคันนี้ตนก็ยินดีที่จะซ่อม แต่ขอค่าเสื่อมของรถที่เกิดจาการชนหนักรวมถึงค่าอื่นๆ เช่น ค่าเสียเวลา เสียโอกาส รวมเป็นเงิน 500,000 บาท ซึ่งตนก็ตั้งเอาไว้เผื่อทางศูนย์บริการจะต่อรอง เพราะตนเชื่อว่าคงไม่มีใครให้ราคาตามที่ตนร้องขอไป ซึ่งทางศูนย์บริการก็รับข้อเสนอนี้ไปเสนอกับคณะกรรมการ
โดยในวันที่ 11 ส.ค. 65 ทางศูนย์บริการได้โทรศัพท์มาบอกตนว่าข้อเสนอที่เสนอไปไม่สามารถปฏิบัติตามได้ พอได้ยินดังนั้นตนก็เลยเข้าไปแจ้งความกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อลงบันทึกประจำวันเอาไว้
สำหรับสาเหตุที่ทำให้ตนต้องออกมาเรียกร้องผ่านสื่อมวลชนในครั้งนี้ คือ ตนคิดว่าตนไม่ได้รับความยุติธรรมเพราะข้อเสนอที่เคยเสนอไปโดนปฏิเสธทั้งหมด ส่วนข้อเสนอของทางศูนย์บริการเองที่เสนอมาตนก็ยอมรับไม่ได้ จนให้ไม่สามารถเจรจากับทางศูนย์บริการแห่งนี้ได้อีกต่อไป
ซึ่งหลังจากที่ร้องเรียนกับทางสื่อมวลชนแล้วตนก็จะทำหนังสือส่งไปยังบริษัทต้นสังกัดซึ่งเป็นสาขาใหญ่ ถ้ายังไม่ได้คำตอบกลับมาตนก็คงจะไปที่ สคบ.หรือศูนย์ดำรงธรรมแต่ถ้ายังไม่ดีขึ้นคงต้องส่งเรื่องฟ้องศาลเท่านั้น
อัลบั้มภาพ 17 ภาพ