ลุ้น 8 ปี นายกฯ ประยุทธ์ “สมชัย” ชี้ ศาล รธน.มี 2 แนวทาง

“สมชัย” ชี้ 8 ปีนายกฯ ศาล รธน.มี 2 ทาง มองนายกฯรักษาการ?ต้องใช้บรรทัดฐานเดียวกับ “ยิ่งลักษณ์ ” เชื่อการเคลื่อนไหวภาคประชาชนมีผลต่อการตัดสินใจ

นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตคณะกรรมการการเลือกตั้ง กล่าวถึงกรณีฝ่ายค้านยื่นเรื่อง ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยวาระการดำรงตำแหน่ง 8 ปี ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีว่า เท่าที่ตนทราบสภาผู้แทนราษฎร จะส่งคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อตีความในวันจันทร์นี้ (22 ส.ค.) ซึ่งต้องรอดูว่าศาลจะรับคำร้องหรือสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ โดยมีความเป็นไปได้ทั้ง 2 อย่าง คือรับและพิจารณา โดยคาดการณ์ว่าจะใช้เวลาพิจารณา 2 สัปดาห์-1 เดือน

อีกแนวทางคือรับและสั่งให้ยุติการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งก็เป็นแนวทางที่แตกต่างกันแล้วแต่ศาลจะวินิจฉัย ซึ่งไม่สามารถคาดเดาได้ แต่คาดว่าจะใช้เวลาไม่นานในการพิจารณา เนื่องจากเป็นเพียงการพิจารณาข้อกฎหมาย ซึ่งศาลแต่ละคนสามารถมีความเห็นได้ทันที หากเป็นความเห็นต่างต้องใช้มติเสียงข้างมาก พร้อมมองว่าหากคำวินิจฉัยเป็นคุณต่อนายกรัฐมนตรีคงไม่เป็นปัญหาอะไร สามารถปฏิบัติหน้าที่ต่อไปได้ แต่หากวินิจฉัยว่าครบ 8 ปีในวันที่ 24 สิงหาคม นายกรัฐมนตรีต้องยุติการปฏิบัติหน้าที่ทันทีที่ศาลมีคำวินิจฉัยออกมา

ทั้งนี้นายสมชัย ยังระบุอีกว่าการรักษาการตำแหน่งนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จะไม่สามารถรักษาการได้ตามที่นายวิษณุ เครืองงาม รองนายกรัฐมนตรีให้สัมภาษณ์เมื่อวานนี้ เนื่องจากเป็นเรื่องเฉพาะบุคคล พร้อมยกกรณีนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยให้ยุติการปฏิบัติหน้าที่ซึ่งควรเป็นบรรทัดฐานเดียวกัน

ส่วนนายกรัฐมนตรีควรพิจารณาพักการปฏิบัติหน้าที่ระหว่างรอคำวินิจฉัยหรือไม่ นายสมชัยมองว่า เป็นสิทธิ์ของนายกรัฐมนตรี แต่คงไปกดดันไม่ได้ว่าควรทำอย่างไร แต่หากเห็นว่าอะไรเป็นประโยชน์ต่อบ้านเมือง ก็ควรใช้สิทธิ์ในลักษณะแบบนั้น และหากคิดว่าเป็นข้อขัดแย้งในสังคม มีกระแสกดดันต่อต้าน การอยู่ในตำแหน่งคงไม่เป็นผลดี เนื่องจากไม่สามารถทำให้บ้านเมืองอยู่ในความสุขสงบได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจว่าจะเป็นแบบใด

ส่วนกรณีกลุ่มการเมืองเริ่มออกเคลื่อนไหวเพื่อกดดันในประเด็นนี้ จะส่งผลต่อการตัดสินใจของนายกรัฐมนตรีหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับการพัฒนาของสถานการณ์ ขึ้นอยู่กับการสนับสนุนของประชาชน และจะพัฒนาสถานการณ์ต่อไปอย่างไร หากคนส่วนใหญ่เห็นชอบและมาร่วมชุมนุมจำนวนมากก็อาจเป็นส่วนหนึ่งของการตัดสินใจของนายกรัฐมนตรีได้ แต่หากเป็นเพียงคนกลุ่มเล็กๆก็จะไม่ก่อให้เกิดผลอะไร ทั้งหมดไม่สามารถคาดการณ์ได้ ขึ้นอยู่กับสถานการณ์