แม่ "น้องอาย" นศ.แพทย์ ยื่นข้อเสนอ มข. เยียวยา 66 ล้าน บัสคณะพยาบาลชนลูกดับ

แม่ "น้องอาย" นศ.แพทย์ ยื่นข้อเสนอ มข. เยียวยา 66 ล้าน บัสคณะพยาบาลชนลูกดับ

แม่ "น้องอาย" นศ.แพทย์ ยื่นข้อเสนอ มข. เยียวยา 66 ล้าน บัสคณะพยาบาลชนลูกดับ
แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook

แม่น้องอาย นักศึกษาแพทย์ ถูกรถบัสคณะพยาบาลชนดับกลางมหาวิทยาลัย ยื่นข้อเสนอเยียวยาจาก มข. 66 ล้านบาท ลั่นสูญเสียลูกประเมินค่าไม่ได้

วานนี้ (22 ส.ค.) ที่ ศปก.สภ.เมืองขอนแก่น นางนิตยา อายุ 55 ปี มารดาของ น.ส.อรุณนภา หรือ น้องอาย อายุ 19 ปี นักศึกษาแพทย์ ชั้นปีที่ 2 คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ซึ่งเสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถบัสของคณะพยาบาลศาสตร์ ชนจนเสียชีวิต บริเวณสามแยกคณะเภสัชศาสตร์ เมื่อวันที่ 10 ส.ค. ที่ผ่านมา เดินทางมาพร้อมด้วยครอบครัวและทนายความ เดินทางมาพบพนักงานสอบสวน สภ.เมืองขอนแก่น

นอกจากนี้ ยังมี รศ.เพียรศักดิ์ ภักดี รองอธิการบดีฝ่ายพัฒนานักศึกษาและนักศิษย์เก่าสัมพันธ์ในฐานะตัวแทนของมหาวิทยาลัยขอนแก่น และ ผศ.ดร.พักตร์วิไล ศรีแสง คณบดีคณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น (มข.) และคนขับรถบัสคันเกิดเหตุก็เดินทางมาด้วย เพื่อเจรจาว่า มข.จะมีการรับผิดชอบเยียวยาแก่ครอบครัวผู้ตายในเรื่องใดบ้าง โดยมี พ.ต.อ.ปรีชา เก่งสารกิจ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น พ.ต.ท.สุพรรณ สุขพิไลกุล รองผกก.สอบสวน และพนักงานสอบสวน ร่วมรับฟังการเจรจาของทั้งสองฝ่ายด้วย

หลังการเจรจากว่า 4 ชั่วโมง นางนิตยา อายุ 55 ปี มารดาของ น.ส.อรุณนภา หรือ น้องอาย ก็ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า การพูดคุยในครั้งนี้ ตัวแทนมหาวิทยาลัยขอนแก่น ได้ให้ทางครอบครัวเป็นผู้ยื่นข้อเสนอว่า ต้องการให้ มข. ช่วยเหลืออะไรบ้าง

ในฐานะมารดาของน้องอายจึงบอกไปว่า ในเรื่องความช่วยเหลือนั้น อยากให้ มข. คิดถึงคนทำหน้าที่แพทย์ เพราะอธิการบดี มข. ก็เป็นแพทย์น่าจะรู้และเข้าใจว่าการที่จะเรียนจบและมาทำหน้าที่แพทย์นั้นเป็นอย่างไร เมื่อเป็นแพทย์แล้วทำหน้าที่ตัวเองอย่างไรบ้าง ก็ขอให้เข้าใจในจุดนี้

เพราะการมาพูดคุยนั้น อยากคุยกับอธิการบดี มข. อยากรู้ความรู้สึกนึกคิด อยากรู้การแสดงออกที่เห็นว่ามีความรับผิดชอบ แต่อธิการบดีไม่มาส่งตัวแทนมา จึงเสนอไปว่าครอบครัวขอค่าเยียวยาการตายของน้องอาย กรณีที่เรียนจบแล้วได้เป็นแพทย์ ตั้งแต่อายุ 25 ปี จนถึงเกษียณราชการ อายุ 60 ปี ค่าจ้างวันละ 5,000 บาท รวมเป็นเงินประมาณ 66 ล้านบาท

"การเสนอค่าเยียวยาในครั้งนี้ก็รู้ว่าตัวแทนของ มข. ให้คำตอบไม่ได้ เพราะตัวแทน มข. ใช้คำว่า มข. ต้องนำเรื่องเข้าที่ประชุมของ มข.ก่อน จากนั้นก็ยื่นเรื่องเข้าที่ประชุมสภามหาวิทยาลัยขอนแก่น ตามขั้นตอน ซึ่งก็ยังไม่รู้ว่า สภาฯ จะนำเรื่องนี้เข้าเป็นญัตติของที่ประชุมหรือไม่"

แม่ของน้องอาย ยังกล่าวอีกว่า ตั้งแต่ลูกสาวเสียชีวิต มีเพียงคณบดีคณะพยาบาลศาสตร์ และเจ้าหน้าที่คณะพยาบาลที่มาดูแลเอาใจใส่ในทุกเรื่อง ต้องขอบคุณด้วย แต่อธิการบดีนั้นไม่เคยเห็นหน้า มีเพียงเจ้าหน้าที่มาแจ้งว่า อธิการบดีไม่สบาย

จากนั้นเจ้าหน้าที่ก็ให้เซ็นเอกสาร โดยบอกว่า เป็นเอกสารที่ มข. จะจ่ายเงินเยียวยานักศึกษาที่ศึกษาใน มข. จำนวน 130,000 บาท โดยบอกว่าจะโอนเงินเข้าบัญชีให้มารดาและบิดาคนละครึ่ง  แต่ผ่านไป 12 วันแล้ว ทุกอย่างยังนิ่ง ไม่มีเงินเข้าบัญชีแม้แต่บาทเดียว

ในขณะเดียวกัน ครอบครัวก็อยากได้ใบชันสูตรศพจากนิติเวช มข. เพื่อนำไปให้บริษัทประกันชีวิต เบิกเงินประกันของน้องอาย ที่อากง อาม่า ทำให้หลานสาว ขอ 3 ครั้ง ก็ยังไม่ได้ โดยรับคำตอบจากแพทย์นิติเวชว่า อยู่ระหว่างการส่งชิ้นเนื้อไปตรวจพิสูจน์ ก็เลยงงว่า ลูกสาวตายจากอุบัติเหตุ มีภาพให้เห็นอย่างชัดเจน ไม่ได้ป่วยเป็นโรคร้าย หรือติดเชื้อร้ายอะไร ทำไมต้องตรวจชิ้นเนื้อ ทำให้คลางแคลงใจมาก

การพูดคุยวันนี้สรุปว่า ตัวแทน มข. ให้ครอบครัวยื่นข้อเสนอไป  ซึ่งได้มีการนัดฟังคำตอบอีกครั้งในวันที่ 12 ก.ย. ที่จะถึงนี้ ถ้าเป็นไปได้ก็อยากให้ อธิการบดี มข. มาพูดคุยเอง ทุกอย่างจะได้จบลง ไม่ต้องยืดเยื้อไปอีก เพราะการสูญเสียของครอบครัวนั้น ไม่สามารถประเมินค่าได้ แต่ความรับผิดชอบของ มข. สามารถประเมินได้ ถ้าหากจะลงมือทำ ไม่ใช่ปล่อยให้ยืดเยื้อ คนเป็นแพทย์ น่าจะเข้าใจครอบครัว นักศึกษาแพทย์มากที่สุด

แชร์เรื่องนี้
แชร์เรื่องนี้LineTwitterFacebook