หนุ่มป่วยจิตเวช แม่กำลังจะพาไปรักษา แต่ไม่ทัน แทงแฟนสาวเสียชีวิตคาห้องนอน

เมื่อเวลา 03.00 น. วันที่ 17 ส.ค.65 ร.ต.ท.คมกริช กาญจนชาติ รอง สารวัตร(สอบสวน) สน.ประเวศ รับแจ้งเหตุมีหญิงถูกมีดแทงเสียชีวิต ภายในบ้านพัก ซอยอ่อนนุช 59 แขวงประเวศ เขตประเวศ กทม.จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่สายตรวจและฝ่ายสืบสวน สน.ประเวศ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน(พฐ.) แพทย์นิติเวช รพ.ตร. และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู

ที่เกิดเหตุเป็นบ้าน 2 ชั้น บริเวณชุมชนริมคลองประเวศฝั่งเหนือ ภายในห้องนอนชั้น 2 ของบ้านหลังดังกล่าว พบศพหญิงสาว อายุ 27 ปี สภาพสวมเสื้อยืดแขนสั้น นุ่งกางเกงขาสั้น นอนหงายอยู่บนเตียง โดยมีผ้าห่มคลุมทับและมีคราบเลือดติดอยู่เป็นจำนวนมาก ตามร่างกายมีบาดแผลถูกทำร้ายในลักษณะถูกของมีคมแทงที่บริเวณลำคอ และในที่เกิดเหตุพบด้ามมีดปลายแหลมตกอยู่ 1 ด้าม จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน

ส่วนผู้ก่อเหตุคือ แฟนหนุ่ม อายุ 30 ปียืนอยู่ในอาการคลุ้มคลั่ง สภาพไม่สวมเสื้อ นุ่งกางเกงขาสั้นสีดำ พูดจาวกไปวนมา จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจและญาติๆจึงช่วยกันพูดเกลี้ยกล่อมก่อนจะควบคุมตัวไว้ได้

จากการสอบถามแม่ของผู้ก่อเหตุให้การว่า ลูกชายและผู้ตายเป็นแฟนกันโดยคบหากันมานานหลายปี ซึ่งฝ่ายหญิงมีอาชีพเปิดร้านเสริมสวย อยู่ที่ซอยพัฒนาการ 67 ส่วนลูกชายผู้ก่อเหตุได้มาพักอยู่ที่บ้านหลังนี้ประมาณ 3 วันเนื่องจากแม่ได้โทรศัพท์ตามให้มาเยี่ยมคุณตาที่ล้มป่วย ก่อนเกิดเหตุไม่มีใครได้ยินเสียงทะเลาะวิวาทแต่อย่างใด จนผู้ก่อเหตุเดินลงมาจากห้องนอนชั้น 2 และพูดบอกแม่ว่าได้ทำร้ายแฟนสาวบนที่นอน ก่อนจะเดินกลับขึ้นไปบนห้องนอน และอยู่ในอาการหลอนหวาดระแวง จนเจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึงและควบคุมตัวไว้ได้ ก่อนนำไปควบคุมตัวไว้ที่ สน.ประเวศ

แม่ผู้ก่อเหตุให้การอีกว่า ลูกชายมีอาการทางจิตหลอน หูแว่ว และมักได้ยินเสียงคนพูดสั่งให้ทำอะไรบางอย่างอยู่เสมอ เป็นมาตั้งแต่ปี 2562 ตนพาไปรับการรักษาอาการป่วยที่โรงพยาบาล จนล่าสุดแม่ได้ให้ลูกชายมาเยี่ยมคุณตาที่ล้มป่วยหนัก ซึ่งแม่ก็สังเกตเห็นอาการป่วยทางจิตของลูกชายที่เพิ่มขึ้น ซึ่งบางครั้งจำคนในครอบครัวไม่ได้ ก่อนเกิดเหตุลูกชายและผู้ตายได้ร่วมกันนั่งกินเนื้อกระทะกับครอบครัว และแยกย้ายกันไปนอน ในช่วงค่ำเวลา 23.00 น.วันที่ 16 ส.ค.ที่ผ่านมา เนื่องจากช่วงเวลาเช้าแม่จะพาตัวลูกชายผู้ก่อเหตุไปหาแพทย์ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง จ.ปทุมธานี เพื่อรักษาอาการป่วยทางจิต แต่ก็มาเกิดเหตุสลดขึ้นก่อน

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างรอสอบปากคำผู้ก่อเหตุอีกครั้ง เนื่องจากยังมีอาการพูดจาวกไปวนมาก่อนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป