รับศพเหยื่อเมาน์เทนบี รายที่ 20 เจ็บหนักเพราะปกป้องรุ่นน้อง จนไฟคลอกทั้งแผ่นหลัง

รับศพเหยื่อเมาน์เทนบี รายที่ 20 เจ็บหนักเพราะปกป้องรุ่นน้อง จนไฟคลอกทั้งแผ่นหลัง

รับศพเหยื่อเมาน์เทนบี รายที่ 20 เจ็บหนักเพราะปกป้องรุ่นน้อง จนไฟคลอกทั้งแผ่นหลัง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

จากกรณีโศกนาฏกรรมสะเทือนขวัญ เพลิงไหม้สถานบันเทิงเมาน์เทนบี หมู่ 7 ต.พลูตาหลวง อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ขณะนี้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 20 ราย โดยเสียชีวิตที่เกิดเหตุ 13 ราย เสียชีวิตภายหลังที่โรงพยาบาลจำนวน 7 ราย และมีผู้บาดเจ็บ ที่กำลังรักษาในโรงพยาบาลตอนนี้ ทั้งหมด 24 ราย ซึ่งมีอาการสาหัสต้องใส่ท่อช่วยหายใจ จำนวน 9 ราย สามารถกลับบ้านได้จำนวน 11 ราย

วันนี้ (20 ส.ค.65) ที่ศาลาตั้งสวดพระอภิธรรมศพ วัดรังษีสุนทร กม.5 อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี นายธนารัฐ บวรสุวรรณ อายุ 52 ปี พี่ชายพร้อมครอบครัวและญาติ พี่น้อง ได้นำร่างของ นายปพน บวรสุวรรณ อายุ 50 ปี ผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ไฟไหม้ผับเมาน์เทนบี ก่อนจะเสียชีวิตในเวลาต่อมา ที่ รพ. ชลบุรี เมื่อเวลา 13.19 น. ของวันที่ 19 ส.ค.65 ซึ่งเป็นผู้เสียชีวิตรายที่ 20 จากเหตุการณ์เพลิงไหม้ในครั้งนี้ เคลื่อนย้ายมาประกอบพิธีทางศาสนา ท่ามกลางความโศกเศร้าของ พ่อแม่ และ ญาติพี่น้อง ของผู้ตาย โดยจะมีการตั้งสวดพระอภิธรรม จำนวน 5 คืน และจะมีการฌาปนกิจศพ ในวันที่ 25 ส.ค.65 นี้

นายธนารัฐ บวรสุวรรณ อายุ 52 ปี พี่ชาย ผู้ตายกล่าวว่า ขอบคุณกำลังใจ หลายๆ ทาง ที่ผมได้ขอรับบริจาคโลหิต ซึ่งมีทั้งเพื่อนๆ ที่อยู่ทางภาคใต้และต่างจังหวัดส่งมาจำนวนมาก ถึงน้องจะไม่ได้รับ แต่ก็สามารถนำช่วยเหลือผู้บาดเจ็บหลายอื่น เพื่อเป็นบุญกุศลต่อไป โดยจะตั้งสวดพระอภิธรรม จำนวน 5 คืน และมีพิธีฌาปนกิจ ในวันพฤหัสบดี ในวันที่ 25 ส.ค. นี้ ในเวลา 16.00 น. โดยปกติน้องชายบ้านเขาจะอยู่ที่อำเภอสัตหีบ และตัวเขาจะทำงานอยู่ต่างจังหวัด พอดีวันนั้นเขากลับมาเพื่อจะพาคุณแม่ ที่อำเภอสัตหีบ ไปส่งบ้านผม ที่ กทม. เขาจะมีหน้าที่รับส่ง โดยวันนั้นเขากลับมาถึงสัตหีบ ประมาณเที่ยงคืนกว่า จังหวะนั้นเพื่อนเขาได้โทรศัพท์มาหา และชักชวนให้ไปหา โดยเอารถจอดอยู่ริมถนน เพื่อเข้าไปหาเพื่อนแป๊บเดียว ทราบว่าได้เช็กบิลเสร็จเรียบร้อยกำลังจะเดินออกมาก็เกิดเหตุ จังหวะที่เขาหนีออกมา มีรุ่นน้องที่ไปด้วยกันอยู่ข้างหน้า จึงได้เอาตัวบังเปลวไฟไว้ และเอาตัวคร่อมทับไว้ จึงทำมีแผลไฟไหม้บริเวณแผ่นหลัง ก่อนที่เขาจะทุบกระจกบริเวณประตูหน้าออกมา และมีเปลวไฟติดตามตัว ก่อนจะลงไปกลิ้งกับพื้นให้ไฟดับ

หลังจากนั้น น้องชายถูกส่งไปยัง รพ.สัตหีบ กม.10 ช่วงแรกน้องชายถูกไฟเผาทำให้มีแผล บริเวณแผ่นหลังและที่ก้นเยอะ แต่ทางโรงพยาบาลแจ้งว่าประมาณ 40% ของร่างกาย ก่อนจะประสานย้ายไปยัง รพ.ชลบุรี เพราะที่นั้น มีแพทย์เฉพาะทางจะรักษาได้ดีกว่า แต่น้องชายเป็นคนอ้วน แต่น้องมีเรื่องของน้ำตาลในร่างกาย โดยแผลไม่ได้ลุกลากไปกว่านี้ แต่ว่ามีปัญหาภายใน ประกอบกับขนาดตัวของเขาที่ใหญ่และอ้วน มีปัญหาค่าไตสูง และเรื่องระบบขับถ่าย และสิ่งที่ทำให้เขาเสียชีวิต คือติดเชื้อในกระแสเลือดอย่างรุนแรง ก่อนหัวใจจะหยุดเต้น โดยทางแพทย์ก็พยายามช่วยเหลืออย่างเต็มที่ ก่อนที่น้องชายจะเสียชีวิตลง

โดยช่วงหลังเกิดเหตุทางเจ้าของผับได้มอบเงินเบื้องต้นมาจำนวน 10,000 บาท ให้เป็นค่าน้ำมันในการไปดูแลผู้ป่วย และครั้งที่ 2 ได้มอบเงินมาเพิ่มเติมอีก จำนวน 20,000 บาท หลังจากที่น้องชายเสียชีวิตทางตัวแทนได้ติดต่อเข้ามาเพื่อจะมอบเงินช่วยเหลือทำศพ 50,000 บาท เหมือนรายอื่นๆ ถ้าถามว่าพอใจไหม คงไม่พอใจแน่นอน เพราะน้องชายคือเสาหลักในการหาเลี้ยงครอบครัว ซึ่งมีลูกชายคนโต อยู่มหาวิทยาลัย ปี 3 ส่วนคนเล็กลูกสาว อยู่ ป.1 เอง ภรรยาก็ไม่ได้ทำงาน เป็นแม่บ้าน ตอนนี้คงรอทำศพให้เสร็จเรียบร้อยก่อน และดูว่าทางเจ้าของร้านจะเยียวยายังไง ก็คงให้ทางกฎหมายดำเนินการไป ก็ต้องดูว่าทางเจ้าของเขามีมนุษยธรรม คุณธรรม มากน้อยขนาดไหน เพราะว่าครอบครัวต้องสูญเสียผู้นำครอบครัว ซึ่งก็ไม่รู้ว่าครอบครัวจะอยู่กันยังไง

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook