ญาติทหารหญิงน้อยใจ คุ้มกัน ส.ต.ท.หญิง เหมือนวีไอพี แต่ผู้เสียหายให้ดูแลตัวเอง

ญาติทหารหญิงน้อยใจ คุ้มกัน ส.ต.ท.หญิง เหมือนวีไอพี แต่ผู้เสียหายให้ดูแลตัวเอง

ญาติทหารหญิงน้อยใจ คุ้มกัน ส.ต.ท.หญิง เหมือนวีไอพี แต่ผู้เสียหายให้ดูแลตัวเอง
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

ญาติทหารหญิงน้อยใจ เห็นภาพคุ้มกัน ส.ต.ท.หญิง เหมือนวีไอพี แต่ผู้เสียหายไม่เคยดูแลคุ้มกัน ตำรวจแจงเป็นสิทธิ์ของผู้ต้องหาที่ร้องขอได้ 

(20 ส.ค.65) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากเกิดภาพที่มี 2 ตำรวจหญิง ควบคุมดูแล สิบตำรวจโทนุช นายจ้างโหด วิ่งหนีตอบคำถามสื่อมวลชน หลังเดินทางกลับจากการไปตรวจค้นบ้านพัก ภายในซอยเพชรเกษม 15 ม.4 ต.โคกหม้อ อ.เมือง จ.ราชบุรี เพื่อประกอบสำนวนคดี ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่ทาง น้องสาว พร้อมด้วยแม่ และญาติมาพบเห็นพอดี ทำให้ทางญาติได้โวยขึ้นถึงความเป็นเป็นกลางของเจ้าหน้าที่ตำรวจ

โดยช่วงเย็นวันนี้ เวลา 18.30 น. นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ กัน จอมพลัง ได้เดินทาง มา สภ.เมืองราชบุรี หลังได้รับแจ้งจากญาติผู้เสียหายอดีตทหารรับใช้ที่ถูกสิบตำรวจโทหญิงทำร้ายร่างกาย ว่าตำรวจมีการควบคุมตัวแบบวีไอพี ต่างจากผู้ต้องหารายอื่นๆ และพยายามหลบเลี่ยงสื่อมวลชน

โดย กัน จอมพลัง ได้พูดคุยกับหนึ่งในตัวแทนของญาติผู้เสียหาย ก่อนเปิดเผยว่า กรณีที่ผู้ต้องหาอ้างว่าป่วย ตนก็ถือว่าไม่ได้เหนือความคาดหมายอยู่แล้ว เพราะก่อนหน้านี้ผู้เสียหายได้เคยเล่าให้ฟังว่า ผู้ต้องหาเคยพูดไว้ว่า "ตัวเองเป็นคนบ้าทำอะไรไปก็ไม่ผิด" และตนก็คิดไว้อยู่แล้วว่าผู้ต้องหาจะต้องหงายการ์ดใบนี้ เมื่อทางผู้ก่อเหตุให้การอ้างแบบนี้ ตนก็พร้อมจะเปิดข้อมูลและหลักฐานสำคัญบางอย่างในวันพรุ่งนี้ ทั้งที่เป็นหลักฐานที่จะโต้แย้งเรื่องอาการป่วย และหลักฐานที่แฉถึงการเข้ารับราชการตำรวจที่ไม่โปร่งใส

ส่วนการที่ตำรวจมีการควบคุมตัวแบบวีไอพี ทางญาติก็ได้บอกตนว่ารู้สึกน้อยใจ เพราะผู้เสียหายที่ต้องเดินทางกลับดึกดื่นหลังจากสอบปากคำ ไม่มีการคุ้มกันดูแล ต้องเดินทางกลับบ้านด้วยตนเองเพียงลำพัง แตกต่างจากการดูแลผู้ต้องหาในวันนี้ เมื่อถามว่าวันนี้จะยื่นคัดค้านประกันตัวเลยหรือไม่ นายกัน บอกว่าถ้าหากผู้ก่อเหตุได้รับการประกันตัวในชั้นพนักงานสอบสวน ตนก็จะสอบถามพนักงานสอบสวนและผู้บังคับบัญชาถึงเหตุผลที่ให้ประกันตัว รวมถึงการการันตีความปลอดภัยผู้เสียหาย ขณะที่ผู้ต้องหาได้รับการประกันตัว แต่หากได้รับประกันตัวในชั้นศาล ทางทีมทนายก็จะไปทำเรื่องยื่นคัดค้านที่ศาลต่อไป

ด้านญาติผู้เสียหาย ระบุว่า การที่ผู้ต้องหานำใบรับรองแพทย์อ้างว่าป่วยมายืนยันนั้น ตนไม่เชื่อเพราะหากเป็นคนป่วยทำไมถึงรับราชการได้ ส่วนการที่ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพและสำนึกผิดกับสิ่งที่เกิดขึ้น ญาติมองว่า เป็นเพียงการกล่าวอ้างไม่ได้รู้สึกผิดจากใจจริง เพราะถ้าสำนึกผิดคงไม่ใช่เวลานี้ ซึ่งตลอดเวลา 2 ปีที่ผ่านมามีการทำร้ายผู้เสียหายอย่างต่อเนื่อง ถ้าจะสำนึกก็ต้องสำนึกตั้งแต่ตอนนั้น

ส่วนเรื่องการดำเนินคดีตนก็กังวลว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะมาวันนี้ก็ไม่รู้ว่าเขาจะมามอบตัว แต่ก็เชื่อมั่นทีมงานกัน จอมพลังและทนายไพศาล ซึ่งจนถึงขณะนี้ยังไม่ได้รับคำขอโทษจากผู้ก่อเหตุ และในวันนี้พนักงานสอบสวนก็มีการแยกกันสอบสวน เพื่อไม่ให้เผชิญหน้า พร้อมยอมรับว่ามีความกังวลใจหากผู้ก่อเหตุได้รับการประกันตัวในชั้นพนักงานสอบสวน

ทั้งนี้ตั้งแต่เกิดเรื่องนี้ขึ้น มีรายงานว่ามีผู้มีอิทธิพลรายหนึ่ง ประสานขอไม่ให้เปิดเผยเรื่องนี้ตั้งแต่วันแรก วันที่สองก็ประสาน ขอให้เปิดเผยเรื่องนี้เบาๆ ไม่ต้องขยายผลไปถึงบุคคลอื่น จนถึงล่าสุดมีการเสนอเงินจำนวนหนึ่ง เพื่อขอจบเรื่องดังกล่าว

ทางด้าน พ.ต.อ.ธานินทร์ ฉัตรเจริญพร รอง ผบก.ฯ รรท.ผกก.สภ.เมืองราชบุรี โดยตำรวจได้ชี้แจงกับสื่อมวลชนเรื่องนี้ว่า ทางตำรวจไม่ได้มีการคุ้มผู้ต้องหาแบบวีไอพี แต่เป็นความประสงค์ของผู้ต้องหา ที่ไม่ต้องการให้สื่อมวลชนในการถ่ายภาพ ซึ่งเป็นสิทธิ์ในการร้องขอได้ 

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook