บิ๊กโจ๊ก สอบเอง "ส.ต.ท.หญิง" คดีทารุณทหารรับใช้ ร่ำไห้ อ้างควบคุมตนเองไม่ได้
“บิ๊กโจ๊ก” แถลงสื่อ ส.ต.ท.หญิง นายจ้างโหดทำร้ายอดีตทหารรับใช้หญิง สารภาพก่อเหตุจริง อ้างมีอาการป่วย ควบคุมตนเองไม่ได้เป็นระยะ เบื้องต้น ถูกตั้งข้อหาค้ามนุษย์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (20 ส.ค.) เมื่อเวลา 11.00 น. พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล หรือ บิ๊กโจ๊ก ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แถลงภายหลังเข้าสอบปากคำ ส.ต.ท.หญิง กรศศิร์ หรือ นุช นายจ้างทำร้ายร่างกายอย่างทารุณ อดีตทหารรับใช้หญิง ว่าจากการสอบปากคำเบื้องต้น ส.ต.ท.หญิง กรศศิร์ ยอมรับสารภาพว่าได้ทำร้ายร่างกายผู้เสียหายจริง
โดย ส.ต.ท.หญิง กรศศิร์ อ้างว่า ตัวเองมีอาการที่ไม่สามารถจะควบคุมอารมณ์ของตนไม่ได้เป็นระยะๆ และมีใบรับรองแพทย์จากโรงพยาบาลแห่งหนึ่งมาแสดง โดยตนเองได้อ่านผลรายงานของแพทย์ในใบดังกล่าว มีการระบุว่า ได้เข้ารับการรักษาตัวมาแล้วเป็นเวลา 2 ปี แต่ไม่สามารถระบุได้ว่าอาการที่เป็นนั้นคือโรคอะไร
บิ๊กโจ๊ก กล่าวต่อว่า ขณะที่ทางพนักงานสอบสวน และตนเองได้สอบปากคำและพูดคุย ผู้ต้องหามีอาการร่ำไห้รู้สึกเสียใจกับสิ่งที่ทำลงไป และขอโทษที่ได้ก่อเหตุในครั้งนี้ พร้อมทั้งระบุว่า ตอนนี้รอทนายความที่เดินทางมาจากกรุงเทพฯ เมื่อมาถึงจะให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน
ส่วนการพิจารณาให้ประกันตัวในชั้นพนักงานสอบสวนหรือไม่นั้น พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ระบุว่า ตนคาดว่าพนักงานสอบสวนจะให้ประกันตัว เนื่องจากผู้ต้องหาได้เดินทางเข้ามามอบตัวเอง และคดีไม่มีความซับซ้อน
ส่วนความกังวลว่าจะไปข่มขู่ผู้เสียหาย และเข้าไปยุ่งกับพยานหลักฐานอีกหรือไม่ ตนเชื่อว่าผู้ต้องหาจะไม่เข้าไปข่มขู่พยานและผู้เสียหายอีก หากว่ากระทำเช่นนั้นทางตำรวจก็จะถอนการประกันตัวทันที
นอกจากนี้ บิ๊กโจ๊ก ยังระบุว่า ในวันจันทร์ที่ 22 ส.ค. นี้ ส.ต.ท.หญิง ผู้ต้องหาจะต้องไปรายงานตัวกับกองบังคับการตำรวจสันติบาล 1 ที่เป็นต้นสังกัด เพื่อให้ทางต้นสังกัดดำเนินการทางกฏหมายและวินัยตามขั้นตอนต่อไป
เมื่อถามถึงเส้นทางการรับเข้าราชการตำรวจนั้น พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า พบว่าได้เข้ามารับราชการอย่างถูกต้องตามขั้นตอน
ส่วนการทำงานของ ส.ต.ท.หญิง ได้ไปช่วยราชการ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า ปัจจุบันถูกส่งกลับต้นสังกัดแล้ว และทำหน้าที่ประสานงานให้กับสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ท่านหนึ่งตนไม่ขอเอ่ยชื่อ และหน้าที่นี้ก็ไม่ต้องเดินทางไปสำนักงานทุกวัน
ส่วนเรื่องฝากผู้เสียหายเข้ารับราชการทหารนั้น ต้องให้ทางทหารเป็นผู้ตรวจสอบ แต่เชื่อว่ามีเอกสารยืนยันว่าเข้ารับราชการทหารอย่างถูกต้อง
ขณะที่มีรายงานว่าใบรับรองแพทย์ที่ผู้ต้องหานำมายื่นกับพนักงานสอบสวนนั้น ได้ลงวันที่ 19 ส.ค. ก่อนที่จะเข้ามามอบตัวเพียงวันเดียว แพทย์ที่ออกใบรับรองนั้นไม่ใช่ผู้รักษา แต่เป็นผู้ลงความเห็นอาการป่วยจากประวัติการรักษาเท่านั้น โดยได้เพียงแต่ซักถามกับตัวผู้ต้องหา
ทั้งนี้ มีรายงานว่าพนักงานสอบสวนอีก 1 ชุด อยู่ในระหว่างเตรียมยื่นขอศาล จ.ราชบุรี ขออนุมัติหมายค้นบ้านที่เกิดเหตุ เพื่อตรวจสอบอุปกรณ์ที่ใช้ทำร้ายร่างกายและจุดที่ก่อเหตุ เพื่อมาประกอบกับสำนวนคดี
อัลบั้มภาพ 9 ภาพ