สวมบทเป็นเจ้าหนูจำไมแล้วไปตะลุย 5 โซนไฮไลท์ในงาน "NST fair Science Carnival Bangkok 2565"
เดือนสิงหาคมของปีนี้ กรุงเทพฯ จะถูกเนรมิตให้กลายเป็นห้องเรียนวิทยาศาสตร์ขนาดใหญ่เพื่อขยายพื้นที่การเรียนรู้แบบไร้ขีดจำกัดโดยไม่จำกัดรูปแบบ ให้สมกับเป็นเดือนแห่งวิทยาศาสตร์
หนึ่งในนั้นกิจกรรมมหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ประจำปี 2565 งาน ‘NST fair Science Carnival Bangkok 2565’ ภายใต้แนวคิด “วิทย์ปลุกชีวิต” มาพร้อมคอนเซปต์ “ศิลปะ วิทยาศาสตร์ และนวัตกรรม เพื่อสังคมที่ยั่งยืน (Art-Science-Innovation for Sustainable Society)” จัดโดยกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ดำเนินการโดย องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (อพวช.) ซึ่งเป็นนโยบายของภาครัฐและกรุงเทพมหานครภายใต้กิจกรรม ‘บางกอกวิทยา’ เมื่อปลุกจิตวิญญาณนักวิทย์ในตัวเราทุกคนให้ออกมาร่วมสำรวจทุกความเป็นไปได้ด้วยการนำวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมไปใช้เป็นแนวทางในการดำเนินชีวิตและพัฒนาอาชีพ สู่การเป็นนักเทคโนโลยีและนวัตกรรมรุ่นใหม่ของประเทศในอนาคต
บนพื้นที่กว่า 1,600 ตารางเมตร ที่ศูนย์การค้าสามย่านมิตรทาวน์ บริเวณชั้น G และชั้น 5 ทั้งในพื้นที่ในอาคาร (indoor) และพื้นที่กลางแจ้ง (Outdoor) มีกิจกรรมสนุกๆ พร้อมปลุกต่อมขี้สงสัย ใครที่ชอบความท้าทาย บอกเลยงานนี้ห้ามพลาด แต่ละโซนมีอะไรรอเราอยู่บ้าง ไปไขรหัสลับพร้อมกันเลย
1.บุกเขาวงกตปลุกประสาทสัมผัสทั้ง 5 ผ่านนิทรรศการ SCIENCE ALIVE “วิทย์ปลุกชีวิต” ที่จัดในรูปแบบ Interactive Art & Science อารมณ์เหมือนกำลังเข้าไปในเขาวงกตที่จะพาเราไปพบกับคำตอบเพื่อเติมพลังให้กลับมามีชีวิตชีวาได้อีกครั้ง
จุดแรกที่เจอคือ ALIVE Sound นิทรรศการที่ให้เราลองสัมผัสและจับอารมณ์ตัวเองดูว่าจริงอย่างที่นักวิจัยค้นพบหรือไม่ว่ามี 13 เสียงบนโลกนี้ที่ส่งผลกับอารมณ์ของคน โดยแต่ละเสียงยังมีลูกเล่นเป็นเส้น LED จะสัมพันธ์ไปกับเสียงที่เกิดขึ้น เช่น เพลงตื่นเต้นๆ LED จะเปลี่ยนเป็นสีแดง
ห้องต่อไปใครจมูกไวต้องมาพิสูจน์ ALIVE Scent กลิ่นทะเลและกลิ่นป่าเป็นกลิ่นที่นักวิทยาศาสตร์พิสูจน์แล้วว่าสามารถปลุกประสาทการรับรู้กลิ่นให้ตื่นเต้นได้อีกครั้ง ถัดไปลองท้าทายสัมผัสการมองเห็นที่ห้อง ALIVE Sight ผ่านภาพ Visual ที่ได้ศิลปิน NFT มาออกแบบ ใครจะสังเกตเห็นอะไรไม่รู้ รู้แต่ว่านี่เป็นห้องที่มองไปทางไหนก็อยากโพสท่าถ่ายรูปเอาไปทำคอนเทนต์ไปซะหมด
ต่อกันที่ ALIVE Touch กิมมิกคือบอลลูนไลท์ติ้งสวยๆ ตลอดทางให้เดินหลบหลีก แต่นี่ไม่ใช่พร๊อพแต่งห้องธรรมดา ถ้าเดินชนบอลลูนลูกไหนไลท์ติ้งภายในห้องนั้นก็จะเปลี่ยนไป เล่นไปเล่นมาก็สนุกดีเหมือนกัน สุดท้ายคือ ALIVE Taste บทสรุปของทุกประสาทสัมผัสถูกรวมไว้ที่ ALIVE Candy Bar ต้องเลือกแล้วว่าประสาทสัมผัส ทั้ง 4 ห้องที่ผ่านมาประสาทสัมผัสไหนทำให้เรารู้สึกดีมากที่สุดก็ได้คูปองเอาไปแลกสายไหมเพื่อความมีชีวิตชีวาให้กับชีวิตด้วยรสชาติความหวานนั่นเอง
2.สำรวจ ‘Innovation for Life’ นวัตกรรมปลุกชีวิตสำหรับใครที่นึกไม่ออกว่าวิทยาศาสตร์อยู่รอบตัวเราขนาดไหนและนวัตกรรมแห่งอนาคตหน้าตาเป็นอย่างไร ห้ามเดินผ่านโซนนี้เด็ดขาด หลักๆ โซนนี้จะแบ่งเป็นโซนย่อยๆ อีก 4 โซน ได้แก่ Home, Lifestyle, Trend และ Future แต่ละโซนก็จะมีนวัตกรรมที่เกี่ยวข้องมาจัดแสดง
อาทิ ตรวจสุขภาพจิตด้วยโปรแกรม และ VR จาก Me Hug และ Agnos ระบบ AI วิเคราะห์โรคด้วยตัวเอง ผลงานจาก Youth startup Fund (YSF) อย่าลืมทักทายเจ้า The Walkie! หุ่นยนต์พนักงานต้อนรับ ผลงานของชมรมนักประดิษฐ์วิศวกรรม (EIC Chula) แต่ที่เห็นมุงเยอะๆ ก็น่าจะเป็นหุ่นยนต์ฝึกปิงปองอัจฉริยะ Pong Bot จาก True
3.ส่องสตูดิโอนักประดิษฐ์โซน Makers Science & Challenges เป็นโซนที่เหมาะกับคนที่อยากลองว่าตัวเองมีความเป็นนักวิทย์อยู่ในตัวมากน้อยแค่ไหน
เปิดพื้นที่ให้ลองสร้างสรรค์ผลงานไปพร้อมกับเหล่า Maker มากความสามารถ ถ้าคิดว่าแน่อย่าแพ้ Maker แล้วเจอกันวันที่ 17-21 สิงหาคม 2565 เวลา 15.00 - 22.00 น แต่ถ้าไม่ใช่สายประดิษฐ์เน้นดูเป็นไอเดีย โซนนี้จะมีผลงานจาก Maker เจ๋งๆ มาโชว์มากมายเดินดูกันได้เพลินๆ
4.ลานกิจกรรม Chill & Shop ที่ Future Food Market ใครที่รู้ตัวว่าต้องการกระตุ้นประสาทสัมผัสด้านรสชาติตลอดเวลา โซนนี้จะปลุกชีวิตชีวาในตัวคุณได้อย่างแน่นอน แต่รับรองว่าไม่มีของกินหน้าตาคุ้นๆ ให้สมกับเป็นงานวิทยาศาสตร์ มองไปทางไหนก็เต็มไปด้วย ‘อาหารทางเลือก’ เพื่ออนาคตที่ยั่งยืน
อาทิ Superfood ผงโปรตีนธรรมชาติจิ้งหรีดขาว การันตีรสชาติความอร่อย จากร้าน Bounce Burger by The Bricket นอกจากนั้นจะมีเทคโนโลยีหุ่นยนต์เตรียมอาหารมาโชว์ให้ดูกันด้วย
5.ทักทาย “มาตี้” มาสคอตไซส์บิ๊กหน้าสามย่านมิดทาวน์ บอกก่อนว่าควรจะแวะทักและถ่ายรูปกับเจ้ามาตี้ มาสคอตที่สร้างขึ้นมาเพื่อเป็นตัวแทนคนใฝ่รู้ตอนกลางคืน เพราะนี่ไม่ใช่มาสคอตยืนเด่นเพื่อเป็นจุดนัดพบเพื่อน แต่จริงๆ แล้วนี่คือ GIANT PROJECTION MAPPING LANDMARK ที่จะทำหน้าที่บอกเล่าเรื่องราวความน่าสนใจของวิทยาศาสตร์ บอกว่าจะมีความสนุกอะไร รอคุณอยู่ในงานบ้าง ผ่านลวดลายกราฟิกและผลงานศิลปะ NFT และทุกวันเสาร์-อาทิตย์ 1 ทุ่มตรง จะมีขบวน Electric Parade หรือพาเหรดมนุษย์ไฟนีออนเดินรอบบริเวณนี้ สวยล้ำอลังการมากๆ
สนใจก็รีบหน่อย เพราะงานจัดแค่ 5 วันเท่านั้น ตั้งแต่วันที่ 17-21 สิงหาคม 2565 ณ ศูนย์การค้าสามย่านมิตรทาวน์ บริเวณชั้น G และชั้น 5 เวลา 10.00-22.00 น. (บริเวณอินดอร์) และ เวลา 15.00 – 22.00 น. (บริเวณเอาท์ดอร์) นั่ง MRT ลงสถานที่สามย่านได้เลย
ติดตามรายละเอียดได้ที่ Facebook : NSTFair Thailand หรือ สอบถามเพิ่มเติมโทร. 02-577-9960
[Advertorial]